ในโลกปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลง มักจะมาพร้อมกับการพัฒนาหรือเพิ่มประสิทธิภาพของเทคโนโลยีอยู่เสมอ ซึ่งตอนนี้คงจะปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเป็นยุคสมัยของ “Generative AI” หรือปัญญาประดิษฐ์ เทคโนโลยีที่จะเข้ามาช่วยนักการตลาด แบรนด์ หรือแม้แต่ครีเอทีฟโฆษณาให้ทำงานง่ายมากยิ่งขึ้น
ซึ่งการพัฒนา Generative AI ทำให้รูปแบบการทำงานต้องมีการปรับเปลี่ยนไปสู่ “Marketing Intelligence” หรือ การทำการตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีและปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งถือเป็นอีกขั้นของ Data-driven Marketing ในการทำการตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล โดยมีเป้าหมายที่ต้องการให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุดของการทำโฆษณา
ดังนั้นวันนี้เราจึงอยากมาแชร์ไอเดียใหม่ ๆ ของการทำโฆษณาในงาน DAAT2023 ใน Session ของคุณสุรศักดิ์ เหลืองอุษากุล Co-Founder and Director Planning & Ideas, BrandBaker ในหัวข้อ Utilize Generative AI for Advertising มาฟังการบอกเล่าไอเดียวิธีคิด ความเก่งของ AI และ AI เปลี่ยนจากภาพให้เป็น Video ได้อย่างไร
บอกเล่าวิธีคิดของ Generative AI ความคิดสร้างสรรค์แบบไม่มีข้อจำกัด
คุณสุรศักดิ์ เหลืองอุษากุล ได้เล่าให้ฟังว่า ทำไม AI ถึงมีชุดข้อมูลแบบนี้ และเราจะทำงานร่วมกันอย่างไรให้การทำโฆษณา AI นั้น เหมือนกล่อง แต่มีหลาย ๆ กล่อง โดยแต่ละกล่องจะมีหน้าที่ของใครของมัน และจะมีหน้าที่ใส่ Data ซึ่งจะเรียนรู้ข้อมูลต่าง ๆ ออกมา จะได้ผลลัพธ์เป็นข้อมูลหนึ่งชุดที่เราต้องการ
ความยากของ AI คือเราต้องสอนหรือฝึกก่อนถึงจะได้ชุดข้อมูลที่ถูกต้องและแม่นยำมากยิ่งขึ้น ตัวอย่าง เราอยากได้รูปแมว AI จะแปลงอักษรคำว่าแมวเป็นตัวเลขและเอาตัวเลขสร้างเป็นภาพขึ้นมา ปรับภาพเรื่อย ๆ จนกว่าจะได้รูปแมวตามที่เราออกคำสั่งไปข้างต้น
ซึ่งหลายคนอาจะสงสัยว่า AI จะทำเป็น Video ได้อย่างไร คือการที่เราใส่ข้อมูลต่าง ๆ ว่าเราต้องการ Video แบบไหน เช่น อยากได้ Video เกี่ยวกับความสวยความงาม เป็นผู้หญิง มีรูปร่างลักษณะอย่างไร อยากได้เพลงประกอบแบบไหน อยากได้เสียงพากย์เป็นรูปแบบไหน เราก็ใส่ชุดคำสั่ง หลังจากนั้นระบบก็จะช่วยประเมินและออกมาในรูปแบบที่เราต้องการ
การที่เรามี AI เข้ามาช่วยจะทำให้ประหยัดเวลาในการทำโฆษณามากอีกขึ้น เพราะเราสามารถผู้คุยกับลูกค้าก่อนว่าต้องการแบบไหน และใส่ชุดข้อมูลเหล่านั้นให้ AI ช่วยทำเดโมเบื้องต้นก่อน ถ้าลูกค้าชอบแบบไหนเราก็ค่อยทำ Video แบบที่ลูกค้าต้องการนั่นเอง
Generative AI หา Insight ในการทำแคมเปญโฆษณา
Generative AI สามารถวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกจากพฤติกรรมผู้บริโภคเช่น ข้อมูลการค้นหา ข้อมูลโซเชียลมีเดีย และข้อมูลการซื้อสินค้า เพื่อหาแนวโน้มและความต้องการใหม่ๆ ของผู้บริโภค ซึ่งข้อมูลเหล่านี้สามารถนำมาใช้เป็น Insight ในการสร้างสรรค์แคมเปญโฆษณาที่ตรงใจผู้บริโภค และยังสร้างคอนเทนต์โฆษณาแบบใหม่ๆ ที่ไม่ซ้ำใคร เช่น วิดีโอ รูปภาพ หรือข้อความ โดยคอนเทนต์เหล่านี้อาจมีความน่าสนใจและดึงดูดใจผู้บริโภคมากกว่าคอนเทนต์โฆษณาแบบเดิม ๆ
โดย AI ยังสามารถทำการทดสอบแคมเปญโฆษณาที่แตกต่างกันมากมาย จากนั้นจึงใช้ข้อมูลเชิงลึกจากผลลัพธ์ของแคมเปญโฆษณา เพื่อเลือกรูปแบบแคมเปญโฆษณาที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด
ตัวอย่าง แบรนด์หนึ่งอาจใช้ Generative AI เพื่อทดสอบแคมเปญโฆษณาบนสื่อโซเชียลมีเดีย โดย Generative AI จะสร้างรูปแบบแคมเปญโฆษณาที่แตกต่างกัน เช่น โฆษณาแบบภาพ โฆษณาแบบวิดีโอ และโฆษณาแบบอินโฟกราฟิก จากนั้นจึงใช้ข้อมูลเชิงลึกจากผลลัพธ์ของแคมเปญโฆษณา เพื่อเลือกรูปแบบแคมเปญโฆษณาที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการเข้าถึงผู้บริโภค
การนำเอา Gen-AI และ CDP จะช่วยเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายให้มีประสิทธิภาพ และเฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น
CDP (Customer Data Platform) คือ แพลตฟอร์มที่รวบรวมข้อมูลลูกค้าจากแหล่งต่าง ๆ เข้าไว้ด้วยกัน เพื่อให้แบรนด์สามารถเข้าใจลูกค้าได้อย่างลึกซึ้ง และนำมาใช้ในการทำการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดย CDP ทำงานด้วยการรวบรวมข้อมูลลูกค้าจากแหล่งต่าง ๆ เช่น ข้อมูลการซื้อขาย ข้อมูลพฤติกรรมบนเว็บไซต์ ข้อมูลโซเชียลมีเดีย ข้อมูลจาก CRM เป็นต้น จากนั้นจะทำการประมวลผลข้อมูลเหล่านี้เพื่อสร้างโปรไฟล์ลูกค้ารายบุคคล โปรไฟล์ลูกค้ารายบุคคลนี้จะช่วยให้แบรนด์สามารถเข้าใจพฤติกรรมและความต้องการของลูกค้าได้อย่างลึกซึ้ง
การนำเอา Gen-AI และ CDP มารวมพลังเข้ากับ Marketing Automation นั้นทำให้การทำการตลาดและงานโฆษณามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นไปอีก เครื่องมือเหล่านี้จะช่วยให้ลูกค้าของเราเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้เฉพาะเจาะจงลึกยิ่งขึ้น แถมประหยัดทั้งเวลาและทรัพยากรของทุก ๆ ฝ่าย
การทำ Marketing Automation รวมเข้ากับงานโฆษณาได้อย่างไร้รอยต่อเช่นนี้จะช่วยให้งานคล่องตัวและมีประสิทธิภาพเชื่อว่า Insight drives impact เพราะทุก ๆ แคมเปญที่สร้างสรรค์ออกมาจะต้องให้ผลลัพธ์ที่ดีและจับต้องได้อีกด้วย
