กรณีศึกษา RAAS PAL จากบริษัทขายหุ่นยนต์สู่ผู้นำ Robotic Solution & Facility Management เปิดแนวคิด CEO ยืนยันหุ่นยนต์ไม่แย่งงานมนุษย์

  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

 

เทคโนโลยี Robotic ระบบ Automation รวมถึง AI ในปัจจุบันกำลังพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ ปฏิเสธไม่ได้ว่าเทคโนโลยีเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่เทคโนโลยีที่จะเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน เพิ่ม Productivity ลดต้นทุน รวมถึงช่วยสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจได้เท่านั้น แต่ยังเป็นอุตสาหกรรม S-Curve ที่กลายเป็นธุรกิจใหม่ ๆ ได้ต่อไปได้ด้วย

เช่นเดียวกับบริษัท RAAS PAL บริษัทผู้ให้บริการ Automation Solutions ไปจนถึงบริการ Facility Management ที่ประสบความสำเร็จและส่งมอบหุ่นยนต์บริการสร้างระบบ Automation ให้กับธุรกิจทั่วประเทศไทยแล้วมากกว่า 1,500 ตัว ซึ่งในจำนวนนั้นส่วนใหญ่คือหุ่นยนต์เสิร์ฟอาหารในร้านอาหารแบรนด์ดังๆหลายร้านในประเทศไทย รวมถึงหุ่นยนต์ทำความสะอาดที่สนามบิน 4 แห่งทั่วประเทศที่เราคุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดี

 

 

จับเทรนด์ S-Curve สร้างธุรกิจใหม่

คุณสุกัญญา วนิชจักร์วงศ์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท RAAS PAL เล่าถึงจุดเริ่มต้นของบริษัท RAAS PAL ว่ามองเห็นโอกาสจากเทคโนโลยี Robot และระบบ Automation ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2019 เดิมคุณสุกัญญาเคยบริหารบริษัทแห่งหนึ่งที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับ Call-Center ในระบบ CRM ที่เคยเป็นอุตสาหกรรม S-Curve เมื่อ 20 ปีก่อน แต่ช่วงหลังธุรกิจเริ่มมีแนวโน้มการเติบโตลดลงเรื่อย ๆ จึงต้องมองหาอุตสาหกรรม S-Curve ใหม่ ๆ จึงขออนุมติเจ้าของบริษัทแห่งนั้น เปิดบริษัทลูกที่ทำธุรกิจหุ่นยนต์ทำความสะอาดและให้บริการ Robotic Process Automation (RPA) ก่อนที่จะลาออกมาทำธุรกิจของตัวเองในปี 2020 และเปิดบริษัท RAAS PAL ขึ้นในที่สุด

 

 

“เมื่อ 20 ปีที่แล้วธุรกิจ CRM ที่เคยติด Top 10 ธุรกิจที่จะเติบโต แต่ไม่กี่ปีที่ผ่านมากลับกลายเป็นธุรกิจที่ไม่มีแนวโน้มเติบโต กลับมาติด Top 10 ของธุรกิจที่มีแนวโน้มขาลง บวกกับเริ่มมี AI มา Disrupt จึงต้องหา S-Curve ใหม่นำเงินมาพัฒนาธุรกิจใหม่ ซึ่งในมุมมองก็คิดว่า Robot น่าจะมา” คุณสุกัญญา เล่า

 

โอกาสของธุรกิจ Service Robot เปิดกว้าง

คุณสุกัญญาเล่าว่า สำหรับตลาดหุ่นยนต์ในประเทศไทยว่าปัจจุบันจะมีหลัก ๆ อยู่ 2 Segment ก็คือ Industrial Robot กับ Service Robot ซึ่งสำหรับ Industrial Robot นั้นมีคนนำเข้ามาสร้างธุรกิจอยู่ก่อนแล้วซึ่งการเข้าไปศึกษาข้อมูลต่างๆก็ทำให้เราเห็นว่าสามารถเข้ามาแก้ปัญหาในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ได้มากมาย สามารถเพิ่มกำลังผลิตได้ 3 เท่าด้วยต้นทุนที่น้อยลงได้ สิ่งนี้ทำให้คุณสุกัญญา ที่เคยมีประสบการณ์กับระบบ Robotic Process Automation มองว่าเป็นไปได้ที่ Service Robot จะประสบความสำเร็จได้เช่นกัน

 

 

RAAS PAL นับว่าเป็นบริษัทแรก ๆ ที่นำหุ่นยนต์บริการมาเป็นทางเลือกให้กับธุรกิจและอุตสาหกรรมด้านต่าง ๆ  โดยคุณสุกัญญาเล่าว่าลูกค้ารายแรก ๆ ของ RAAS PAL จะเป็นโรงพยาบาลที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่และมีคนทำงานไม่เพียงพอรวมถึงร้านอาหารที่จะเข้ามาในช่วงต้น ๆ ของการแพร่ระบาดของโควิด-19 เนื่องจากคนหวาดกลัวการสัมผัส ดังนั้น Service Robot ในช่วงแรกก็จะมีหุ่นยนต์ Delivery Robot และ Cleaning Robot ให้บริการเป็นส่วนใหญ่

 

 

ตลาดเปลี่ยนแปลงเพิ่ม Solution ตอบโจทย์ตลาดให้มากขึ้น 

คุณสุกัญญา ระบุว่า RAAS PAL โฟกัสเรื่อง Service Robot ฉะนั้นจึงมองไปที่อุตสาหกรรมที่หาแรงงานยากและนำหุ่นยนต์มาทำทดแทนเช่นงานแม่บ้านที่ทุกวันนี้เริ่มหาคนทำงานได้น้อยลง ร้านอาหารที่ปัจจุบันเราเห็นแทบทุกร้านติดประกาศรับสมัครพนักงานเสิร์ฟ หรือแม้แต่บางร้านต้องปิดตัวไปเพราะไม่มีเชฟ หรือแม้แต่งานรักษาความปลอดภัยที่มนุษย์ยังมีข้อจำกัด

นั่นทำให้ RAAS PAL เน้นไปที่หุ่นยนต์ทำความสะอาดที่ทั้งสามารถดูดฝุ่นรวมถึงถูพื้นได้โดยอัตโนมัติ ซึ่งคุณสุกัญญา ระบุว่าเป็นหุ่นยนต์จากผู้ผลิตหุ่นยนต์ทำความสะอาดอันดับ 1 ของโลกที่ส่งออกไปยัง 40-50 ประเทศทั่วโลก โดยจะมีให้เลือกถึง 5 รุ่นตั้งแต่เล็กถึงใหญ่

 

 

นอกจากนี้ยังมีหุ่นยนต์ Delivery ทั้งแบบที่สามารถเสิร์ฟอาหารแบบที่คุ้นหน้าคุ้นตาในร้านอาหารต่าง ๆ หรือหุ่นยนต์ Delivery ที่สามารถส่งพัสดุได้ทั้ง indoor และ outdoor สามารถขึ้นลิฟต์ไปยังอาคารที่มีหลายชั้นได้ รวมไปถึงหุ่นยนต์ Delivery ที่สามารถรองรับของหนักได้ถึง 200-300 กิโลกรัมก็มีเช่นกัน

ในเรื่องความปลอดภัย RAAS PAL ก็นำ Security Robot เข้ามาให้บริการด้วยเช่นกันเป็นหุ่นยนต์ที่ได้รับรางวัลมาตรฐานด้านความปลอดภัยมีความสามารถในการจดจำใบหน้า ตรวจจับพฤติกรรมผิดสังเกต ตรวจจับควัน ตรวจจับความผิดปกติในอาคารเช่นน้ำรั่ว และอื่น ๆ ที่เป็นความสามารถที่ยักระดับเหนือการทำงานของมนุษย์ไปมากมาย

คุณสุกัญญาระบุว่า ในอนาคตกำลังจะขยายตลาดไปสู่การนำ Cooking Robot เข้ามาสู่ตลาดที่สามารถตอบสนองครัวเรือนที่ไม่มีแม่บ้านหรือแม่ครัว ตอบโจทย์ตลาดร้านอาหาร ศูนย์อาหารหรือโรงอาหารของสถานศึกษา สามารถทำอาหารเลี้ยงคนเยอะระดับ 100 คนได้ สร้างมาตรฐานในการกำหนดรสชาติอาหารเพิ่มความสะดวกสบายโดยเตรียมเพียงแค่วัตถุดิบและเครื่องปรุงเท่านั้น

 

 

จากบริษัท “ขายหุ่นยนต์” สู่ผู้นำ Automation Solution และ Facility Management

หลังก่อนตั้งบริษัทบริษัท RAAS PAL ก็เริ่มต้นด้วยการ educate ตลาดเรื่อยมาทั้งรูปแบบของหุ่นยนต์ที่แตกต่างกันในการตอบโจทย์ทางธุรกิจรูปแบบต่าง ๆ สร้างยอดขายหุ่นยนต์ให้เติบโตขึ้นมาเรื่อย ๆ ก่อนจะพัฒนามาเป็น Solution ให้กับลูกค้า โดยบริษัทจะเข้าไปศึกษา Pain Point ของแต่ละองค์กรก่อนแล้วนำเสนอ Automation Solution ที่เหมาะสมเพื่อให้ช่วยเพิ่ม Productivity ในการทำงานบางอย่าง แก้ปัญหาหรืออุดช่องโหว่บางอย่างให้ จนล่าสุด RAAS PAL พัฒนามาสู่บริการ Facility Management ที่สามารถบริหารจัดการดูข้อมูลจากกระบวนการต่าง ๆ พร้อม ๆ กับหุ่นยนต์ได้ผ่านแพลทฟอร์มเดียวกันได้

โดย RAAS PAL มีบริการแบบครบวงจรตั้งแต่ ให้คำปรึกษาและนำเสนอบริการ ออกแบบและพัฒนาโซลูชั่น พัฒนาแอปพลิเคชั่น ส่ง Robot ทำงานจริงตั้งแต่การวางแผน ทดสอบ ทำ Mapping ไปสู่การใช้งานจริง สามารถ integrate กับระบบที่มีอยู่เดิมแล้ว รวมไปถึงบริการหลังการขายในการซ่อมบำรุงหุ่นยนต์ โดยสามารถให้บริการได้ทั้ง อาคารสำนักงาน ร้านอาหาร ไล่ไปจนถึง โรงแรม โรงพยาบาล โรงงาน ศูนย์ประชุม คอนโดมิเนียม มหาวิทยาลัย รวมถึงห้างสรรพสินค้า ก็มีพร้อมให้บริการ

ในแต่ละ Solution RAAS PAL จะมี Robot รองรับทั้ง “Reception Robot” ให้การต้อนรับ “Cleaning Robot” ทำความสะอาด “Security Robot” หุ่นยนต์รักษาความปลอดภัย “Delivery Robot” หุ่นยนต์ขนส่ง “Cooking Machine” หุ่นยนต์ทำอาหาร รวมไปถึงระบบกล้องวงจรปิด ยานพาหนะขนส่งทั้งภายในและภายนอกอาคาร เรื่อยไปจนถึง “Self Driving Truck” รถบรรทุกขับเคลื่อนอัตโนมัติ ก็มีด้วยเช่นกัน

“เรื่อง Facility Management Platform นั้นก็จะทำให้รู้ว่าหุ่นยนต์ทำงานไปแล้วเท่าไหร่ อย่างไรบ้าง เช่นในโรงพยาบาลที่ต้องบริหารจัดการ facility ในเรื่องของการทำ asset management พื้นที่ต่าง ๆ แม่บ้าน ห้องน้ำ สุขภัณฑ์ และวัสดุสิ้นเปลือง ทั้งหมดนี้จะบริหารจัดการอยู่บนแพลทฟอร์มเดียวกันได้ กดปุ่มแล้วเห็นเลยว่า หุ่นยนต์ทำไปแล้วกี่เปอร์เซ็นต์ อุปกรณ์นี้อยู่ตรงไหน ห้องน้ำสะอาดหรือยัง ส่งสัญญาณห้องน้ำสกปรกที่มือถือได้ ให้แม่บ้านเข้าไปทำงานได้ ช่วยให้แม่บ้านไม่ต้องอยู่ในห้องน้ำตลอดเวลา สามารถไปทำงานอื่น ๆ ได้ หรือควบคุมตัวหุ่นยนต์แทนได้ เป็น total solution” คุณสุกัญญาระบุ

 

หุ่นยนต์ไม่ได้แย่งงานมนุษย์แต่จะมาช่วยมนุษย์ทำงานได้ดีขึ้น

CEO หญิงแกร่งแห่ง RAAS PAL ยืนยันด้วยว่า Automation Solution ของบริษัทไม่ใช่การ “แย่งงานมนุษย์” แต่จะเป็นระบบที่ช่วยเสริมให้มนุษย์ทำงานให้ได้ดีขึ้น ไม่นับว่าหุ่นยนต์จะเข้าไปทดแทนแรงงานที่ขาดแคลน แต่จะสามารถช่วยให้งานของมนุษย์ทำได้ดีและมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิมมาก ยกตัวอย่าง ระบบ Facility Management ที่มีการนำไปใช้จริงแล้วที่ระบบ IoT ตรวจจับความสะอาดและมีหุ่นยนต์ทำงานร่วมกับมนุษย์ที่ช่วยตรวจจับความสกปรกได้รวดเร็วขึ้น สามารถทำความสะอาดได้เร็วขึ้น มีระบบรายงานข้อมูลการทำงานทั้งมนุษย์และหุ่นยนต์ได้อย่างชัดเจน สามารถทำ Work Force Management ได้ดีขึ้น นอกจากนี้ในแง่ของคนทำงานสูงอายุก็สามารถขยายระยะเวลาการทำงานออกไปได้เพราะทำงานที่เบาแรงลง หรือสามารถเปลี่ยนไปสู่งานของการควบคุมหุ่นยนต์ก็ได้เช่นกัน

 

 

ในแง่ของการทดแทนแรงงานที่ขาดแคลน คุณสุกัญญา ยืนยันว่าจาก Use Case ในปัจจุบันหุ่นยนต์บริการทั้งเสิร์ฟอาหาร หรือทำความสะอาดที่เป็นที่นิยมในเวลานี้มีราคาที่ถูกลงมากแล้ว เรียกว่าค่าเช่าในปัจจุบันก็ถูกลงกว่าแรงงานคนแล้วด้วยซ้ำ อย่างเช่นหุ่นยนต์เสิร์ฟอาหารเวลานี้เชื่อว่าใช้เวลาราว 1 ปีหรือไม่เกิน 14 เดือนก็คืนทุนแล้ว ส่วนหุ่นยนต์ทำความสะอาด ก็มีตั้งแต่รุ่นเล็กจนถึงรุ่นใหญ่ ในเรื่องของความคุ้นค่าสามารถคืนทุนได้ภายใน 1 ปีครึ่งเช่นกัน

 

สะท้อนเสียงลูกค้าสู่ผู้ผลิตหุ่นยนต์ให้ตอบโจทย์ความต้องการ

ปัจจุบัน RAAS PAL มีหุ่นยนต์ส่งมอบสู่ตลาดไปแล้วมากกว่า 1,500 ตัวแน่นอนว่าก็มีเสียงตอบรับจากลูกค้าที่ดี ซึ่งคุณสุกัญญา ระบุว่าบริษัทจะนำ Feedback ของลูกค้าที่ได้ใช้หุ่นยนต์ของบริษัทสะท้อนไปยังบริษัทผู้ผลิตให้พัฒนาปรับปรุงต่อไปซึ่งก็ต้องยอมรับกว่าการปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นหรือดีไซน์ให้ตอบสนองกับความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปเร็วของลูกค้าที่วันนี้นั้นอาจไม่สอดคล้องกันนักเพราะความต้องการของลูกค้าเปลี่ยนไปเร็วมากในขณะที่การเปลี่ยนแปลงหรือพัฒนาดีไซน์ของหุ่นยนต์ต้องใช้เวลาอยู่บ้าง

 

ตั้งเป้าหุ่นยนต์มีในทุกอาคาร Office Building ขนาดใหญ่

เป้าหมายในระยะ 2-3 ปีข้างหน้าคุณสุกัญญา ระบุว่า ความฝันของเราก็คือ ตึก office building แบบ premium size น่าจะใช้หุ่นยนต์กันทั้งหมดแล้ว ส่วนความฝันในอนาคตจากการที่ได้ไปดูงานหุ่นยนต์มาในหลากหลายประเทศก็มองว่าต่อไป หุ่นยนต์หรือแม้กระทั่ง AI จะมีบทบาทในชีวิตมนุษย์มากขึ้นเรื่อย ๆ ในอนาคตหุ่นยนต์จะมาช่วยทำความสะอาด ดูแลเด็ก ดูแลผู้สูงอายุ สอนหนังสือหรือมาอยู่เป็นเพื่อนแก้เหงา นั่นเพราะประเทศไทยเดินหน้าเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุแล้ว เหตุการณ์จากไปอย่างโดดเดี่ยวอย่างที่เกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่นก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับประเทศไทยได้เช่นกัน ดังนั้นเราก็ควรต้องเตรียมวางแผนในจุดนี้ไว้ด้วยเช่นกัน

“ในแง่ direction ของธุรกิจ มองว่าหุ่นยนต์จะเข้ามาช่วยเรื่องการพัฒนา reprocess กระบวนการให้เร็วขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น สามารถ optimization ให้เข้ากับความต้องการต่าง ๆ ได้ เชื่อว่า robotic เข้ามามีบทบาทแน่นอน” คุณสุกัญญาปิดท้าย

 

 

RAAS PAL นับเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของธุรกิจที่จับเทรนด์ S-Curve ธุรกิจได้อย่างถูกต้องและถูกเวลาและกำลังเดินหน้าสร้างความเติบโตไปพร้อม ๆ กับการมอบ Solution ให้กับธุรกิจ โรงงาน อาคารสำนักงานที่ต้องการพัฒนาประสิทธิภาพการทำงานในด้านต่าง ๆ ให้ดีขึ้นได้ และเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่พิสูจน์ให้เห็นอีกครั้งหนึ่งว่า Robotic ที่ช่วยสร้างกระบวนการแบบ Automation นั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการแย่งงานมนุษย์แต่อย่างใด แต่จะมาทำงานร่วมกับมนุษย์ อุดช่องว่างเติมเต็มการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นนั่นเอง

 

สามารถเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.raaspal.com/ หรือ https://www.facebook.com/RaasPal


  •  
  •  
  •  
  •  
  •