[Cannes Lions 2024] สรุปเนื้อหาจากเวที Elon Musk เปิดมุมมองต่อโฆษณา-อนาคตของ X-เทคโนโลยี AI และ Innovation แห่งอนาคต

  • 14
  •  
  •  
  •  
  •  

หนึ่งในไฮไลท์ของงาน Cannes Lions เทศกาลที่ร่วมตัวคนในอุตสาหกรรมครีเอทีฟและโฆษณาที่ใหญ่ที่สุดในโลก จัดขึ้นที่เมืองคานส์ ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 19 มิถุนายนที่ผ่านมา ก็คือการปรากฏตัวของ Elon Musk ผู้นำธุรกิจผู้บริหาร Tesla, SpaceX, Neuralink รวมไปถึงตำแหน่งล่าสุดอย่าง CTO ของ X หรืออดีตแพลทฟอร์ม Twitter ที่เรารู้จักกันดี นั่งพูดคุยบนเวทีกับ Mark Read CEO ของ WPP เอเจนซี่ระดับโลกที่เรียกว่าสร้างปรากฏการณ์ต่อแถวรอเข้า Hall นานนับชั่วโมง

สิ่งที่ทำให้ Musk เป็นที่สนใจในงานครั้งนี้มีอยู่หลายเรื่องโดยเฉพาะประเด็นกับบรรดาผู้ลงโฆษณาหรือ Advertiser ที่ Musk เคยให้ความเห็นอย่างดุเดือดเอาไว้กับกรณีที่ Advertiser ในแพลทฟอร์ม X หลายเจ้าประกาศจะถอนตัวออกจากการลงโฆษณาใน X เพราะกังวลว่าโฆษณาของแบรนด์จะไปปรากฏเคียงข้างกับเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม ซึ่งใน Session นี้ Musk ก็ตอบคำถามเหล่านี้ไว้อย่างน่าสนใจ นอกจากนี้ยังมีความเห็นเกี่ยวกับเทคโนโลยีแห่งอนาคต โดยเฉพาะ AI ด้วย

สารถึงวงการโฆษณา กับวลีเดือด “go f— yourself”

คำถามแรกที่ Read ยิงให้ Musk ก็คือ คอมเมนน์ของ Musk เองที่เคยให้สัมภาษณ์กับ CNBC ที่งาน DealBook Summit ปี 2023 ถึงการที่ผู้ลงโฆษณารายใหญ่ๆหลายรายขู่ที่จะถอนการลงทุนโฆษณาออกจาก X ซึ่งในเวลานั้น Musk ให้สัมภาษณ์ไว้อย่างดุเดือดว่า “ก็ไม่ต้องลงโฆษณาสิ ถ้าใครบางคนพยายามจะแบล็คเมล์ผมด้วยการโฆษณา หรือแบล็คเมล์ผมด้วยเงิน ละก็ go f— yourself” ​ คอมเมนท์ครั้งนั้นส่งผลให้ผู้ลงโฆษณารายใหญ่ๆหลายเจ้าถอนโฆษณาออกจริงๆ

อย่างไรก็ตามที่งาน Cannes Lions ครั้งนี้ Musk อธิบายถึงคอมเมนท์ของตัวเองในครั้งนั้นต่อหน้านักโฆษณาจากทั่วโลกยืนยันว่าคอมเมนท์นั้นเป็นการ “ยืนยันถึงเสรีภาพในการแสดงออก” มากกว่าที่จะมุ่งเป้าไปที่คนในอุตสาหกรรมโฆษณาโดยรวม

“คอมเมนท์นั้นไม่ได้หมายถึงผู้ลงโฆษณาทั้งหมด มันเป็นแสดงความเคารพกับเสรีภาพในการแสดงออก ผมคิดว่าการมีแพลทฟอร์มระดับโลกที่มีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น แพลทฟอร์มที่ผู้คนสามารถมีความคิดเห็นที่หลากหลายและมีมุมมองที่แตกต่างกันเป็นสิ่งสำคัญ” Musk ระบุ

Musk เล่าต่อว่า “ในบางกรณี ก็มีผู้ลงโฆษณาหลายรายที่ยืนยันให้มีการเซ็นเซอร์ แต่ในที่สุดแล้วถ้าเราต้องเลือกระหว่างการเซ็นเซอร์แล้วได้เงิน หรือ การมีเสรีภาพในการแสดงความเห็นแล้วเสียเงิน เราจะเลือกทางที่สองเสมอ”

เสรีภาพและความ Real คือสิ่งสำคัญของ X

Musk อธิบายเพิ่มเติมโดยยืนยันว่าแพลทฟอร์ม X สนับสนุนเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น

“เรากำลังสนับสนุนเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นมากกว่าที่จะยอมให้มีการเซ็นเซอร์เพื่อแลกกับเงินซึ่งผมคิดว่ามันเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องทางจริยธรรม” Musk ระบุ

Musk ย้ำว่าเข้าใจที่ผู้ลงโฆษณาต้องการให้แบรนด์ปรากฏเคียงข้างคอนเทนต์ที่เหมาะสม แต่ Musk ก็คิดว่ามันไม่ก็เป็นเรื่องที่ไม่โอเคเช่นกันที่ผู้ลงโฆษณาจะยืนกรานว่าแบรนด์ของตัวเองจะต้องไม่ปรากฏพร้อมๆกับคอนเทนต์ที่แบรนด์ไม่เห็นด้วย

Musk ย้ำความสำคัญของ Free Speech ด้วยว่า “ผมคิดว่าเสรีภาพในการแสดงออกเป็นรากฐานสำคัญของประชาธิปไตยและเพื่อให้ X เป็นพื้นที่สาธารณะสำหรับโลกใบนี้ พื้นที่นี้ต้องเป็นแพลทฟอร์มที่มี free speech ที่อยู่ในขอบเขตของกฎหมาย” Musk ระบุ

กับคำถามที่ว่าเคยเสียใจบ้างไหมกับสิ่งที่เคย Tweet ลงไปใน X แล้วกลายเป็นเรื่องเป็นราวอื้อฉาวตามมา Musk เองก็ยอมรับว่าบางครั้งก็เป็นความผิดพลาดที่กระทบกับตัวเองเช่นกัน แต่อย่างน้อยสิ่งที่ออกไปมันคือความจริง ความเรียล ที่ไม่ใช่การ PR

“เมื่อคุณเป็นมนุษย์ธรรมดาและคุณพูดอย่างเสรี มันก็จะบ้างที่คุณพูดแล้วท้ายสุดต้องมาเสียใจทีหลังหรือคิดว่าเป็นการพูดเรื่องโง่ๆ แต่ถ้าต้องพูดผ่านการกลั่นกรอง บางทีสิ่งนั้นมันก็ไม่เรียล” Musk ระบุ

Musk กับ โฆษณาบนแพลทฟอร์ม X

หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับโฆษณา Musk อธิบายแนวคิดของตัวเองเอาไว้ว่าโฆษณาที่คนดูแล้วอยากได้ก็คือคอนเทนต์ แต่ถ้าโฆษณาที่คนดูแล้วไม่อยากได้ หรือคนดูแล้วรู้สึกเสียเวลาชีวิตก็คือ Spam ดีๆนี่เอง

ถ้าคุณแสดงโฆษณาที่มีสินค้าหรือบริการที่คุณต้องการนั่นคือ content แต่ถ้าโฆษณาแสดงสินค้าที่คุณไม่มีทางคิดจะซื้อนั่นคือ Spam”

Musk ยังย้ำถึงความสำคัญของการ Target โฆษณาไปยังกลุ่มเป้าหมายที่ถูกต้องด้วยว่าเป็นสิ่งสำคัญ และอีกวิธีการวัดความสำเร็จสูงสุดของการโฆษณาก็คือผู้ชมรู้สึกเสียเวลาดูโฆษณานั้นหรือไม่ หรือคิดว่าสิ่งที่ได้ดูนั้นมีคุณค่า

นอกจากนี้ Musk ยังระบุถึงแพลทฟอร์ม X กับการโฆษณาด้วยว่า เวลานี้มีการพัฒนาการทำ targeting อย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะความสามารถในการ ยิงโฆษณาไปให้ตรงกลุ่มเป้าหมายที่กำลังเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบ AI ซึ่งระบบนี้จะทำงานด้วยวิธีการเดียวกันไม่ว่าจะเป็น Content ทั่วไปหรือจะเป็น Ads เพื่อให้เนื้อหาเหล่านั้นไปสู่คนที่สนใจเกี่ยวกับโฆษณาหรือคอนเทนต์นั้นๆได้

Musk ยังสื่อสารไปถึงผู้ลงโฆษณาที่ออกไปจาก X และอาจจจะกลับมาลงโฆษณาอีกครั้งด้วยว่า “มันคุ้มค่าที่จะลองและผมก็พร้อมรับเสียงวิพากษ์วิจารณ์กลับมาเช่นกัน X เน้นไปที่การแสดงโฆษณาไปยังผู้คนที่จะสนใจในสิ่งนั้นๆ เรามีความก้าวหน้าและจะทำให้มากกว่านี้อีก เรื่องนี้พิสูจน์ได้จากคะแนน brand safety ระดับ A+ จาก thirdpary”

Musk ยังย้ำถึงความพิเศษของแพลทฟอร์ม X ด้วยว่าแม้จะไม่ใช่แพลทฟอร์มที่มีผู้ใช้งานจำนวนมากที่สุดในโลกแต่ X เป็นแพลทฟอร์มเดียวที่จะสามารถเข้าถึงคนใหญ่คนโต ระดับผู้นำที่มีอำนาจในการตัดสินใจ เช่นผู้นำธุรกิจ ผู้นำประเทศ รวมถึงผู้เชี่ยวชาญในด้านต่างๆที่บางครั้งไม่ได้เล่นแพลทฟอร์อื่น ดังนั้น X จึงเป็นแพลทฟอร์มที่ดีที่สุดที่จะเข้าถึงคนที่มีอิทธิพลเหล่านี้ได้

Musk กับ AI พาโลกสู่ Age of Abundance

ในเวทีนี้ Musk ยังพูดถึงมุมมองที่มีต่อเทคโนโลยี AI ด้วยซึ่ง Musk เองก็มีมุมมองทั้งแง่บวกและแง่ลบซึ่ง Musk เห็นด้วยกับมุมมองของบิดาแห่ง AI อย่าง Geoffrey Hinton ที่บอกว่ามีโอกาสราว 10-20% ที่เทคโนโลยี AI จะทำให้เกิดผลลัพธ์ในเชิงลบ

ในแง่บวก Musk ระบุว่า AI จะนำโลกไปสู่ยุคสมัยที่เรียกว่า Age of Abundance หรือยุคสมัยที่ สินค้าและบริการมีพร้อมสำหรับทุกคน และไม่มีอะไรที่ขาดแคลนสำคัญทุกคนบนโลก เป็นโลกที่จะไม่มีคำว่า Universal Basic Income (UBI) หรือ สวัสดิการรายได้พื้นฐานถ้วนหน้า แต่จะเป็น รายได้สูงแบบถ้วนหน้าหรือ Universal High Income นอกจากนี้การทำงานก็เป็นสิ่งที่เลือกได้เพราะมี AI และ หุ่นยนต์มาช่วมนุษย์ทำงาน

อย่างไรก็ตาม Musk ระบุด้วยว่าผลกระทบเชิงลบที่แย่ที่สุดที่อาจเกิดขึ้นได้จากเทคโนโลยี AI ก็คือการสูญสิ้นมนุษยชาติ ซึ่ง Musk ระบุแบบทีเล่นทีจริงว่าถ้าจะเกิดขึ้นจริงก็อยากจะอยู่ดูสิ่งนี้เกิดขึ้นด้วยเหมือนกัน

ในเรื่องของ AI safety Musk ระบุว่าเป็นสิ่งที่น่ากังวลและสิ่งนี้เป็นแรงกระตุ้นให้ Musk ก่อตั้งบริษัท OpenAI ขึ้น

“เหตุผลที่ผมตั้ง OpenAI มีเป้าหมายเพื่อถ่วงดุลอิทธิพลของ Google ที่ครองตลาดส่วนใหญ่เอาไว้ในตอนแรก OpenAI ตั้งขึ้นมาด้วยเจตนาที่ดี ทำให้เป็นระบบ open source ซึ่งเป็นที่มาของชื่อบริษัท OpenAI ซึ่งผมตั้งขึ้นมาเอง แต่น่าเสียดายที่ในปัจจุบัน OpenAI กลายเป็น Closed Source และทำ AI เพื่อกำไรสูงสุดซึ่งต่างจากจุดประสงค์แรกเริ่ม” Musk ระบุ

ในแง่ AI กับความคิดสร้างสรรค์ก็เป็นเรื่องถูกพูดถึง เช่นกันเมื่อ Musk ระบุว่า AI จะสามารถสร้างสรรค์งานที่มีความเป็นต้นฉบับได้ไม่ว่าจะเป็นงานศิลปะ หรือแม้แต่เพลง ความเห็นซึ่ง Read แซวว่า สิ่งนี้อาจทำให้คนทั้งฮอลล์นี้ตกงานเลยก็ได้ เรียกเสียงฮาจากคอนในฮอลล์ที่ทำงานในสายครีเอทีฟได้ไม่น้อย

อย่างไรก็ตาม Musk ยืนยันว่า AI ก็จะยังสามารถยกระดับความสามารถของมนุษย์โดยเฉพาะความฉลาดให้มีมากขึ้นได้อย่างเช่นที่โครงการ Neuralink กำลังทำ และบอกด้วยว่า AI จะสามารถช่วยขยายขอบเขตความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์ออกไปได้เหมือนมีผู้ช่วยส่วนตัวคอยทำงานให้ในหลายๆสถานการณ์

มุมมองอนาคตของเทคโนโลยี

Read และ Musk ยังพูดถึงความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีที่จะเกิดขึ้นในอนาคต นอกจาก AI แล้วยังมีเทคโนโลยีหุ่นยนต์อย่าง Optimus ที่ Musk ระบุว่าพัฒนาขึ้นมาเพื่อเป็นผู้ช่วยที่สามารถทำงานแทนมนุษย์จริงๆได้ เช่นพาสุนัขไปเดินเล่น ดูแลบ้าน ดูแลเด็ก สอนการบ้าน ทำอาหาร หรือแม้แต่เล่นเปียโน

Musk ตั้งเป้าว่ามนุษย์จะมีหุ่นยนต์เป็นเพื่อนรวมถึงถูกนำไปใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตต่างๆ โดยคาดหมายว่าจะมีหุ่นยนต์ถูกผลิตออกมาใช้ในโลกราว 20 ล้านตัว

Musk พูดถึงเป้าหมายของ SpaceX ด้วยว่าไม่ได้มีเพียงเป้าหมายในการเป็นบริการขนส่งสิ่งของขึ้นสู่อวกาศคิดเป็นสัดส่วน 80% ของโลก แต่มีเป้าหมายที่ตั้งไว้ตั้งแต่เมื่อ 20 ปีก่อน ซึ่งไกลกว่านั้นก็คือการทำให้สิ่งมีชีวิตอยู่ได้ในดาวหลายๆดวง เพื่อขยายช่วงอายุขัยของจิตสำนักให้ยาวนานขึ้น

“จะทำสิ่งนั้นได้เราต้องส่งคนและเครื่องมือมากมายไปยังดาวอังคาร และหากทำได้เราก็จะก้าวข้ามพ้นการเป็นอารยธรรมบนดาวดวงเดียว และนั่นจะทำให้อายุขัยของอารยธรรมนั้นยาวนานยิ่งขึ้น จากนั้นเราก็จะสามารถไปได้ไกลกว่าแค่ระบบสุริยะจักรวาลของเราและไปสู่ระบบดวงดาวอื่น”Musk ระบุ และว่าทุกสิ่งทุกอยางที่ทำมีแรงบันดาลใจมาจากความอยากรู้อยากเห็ฯเกี่ยวกับธรรมชาติของจักรวาล

Musk พูดถึงโปรเจ็กต์ Starlink อินเตอร์เน็ตความเร็วสูงที่มีราคาเข้าถึงได้ทั่วโลก รวมถึงโปรเจ็กต์ Neuralink ที่มีเป้าหมายให้มนุษย์สามารถฝังเทคโนโลยี AI ในร่างกายและอยู่ร่วมกันได้ โดย Musk ยกตัวอย่าง มนุษย์ที่ฝัง Neuralink ไว้ในร่างกายแล้วก็สามารถควบคุมคอมพิวเตอร์รวมถึงเล่นวิดีโอเกมได้เพียงแค่ “คิด” โดยวิธีการปลูกถ่ายดังกล่าวนี้เรียกว่า Telepathy

วิธีการนี้ Musk ตั้งเป้าที่จะทำให้สามารถรักษาผู้ป่วยอัมพาตที่ได้รับบาดเจ็บที่กระดูกสันหลังให้สามารถกลับมาเคลื่อนไหวได้ และเปิดเผยด้วยว่าวิธีการนี้มีการทดลองในสัตว์แล้วซึ่งผลการทดลองก็ออกมาดีเลยทีเดียว

Musk กับมุมมองต่อสื่อสารมวลชน

Musk ไม่ได้มีมุมมองเป็นบวกเท่าไหร่นักกับบทบาทของสื่อสารมวลชน โดย Musk มองว่า X จะกลายเป็นแพลทฟอร์มข่าวสารใหม่ที่ดีกว่าสื่อสารมวลชนแบบเดิม

“ผมคิดว่ามันจะเป็นโมเดลของข่าวแบบใหม่ ที่จะเป็นการวบรวมข้อมูลจากผู้คนที่อยู่ในจุดเกิดเหตุ คนที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องนั้นๆ ไม่ว่าจะมีเหตุการณ์อะไรที่กำลังเป็นที่พูดถึง รวมรวมทั้งหมดนั้นมาสู่กระดานข่าวแบบเรียลไทม์” Musk ระบุ

อีกเหตุผลของ Musk ก็คือเมื่อบทความหรือข่าวแบบเดิมที่ตีพิมพ์มีความผิดพลาดไม่สามารถแก้ไขกลับมาให้ถูกต้องได้ ในขณะเดียวกับผู้เชี่ยวชาญในสายงานต่างๆก็มีความรู้ความเชี่ยวชาญมากกว่านักข่าว หรือแม้แต่การเข้าถึงแหล่งข่าว คนที่อยู่ในจุดเกิดเหตุก็จะมีข้อมูลที่ถูกต้องมากกว่า และจากเหตุผลนี้ Musk ระบุว่าว่าสิ่งนี้ก็เป็นเหตุผลที่ AI ควรจะมีความสามารถในการพิสูจน์ความจริงด้วยเช่นกัน

ทั้งหมดนี้คือมุมมองของ Elon Musk หนึ่งในบุคคลทรงอิทธิพลในวงการธุรกิจและเทคโนโลยีที่คนทั่วโลกต้องจับตามอง และความคิดความเห็นของ Elon Musk ในงาน Cannes Lions ครั้งนี้ก็น่าจะทำให้เห็นทิศทางของแพลทฟอร์ม X รวมถึงได้เห็นภาพอนาคตเทคโนโลยีในมุมมองของ Musk มากขึ้น และแน่นอนว่าน่าจะเปลี่ยนมุมมองของ Advertiser ที่มีต่อแพลทฟอร์ม X ไปบ้างไม่มากก็น้อย


  • 14
  •  
  •  
  •  
  •  
Tukko Nathida
ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ MarketingOops.com กับความตั้งใจในการนำเสนอเนื้อหาที่ทันเหตุการณ์ และเกิดประโยชน์ ให้สามารถนำเนื้อหาความรู้ และ Insight ไปต่อยอดกับอนาคตของธุรกิจ และการทำงานที่เกี่ยวข้องกับ เทคโนโลยี ครีเอทีฟ การตลาด โฆษณา และสตาร์ทอัพ