ในปี 2019 มีประชากรผู้สูงอายุ (อายุ 60 ปีขึ้นไป) หรือที่เรียกว่ากลุ่ม “Silver Gen” มากกว่า 1,000 ล้านคนทั่วโลก และคาดการณ์ว่าในปี 2050 จะเพิ่มขึ้นเป็น 2,000 ล้านคน ซึ่งปัจจุบันประเทศที่มีประชากรผู้สูงอายุมากที่สุดในโลกคือ ญี่ปุ่น ขณะที่ประเทศไทย คาดว่าในอีก 8 ปีข้างหน้าจะเข้าสู่ Super Aged Society
เมื่อกลุ่ม Silver Gen มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จึงเป็นหนึ่งในเซ็กเมนต์การตลาดที่มีศักยภาพสูงที่ธุรกิจ หรือแบรนด์ควรให้ความสำคัญ เพราะเป็นกลุ่มที่มีทั้งเวลา กำลังซื้อ และใช้เทคโนโลยีในชีวิตประจำวันไม่น้อยไปกว่า Young Generation
Digital IQ Academy, SilverActif และ Marketing Oops! ร่วมกันจัดสัมมนา “Silver Gen Marketing” หนึ่งในไฮไลต์น่าสนใจคือ หัวข้อ The Silver Gen World and the Global Trends โดย คุณรัชดา อภิรมย์เดช ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ SimpleWork ซึ่งเป็นพาร์ทเนอร์กับ Trend Watching บริษัทวิจัยเทรนด์ผู้บริโภคชั้นนำระดับโลก ได้ฉายภาพเทรนด์กลุ่ม Silver Gen จากรายงาน Trend Watching
“ญี่ปุ่น” ผู้สูงอายุมากที่สุดในโลก – คาดอีก 8 ปีข้างหน้า “ไทย” เข้าสู่ระดับ Super Aged Society
ก่อนเจาะลึกรายงาน Trend Watching มาอัปเดตภาพรวมประชากรกลุ่ม Silver Gen ทั่วโลกกันว่าเป็นอย่างไร และผู้บริโภคกลุ่มนี้ นิยมใช้ Social Media อะไร ?!?
– ปี 2019 ทั่วโลกมีประชากรผู้สูงอายุ (อายุ 60 ปีขึ้นไป) มากกว่า 1,000 ล้านคน
– ปี 2050 ประชากรผู้สูงอายุ จะเพิ่มขึ้นเป็น 2,000 ล้านคนทั่วโลก
– ภูมิภาคเอเชีย มีสัดส่วนผู้สูงอายุมากที่สุดและเติบโตเร็วที่สุดในโลก
– ญี่ปุ่น เป็นประเทศที่มีผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไปมากที่สุดในโลก ด้วยสัดส่วนกว่า 29% ของประชากรประเทศ ตามมาด้วยอิตาลี 24.1% และฟินแลนด์ 23.3%
– อย่างไรก็ตามในปี 2050 ฮ่องกง และเกาหลีใต้ จะแซงญี่ปุ่นขึ้นมามีประชากร Silver Gen มากที่สุดในโลก
สำหรับประเทศไทย เป็นประเทศที่มีอัตราการเติบโตของประชากรสูงวัยเร็ว
– ปี 2005 ประเทศไทยเข้าสู่ Aging Society คนที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป มีสัดส่วนกว่า 10% ของประชากรทั่วประเทศ
– ปี 2022 ไทยเข้าสู่ระดับสังคมผู้สูงวัยโดยสมบูรณ์ (Aged Society)
– ในอีก 8 ปีข้างหน้า ประเทศไทยจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มที่ (Super Aged Society) คือ ประชากรอายุ 65 ปีขึ้นไป มีมากกว่า 20% ของประชากรทั้งประเทศ ซึ่งนั่นหมายความว่าอีกไม่กี่ปี สัดส่วนประชากรผู้สูงอายุไทยกำลังใกล้เคียงกับญี่ปุ่น
ขณะที่แพลตฟอร์ม Social Media ที่ Silver Gen ทั่วโลกนิยมใช้มากที่สุดคือ
1. Facebook
2. YouTube
3. TikTok
ถึงแม้ Silver Gen จะเป็นประชากรกลุ่มใหญ่ แต่ปัจจุบันแบรนด์ หรือนักการตลาดยังจัดสรรงบการตลาดใช้สำหรับผู้บริโภคกลุ่มนี้เพียง 10% เท่านั้น และบางแบรนด์ก็ใช้งบกับผู้บริโภคกลุ่มนี้น้อยกว่านั้น ขณะที่ส่วนใหญ่จัดสรรงบให้กับกลุ่ม Gen Millennials และ Gen Z
ดังนั้นถึงเวลาแล้วที่แบรนด์ หรือธุรกิจควรให้ความสำคัญกับกลุ่ม Silver Gen ซึ่งเป็นผู้บริโภคที่มีทั้งเวลา กำลังซื้อ และใช้เทคโนโลยีในชีวิตประจำวันไม่น้อยไปกว่า Young Generation
เจาะลึก 3 เทรนด์ Silver Gen สู่การพัฒนานวัตกรรมสินค้า-บริการ และการสื่อสารผ่านคอนเทนต์ ชนะใจคนสูงวัย
1. เทรนด์ “Autonomous Seniors” กลุ่มคน Silver Gen ใช้เทคโนโลยีอัจฉริยะ เพื่อชีวิตอิสระและเต็มที่
เมื่อพูดถึง Silver Gen ในปัจจุบัน แตกต่างจากที่ผ่านมา เพราะส่วนใหญ่ยังเป็น Active Consumer ที่มีไลฟ์สไตล์และการใช้ชีวิตกระชับกระเฉง ดูแลตัวเอง ดูแลสุขภาพ ใช้เทคโนโลยี และชอบเรียนรู้สิ่งใหม่ โดยบางคนเป็นระดับ Tech Savvy มีความรู้เรื่องเทคโนโลยี และใช้งานได้อย่างคล่องแคล่ว
– ผู้สูงวัยกลุ่ม Active Consumer ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ในประเทศไทยมี 1 ใน 3 ยังทำงาน
– ตัวอย่าง Silver Gen ที่เรียนรู้เทคโนโลยี จนกลายเป็น Tech Savvy คือ Chiang Yi-Shu เกมเมอร์อายุ 65 ปีชาวไต้หวัน และเป็นนักกีฬา e-Sport โดยทั้งเธอและเพื่อนได้เข้าร่วมแข่งขันกีฬา e-Sport และสามารถทำผลงานได้ดี ซึ่งด้วยความที่อยู่ในวัยเกษียณ ทำให้มีเวลาในการฝึกซ้อมการเล่นเกมได้อย่างเต็มที่
– การเพิ่มขึ้นของ Silver Gen ผลักดันให้ตลาด Health & Wellness เติบโตตาม จะเห็นได้ว่าปัจจุบันมี Startup และบริษัท Big Tech ทั้งหลายกระโดดเข้ามาในตลาด Health & Wellnes
นี่จึงนำไปสู่เทรนด์ “Autonomous Seniors” เพื่อผู้บริโภคกลุ่ม Silver Gen สามารถใช้เทคโนโลยีอัจฉริยะ (Smart Technology) ช่วยให้ใช้ชีวิตได้อย่างอิสระ และใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่ ลดการพึ่งพาลูกหลาน
ตัวอย่างเช่น
– ELLIQ: เทคโนโลยีคอนเซ็ปต์ Virtual Companion เป็นเพื่อนเสมือนจริงที่ออกแบบสำหรับผู้สูงอายุโดยเฉพาะ ทั้งพูดคุยด้วย และแจ้งเตือนในเรื่องสำคัญต่างๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น รับประทานยา พบแพทย์ตามนัด ออกกำลังกาย โทรคุยกับลูกหลาน
เพราะ Silver Gen อาจรู้สึกเหงา หรือโดดเดี่ยว ซึ่งมีผลกระทบต่อ Mental Health ดังนั้นเทคโนโลยีเพื่อoเสมือนจริง จึงตอบโจทย์กลุ่ม Silver Gen
– MONUTA: เทคโนโลยี AI มาช่วยปลดล็อคในสิ่งที่มนุษย์ทำไม่ได้ในตอนที่ตัวเองไม่อยู่แล้ว อย่างการวางแผนจัดการงานศพเอาไว้ล่วงหน้า
– MIRAI: ลำโพงอัจฉริยะช่วยให้ Silver Gen ดูทีวีได้ชัดเจนขึ้น สนุกขึ้น ออกแบบโดยทีมวิศวกรเกษียณแล้วในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งพัฒนาจาก pain point ของผู้สูงวัยมักประสบปัญหาการดูหนัง ฟังเพลง แล้วเห็นภาพ หรือได้ยินเสียงไม่ค่อยชัด แต่เพียงนำลำโพงนี้ไปติดกับทีวี ก็จะได้ยินเสียงชัดขึ้น ทำให้สนุกกับการรับชมทีวีมากขึ้น
– CAN: ไม้เท้าอัจฉริยะที่ผสานระหว่าง “ไม้เท้า” ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้สูงอายุใช้ในชีวิตประจำวันอยู่อยู่แล้ว เข้ากับ “เทคโนโลยี AI” ออกแบบและพัฒนา เพื่อช่วยด้านความปลอดภัย และใช้งานง่าย โดยบริเวณที่จับไม้เท้า มีจอแสดงเวลา ตรวจจับการล้ม การติดตามกิจกรรมในชีวิตประจำวันของผู้ใช้งาน ตำแหน่ง GPS และโทรฉุกเฉิน เพื่อแชร์ข้อมูลเหล่านี้ให้กับสมาชิกในครอบครัว และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
ดังนั้นในการออกแบบสินค้า หรือบริการ เพื่อทำตลาดกลุ่ม Silver Gen สามารถปรับใช้กับเทรนด์ Autonomous Seniors ด้วยการพัฒนาสินค้า–บริการที่ผสานเทคโนโลยีที่สะดวก ใช้งานง่าย ช่วยให้ใช้ชีวิตได้อย่าง Smart Life
2. Grey Narrative การแสดงตัวตนในมิติ Nostalgia – Authenticity – Experienced Stories
ทุกวันนี้เราจะเห็นคอนเทนต์ Influencer หรือ Creator มากมายที่รีวิวเกี่ยวกับไลฟ์สไตล์กิน-เที่ยว-ช้อปตามร้านเก๋ หรือร้านหรู แต่ขณะเดียวกันก็มีอีกกระแสคือ “Real-life Content” รีวิวชีวิตจริง หรือตัวตนของคนๆ นั้น อย่างเทรนด์อินฟูลเอนเซอร์กลุ่ม Silver Gen หรือที่เรียกว่า “Granfluencers” นำเสนอคอนเทนต์แนว Grey Narrative ที่สะท้อนถึงการหวนนึกถึงวันวาน (Nostalgia), ความจริงแท้ ตรงไปตรงมา (Authenticity) และ Experienced Stories การเล่าผ่านประสบการณ์ในอดีต
โดยหลายคนที่เป็น “Granfluencers” มีผู้ติดตามจำนวนมาก ซึ่งคนที่ติดตามไมใช่แค่คนรุ่นราวคราวเดียวกันเท่านั้น แต่เป็นกลุ่ม Gen Z เข้ามาติดตาม เพราะชอบในคอนเทนต์ที่เล่าถึงวันวาน มีความตรงไปตรงมา และมาจากประสบการณ์จริงของ Silver Gen
ตัวอย่างเทรนด์ Grey Narrative เข่น
– Vogue Philippines นำศิลปิน Tattoo Artist ชาวฟิลิปปินส์มาขึ้นปก Vogue ฟิลิปปินส์ ซึ่งเธอมีอายุ 106 ปี ถือว่ามากที่สุดของคนที่เคยขึ้นปก Vogue และมีเรื่องราวน่าสนใจเกี่ยวกับการทำ Traditional tattoo เป็นหนึ่งตัวอย่างของ Grey Narrative ในการเอาเรื่องราวและประสบการณ์ของผู้สูงวัย Silver Gen มาเล่าสู่กันฟัง
– Walgreens เชนร้านขายยารายใหญ่ของอเมริการ พัฒนาแอปพลิคชันสั่งยา รวมถึงให้คำแนะนำ คำปรึกษา และการแจ้งเตือนการกินยา โดยดึงอินฟูลเอนเซอร์กลุ่ม “Old Gays” ซึ่งเป็น Granfluencers และเป็นนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิ LGBT+ มาบอกเล่าประสบการณ์การดูแลสุขภาพของตนเอง มาร้อยเรียงเข้ากับแอปฯ ของ Walgreens ที่ให้คำปรึกษาด้านยา
– ZARA แบรนด์ฟาสต์แฟชั่นที่สนับสนุนให้ไม่มีการเหมารวมคุณลักษณะของคนสูงอายุ ได้ดึง Angela Molina ชาวสเปนอายุ 67 ปีมาเป็นนางแบบ โดยเธอได้รับการยกย่องว่าเป็น Celebrity ที่ยังดูดี และไม่ได้ทำศัลยกรรมใดๆ ทุกอย่างเป็นตามธรรมชาติ เพื่อบอกจุดยืนของแบรนด์ ZARA
จะเห็นได้ว่าตัวอย่างแบรนด์ที่ยกมานั้น ไม่ใช่แบรนด์ที่ทาร์เก็ตเฉพาะกลุ่ม Silver Gen เท่านั้น แต่ได้ดึง Story ของคนกลุ่มนี้มาเป็นตัวแทนการเล่าเรื่องผ่านตัวตน และประสบการณ์ของ Silver Gen คนๆ นั้น
3. Omnibility ตอบโจทย์ความสะดวกทุกที่ ทุกเวลา
การพัฒนาสินค้า และบริการที่ตอบโจทย์ทั้ง Mobility, Anytime และ Anywhere
ตัวอย่างเช่น
– Ping An Good Doctor ตั้งตู้ One-minute Clinics พร้อมทั้งกระจายตู้ไปตามพื้นที่ต่างๆ ที่คลินิก หรือโรงพยาบาลเข้าไม่ถึง เพื่อให้คนในพื้นที่นั้นๆ เข้าถึงการแพทย์ได้อย่างทั่วถึง โดยให้ปรึกษาโรคพื้นฐานทั่วไปด้วย AI และสามารถรับยาได้เลย แต่ถ้าเป็นโรคที่ต้องได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ สามารถต่อสายตรงให้คุยกับแพทย์ผ่าน Virtual และรับยาได้ ซึ่งหากเกิดกรณียาไม่มีในสต็อค จะดำเนินการจัดส่งให้ภายใน 30 นาทีตามระยะทางรัศมีที่กำหนด
– Ogilvy & Shanghai ร่วมกับรัฐบาลที่เซียงไฮ้ พบว่าผู้สูงวัยในจีนมากถึง 140 ล้านคนที่เสี่ยงต่อการถูกทิ้ง และไม่สามารถใช้ชีวิตได้ด้วยตัวเอง จึงพัฒนา QR Code ติดตามจุดต่างๆ ของพื้นที่สาธารณะ เช่น ป้ายรถเมล์ รถไฟฟ้า เพื่อให้ผู้สูงวัย Silver Gen สามารถสแกน QR Code ได้ และเข้าถึงแพลตฟอร์มที่ใช้ง่ายๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น แพลตฟอร์มเรียกรถ และแพลตฟอร์มบริการต่างๆ
– Uber Health จับมือกับ American Logistic พัฒนาแพลตฟอร์มเรียกรถ Uber รองรับกลุ่ม Silver Gen โดยเฉพาะที่ต้องการเรียกรถที่มีพื้นที่พิเศษ เช่น พื้นที่จัดเก็บรถเข็น หรืออุปกรณ์อำนวยความสะดวกให้กับผู้สูงวัย รวมทั้งระบบเชื่อมต่อกับสถานพยาบาลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาล หรือคลินิก
– Parsley Box บริการจัดส่งอาหารสุขภาพ และสามารถ tailor รสชาติได้ และส่งไปตามที่ต่างๆ โดยใช้แพ็คเกจจิ้งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
– Beck’s ออกเบียร์สำหรับ Silver Gen ตอบโจทย์อินไซต์แม้สูงวัย แต่ก็ยังอยากดื่มเบียร์ โดยทำรสชาติให้ขมขึ้น เนื่องจากการรับรสชาติของคนสูงอายุเปลี่ยนไป นอกจากนี้ยังมี Gimmick การตลาดที่น่าสนใจคือ ไม่ใช่ว่าใครจะซื้อเบียร์นี้ได้ เพราะต้องสแกน ID Card เพื่อเช็คอายุว่า 70 ปีขึ้นไปหรือไม่ ถึงจะซื้อได้ รวมทั้งจัดอีเว้นท์สำหรับคนอายุ 70 ปีขึ้นไปด้วย
นี่คือ 3 เทรนด์การพัฒนานวัตกรรมสินค้า–บริการ และการสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่ดึงเอาอินไซต์ รวมทั้งประสบการณ์ และเรื่องราวในอดีต ของกลุ่ม Silver Gen มาต่อยอดสู่การพัฒนาสินค้าและบริการรูปแบบต่างๆ เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคกลุ่ม Silver Gen ซึ่งเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่มีศักยภาพสูง และโอกาสทางการตลาดมหาศาลที่ธุรกิจ หรือแบรนด์ไม่ควรมองข้าม
อ่านเพิ่มเติม: Exclusive : อัพเดท Insight ลูกค้า Silver Gen ตลาดที่เติบโตสูงจากกูรูตัวจริง ทำการตลาดอย่างไรให้เข้าถึงคนวัยแซ่บ