ความรู้อัดแน่น! รีวิว KBTG Techtopia: Across The AI Verse เข้าใจเทรนด์ AI ในโลกเทคโนโลยี ในงานเทคฯ ที่จัดโดยคนเทคฯ เพื่อคนเทคฯ อย่างแท้จริง

  • 2.3K
  •  
  •  
  •  
  •  

 

ในปี 2023 เป็นปีสำคัญสำหรับวงการเทคโนโลยี เป็นปีที่ “ยุคสมัยของเอไอได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว” อย่างแท้จริง คนทั่วโลกได้เห็นความสามารถของ AI (Artificial Intelligence) ที่พัฒนามาสู่ Generative AI ที่มีพลังในการสื่อสารกับมนุษย์ได้อย่างเป็นธรรมชาติอย่าง ChatGPT ได้เห็น AI ที่สามารถสร้างภาพแบบต่างๆได้ตามคำสั่ง (Prompt) อย่าง Midjourney, Dall-E รวมถึง Stable Diffusion และเราได้เห็น Application ที่มี AI อยู่เบื้องหลังเปิดตัวใหม่ในแทบทุกๆวัน

ทุกๆคนได้ยินเหมือนกันจากกระแสข่าวทั่วโลกว่าเทคโนโลยี AI จะเปลี่ยนโลกธุรกิจในทุกๆ อุตสาหกรรม แต่คำถามก็คือจะทำอย่างไรให้ได้เข้าใจและสัมผัสเทรนด์เหล่านี้และนำมาสร้างโอกาสทางธุรกิจ หรือแม้แต่สร้างคอนเน็กชันชั่นในสายงานกับคนในแวดวงผู้พัฒนา AI ตอบโจทย์คนสายเทคโนโลยีได้อย่างแท้จริง และคำตอบก็เกิดขึ้นแล้วเมื่อวันที่ 1-2 กันยายนที่ผ่านมา ในงาน KBTG Techtopia: Across The AI Verse อิเวนต์ใหญ่ที่จัดโดย บริษัท กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) โดย KBTG แปลงโฉมอาคาร KBTG เมืองทองธานี ถนนแจ้งวัฒนะ ให้กลายเป็นเมืองแห่งโลกอนาคต จัดงานที่จะตอบโจทย์คนสายเทคได้อย่างแท้จริงเพราะ KBTG เป็น Tech Arm ของธนาคารกสิกรไทยที่มีผลงานเทคโนโลยีพลัง AI นำออก Commercialize และประสบความสำเร็จมาแล้วมากมาย นั่นทำให้ KBTG สามารถจัดงานที่จะเป็นแหล่งรวมคนสายเทคที่มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ทั้ง “กูรู” สายเทคทั้งระดับภูมิภาคและระดับโลกถึง 38 คนมาเล่าถึงเทรนด์เทคโนโลยี AI ในรูปแบบต่างๆ ที่ Conference Stage ตลอดทั้ง 2 วัน รวมไปถึงมีพาร์ตเนอร์บริษัทด้านเทคฯมาร่วมงานอีกคับคั่ง

 

 

ยุค Mobile-First สู่ยุค AI-First

 สำหรับเรื่องของ AI Trend and Outlook ที่เกี่ยวข้องกับอิทธิพลของ AI ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต หนึ่งใน 4 แกนเรื่องที่ KBTG Techtopia นำเสนอนั้น คุณกระทิง เรืองโรจน์ พูนผล ประธานกลุ่มบริษัท กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) ได้กล่าวไว้บนเวทีในหัวข้อ The State of M.A.D. ว่าเทคโนโลยี AI ที่ก้าวหน้าไปอย่างทุกวันนี้จะทำให้ “โลกจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป”

 

 

“ทุกคนสามารถเป็น Graphic Designer, Musician, Interior designer ได้ AI ทุกวันนี้พูดได้เหมือนมนุษย์ มีเสียงเหมือนมนุษย์ ในอนาคตคุณสามารถส่ง AI เป็นตัวแทนของคุณไปประชุมแทนตัวเองได้ ภายใน 10 ปีนี้เด็กๆจะสามารถออกแบบยานอวกาศได้สามารถวิเคราะห์ DNA ได้ เด็กๆจะสามารถทำในสิ่งที่คนรุ่นเราทำได้แค่ฝัน ทุกอย่างทำได้ด้วย AI ที่จะสร้างความเป็นไปได้ใหม่ ๆ ให้กับคนรุ่นต่อไปได้” คุณกระทิง ระบุ

ในแง่ Startup คุณกระทิง ระบุว่าในเวลานี้เป็นเวลาที่ดีที่สุดที่จะตั้ง AI-First Startup หรือบริษัทผู้พัฒนา AI เพื่อแก้ปัญหาในอุตสาหกรรมต่างๆ และจะมีเงินทุนนับล้านล้านดอลลาร์สหรัฐรออยู่ เรียกว่า AI-First Startup เป็นสะพานแห่งใหม่สำหรับ Startup ให้ข้ามไป และอีกไม่นานนี้ด้วยพลังของ AI เราอาจจะได้เห็น Startup ระดับ Unicorn ที่มีคนทำงานเพียงแค่ 10 คนเท่านั้น

คุณกระทิง ขยายความเพิ่มเติมว่า โลกกำลังก้าวจากยุค Mobile-First สู่ยุค AI-First ซึ่ง KBTG ก้าวไปแล้วโดยเริ่มตั้งเป้าเป็น AI-First Company ตั้งแต่ปี 2019 และกลยุทธ์สำคัญที่จะเดินไปสู่จุดนั้นก็คือ M.A.D ที่จะใช้เป็นแนวคิดสำหรับทุกๆส่วนงานของ KBTG ซึ่ง M.A.D.หมายถึง

  • M คือ Machine Learning เช่นระบบการปล่อยกู้อัจฉริยะ การแสดงผล Product และ Promotion ต่างๆให้ตรงกับความต้องการลูกค้า
  • A คือ Artificial Intelligence ใช้พลังของ AI การสร้างระบบยืนยันตัวตน ระบบ AI Chatbot ให้บริการลูกค้ารวมถึง Generative AI ที่กำลังพัฒนาอยู่อย่าง “Future You” และ “คู่คิด” ที่เตรียมออกให้บริการในอนาคต
  • D คือ Data – การให้ความสำคัญกับคุณค่าของข้อมูลที่จะต้องมีทั้งความปลอดภัย ความเป็นส่วนตัว และมีความยืดหยุ่นสำหรับการสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ

 

 

AI ในอนาคตจะไม่ใช่แค่พลังงานไฟฟ้าที่อยู่เบื้องหลังทุกเทคโนโลยีแต่มันจะเป็นอากาศรอบตัวเราที่จะ สร้างชีวิต สร้างโลกใหม่ในอนาคต เราสามารถนำ AI มาใช้ในการ Co-Imagine, Co-Explore, Co-Thinking และ Co-Creating เพื่อให้ทุกๆคนได้เรียนรู้ ได้คิดใหม่ ได้เชื่อมต่อกัน เปลี่ยนธุรกิจและหวังว่าจะเปลี่ยนโลกต่อไป” คุณกระทิง ระบุ

 

 

AI สู่การสร้างรายได้เชิงธุรกิจและการลดต้นทุน

อีกหนึ่งแกนสำคัญที่น่าสนใจที่ผู้ร่วมงาน KBGT Techtopia สามารถนำไปใช้ได้ก็คือ AI Transformation การนำ AI มาทำทรานส์ฟอร์เมชั่นธุรกิจ  และที่สำคัญที่สุดก็คือการนำมาใช้ “ทำการตลาดและสร้างยอดขาย” กับธุรกิจให้มากขึ้นซึ่งเรื่องนี้คุณ Simon Dale ผู้อำนวยการบริหาร Adobe ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเกาหลีใต้ ได้เล่าให้ฟังในหัวข้อ “How Generative AI Enables Sales and Marketing” ซึ่งคุณ Dale ก็ได้เล่าถึงสิ่งที่ AI ทำได้ในการสร้าง “รายได้” ให้กับภาคธุรกิจและวิธีการที่ช่วยพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับลูกค้า และพัฒนาประสบการณ์ของลูกค้าให้ดีขึ้นได้

 

 

คุณ Dale ระบุว่าที่ภาคธุรกิจสนในการนำ AI ไปใช้มากที่สุด ในเรื่อง “การขายและการทำการตลาด” เรื่องนี้ตรงกันกับผลสำรวจผลกระทบของ AI มีต่อภาคธุรกิจมากที่สุด ดังนั้นภาคธุรกิจจึงควรนำ AI มาใช้ซึ่งก็มีอยู่ 2 ทางเลือกก็คือนำ “AI ที่มีการพัฒนามาแล้ว” มาใช้หรือ “สร้างขึ้นมาเอง”

ในส่วนของ Adobe คุณ Simon Dale เล่าว่า มีการทำ AI Transformation มานานแล้วและมีการผนวก AI เข้าไปในบริการหลายตัวของ Adobe ที่นำไปสู่การทำการตลาดและเพิ่มยอดขายให้กับลูกค้าได้ ซึ่งบริการที่หลายคนไม่รู้ก็คือเว็บไซต์ e-commerce จำนวนมากในประเทศไทยและต่างประเทศใช้ Solution ของ Adobe เป็นพื้นฐานในการเก็บและวิเคราะห์ข้อมูล นอกจากนี้ยังนำ AI ไปพัฒนาประสบการณ์สร้างภาพด้วย Generative AI กับ Adobe Firefly รวมไปถึงฟีเจอร์ใหม่ที่นำมาเปิดตัวกันอย่าง Generative AI fill สร้างภาพพื้นหลังด้วย AI ที่ใช้ AI เรียนรู้ภาพที่สามารถนำไปใช้เชิงพาณิชย์ได้อย่างปลอดภัยเป็นต้น

 

 

เช่นเดียวกับ Google Cloud ที่ส่งคุณ Michael Maltese ในตำแหน่ง APAC AI Business and Innovation ที่นอกจากจะมาเล่าถึงการนำ AI มาใช้กับธุรกิจของ Google ที่สมามารถช่วยธุรกิจ Transform ด้วย AI ได้ เช่นระบบใหม่ที่ใช้ตรวจจับภาพที่สร้างขึ้นจาก AI เพื่อป้องกันการนำไปใช้ในทางที่ผิดอย่าง SynthID หรือการผสานพลังของ AI เข้าไปใน Google Workspace ที่เรียกว่า Duet AIในการช่วยสรุปเนื้อหาจากเอกสาร ช่วยสรุปการประชุมแล้ว ยังเปิดเผยด้วยว่า การที่ Google นำ AI มาใช้บริหารจัดการ Data Center ของ Google เองยังส่งผลให้สามารถลดต้นทุนด้านการหล่อเย็นลงได้มากถึง 40% เลยด้วย

 

ปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์และ AI ที่มีทั้งแง่บวกและแง่ลบ

อีกหนึ่งแกนเรื่องที่น่าสนใจในงาน KBTG Techtopia ก็คือเรื่อง การอยู่ร่วมกันระหว่างมนุษย์และ AI หรือ AI x Human ที่เราจะได้ทำความเข้าใจและเปิดใจในการเสวนา Human and AI: Human Touch in the Age of the Machine ในมุมของนักออกแบบ ที่ให้มุมมองเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของมนุษย์และเครื่องจักรไว้อย่างน่าสนใจ

 

 

โดย คุณศรานนท์ ลิ้มปานานนท์ นักออกแบบและผู้ร่วมก่อตั้ง Studio Aeroplane บริษัทที่ปรึกษากลยุทธ์ด้านการออกแบบให้มุมมองในเรื่องความสัมพันธ์ของมนุษย์และเครื่องจักรตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันเพราะ“มนุษย์มีแรงผลักดัน” นั่นทำให้มนุษย์เริ่มใช้เครื่องมือและเทคโนโลยีต่างๆ ตั้งแต่ เครื่องมือในยุคหินในฐานะเครื่องมือในการดำรงชีวิต, เครื่องมือที่ทำให้มนุษย์เป็นพัฒนามากขึ้น แข็งแรงขึ้น ฉลาดขึ้น, เทคโนยีที่ทำงานซ้ำๆ หรืองานง่ายๆแทนมนุษย์และสามารถตัดสินใจได้เอง รวมถึงเทคโนโลยีที่ทำสิ่งยากๆแทนมนุษย์แต่มนุษย์ยังสามารถควบคุมได้อยู่อย่างเช่น กล้องโทรทัศน์เจมส์เว็บ เป็นต้น ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้ต้องพึ่งพาการออกแบบที่ทำให้มีปฏิสัมพันธ์กับมนษย์ได้มากขึ้น และยิ่งเทคโนโลยีพัฒนาไปมากแค่ไหนมนุษย์ก็ต้องเพิ่มความคิดสร้างสรรค์มากขึ้นเท่านั้น

ในส่วนของอาจารย์จุฑามาศ ตั้งสันติกุล อาจารย์จากภาควิชาออกแบบอุตสาหกรรม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้มุมมองสะท้อนภาพปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และเอไอ ในฐานะ “มนุษย์ผู้มีความหวัง” สะท้อนมุมมองของมนุษย์เมื่อกว่า 100 ปีก่อนที่มองโลกปัจจุบันในฐานะอนาคต ที่แตกออกมาได้เป็นความหวัง 2 รูปแบบคือ “การก้าวพ้นขีดจำกัดมนุษย์” และ “การเพิ่ม Productivity”

 

 

อาจารย์จุฑามาศ ตั้งคำถามผ่านงานศิลปะในอดีตเหล่านี้ไว้ว่าคำทำนายอนาคตเหล่านั้นจะเกิดขึ้นแล้วในปัจจุบัน แต่เพราะอะไรทำไมทุกวันนี้ยังเกิดความเหลื่อมล้ำ ทำไมยังมีคนอดอยาก เทคโนโลยีบางอย่างเช่น AI เขียนบทความ AI วาดรูป ตัดขึ้นตอนอะไรบางอย่างที่เป็นคุณค่าสำหรับมนุษย์ไปหรือไม่ คุณค่าจากการเขียนบทความ คุณค่าจากการวาดรูปจะหายไปหรือไม่ แต่ทั้งหมดก็ยังคงอยู่บนพื้นฐานของการ “มีความหวัง” กับมนุษย์และเทคโนโลยีต่อไป

 

Prompt Engineer โอกาสใหม่ของโลกที่ขับเคลื่อนด้วย AI 

อีกหนึ่งแกนที่น่าสนใจที่ KBTG Techtopia นำเสนออย่าง AI Ecosystem ส่องธุรกิจแห่งโลกอนาคตที่ขับเคลื่อนด้วย AI เองก็เห็นภาพชัดเจนจากหัวข้อ AI Spellcaster: The Art of Prompt Engineering โดยคุณพิศุทธ์ แดงทองดี CEO และผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ PromptSea ซึ่งคุณพิศุทธ์ เล่าว่า PromptSea เป็นเว็บไซต์ที่แก้ปัญหาเว็บไซต์ขาย Prompt ที่มีฐานในต่างประเทศและคนที่จะซื้อต้องเปิดบัญชีในแต่ละประเทศเอาไว้ แต่ PromptSea สร้างขึ้นด้วยพื้นฐาน Web3 ที่มี blockchain อยู่เบื้องหลังทำให้คนทั่วโลกสามารถเข้ามาซื้อได้และรับชำระเป็น Crypto Currency ตัดข้อจำกัดเดิมๆออกไปได้สำเร็จ

นอกจากนี้คุณพิศุทธ์ ยังเล่าถึงอาชีพ Prompt Engineer ที่จะเป็นโอกาสในการหารายได้ใหม่ๆให้กับมนุษย์ โดยคนที่เป็น Prompt Engineer ต้องมีคุณสมบัติหลายอย่างเช่น ต้องรู้จักพื้นฐานของ AI ที่ใช้ว่าแต่ละโมเดลที่ใช้มีข้อมูลที่ใช้เทรนจากไหนเรื่องนี้จะทำให้เข้าใจว่าสามารถนำผลลัพธ์ไปใช้งานในเชิงพาณิชย์ต่อได้หรือไม่ นอกจากนี้ต้องมีความเชี่ยวชาญในแต่ละเรื่องที่จะ generate เช่นภาพ เพลง ศิลปะ เพื่อใช้คีย์เวิร์ดอธิบายให้ตรงตามที่ต้องการเป็นต้น โดยคุณพิศุทธ์ มองว่าอาชีพ Prompt Engineer อาจยังไม่เกิดขึ้นตอนนี้แต่จะเกิดขึ้นอย่างจริงจังในปี 2024 ที่เทคโนโลยี Generative AI พัฒนาไปในระดับที่ใช้งานได้ง่ายและมีมาตรฐานมากกว่านี้แล้ว

 

Playground Workshop เรียนรู้จากการทำจริง

นอกจากเวทีใหญ่ Conference Stage ที่อัดแน่นด้วยวิทยากร 38 คนแล้ว KBTG Techtopia ยังมีโซนที่ให้ได้เรียนรู้จากการทำจริงในโซน Playground Workshop ให้เข้าร่วมถึง 4 คลาสใน 2 วัน เช่นคลาส AI Code off Competition ในวันแรกที่จัดขึ้นโดย GitHub พาร์ตเนอร์สำคัญของ KBTG ที่มีการสอนใช้ฟีเจอร์ต่างๆของ GitHub Copilot ที่มีการผนวกเอา AI เข้าไปช่วยในการเขียนโค้ด รวมไปถึงสนุกกับการแข่งขันเขียนโค้ดเพื่อสร้างเกม “เป่ายิ้งฉุบ” ที่มีผู้สนใจเข้าร่วมแข่งกันแบบคับคั่งเลยทีเดียว

ในส่วนของวันที่ 2 ยังมีคลาส Generative AI: What You Can Do Right Now with Google’s Technology ที่มีการปูพื้นฐานเกี่ยวกับ Generative AI และเทคโนโลยีต้นกำเนิด Generative AI ที่เรียกว่า Transformer ที่คิดค้นขึ้นโดย Google รวมไปถึงเรียนรู้การ Design Prompt ผ่านกิจกรรม Hackathon ด้วย Generative AI จาก Google Cloud ซึ่งก็มีผู้สนใจเข้าร่วมแบบเต็มห้องเช่นเดียวกัน

 

Showcase Exhibition เปิดโลกเทคโนโลยี AI

โซนที่ได้รับความสนใจจากคนสายเทคฯมากมายเช่นกันก็คือโซน Showcase ของ KBTG Labs ที่นำเทคโนโลยีที่กำลังพัฒนามาจัดแสดงและบอกเล่าถึงไอเดียการพัฒนานำแอปพลิเคชั่นต่างๆที่ใช้เทคโนโลยี AI มาร่วมพัฒนาอย่าง CCTV Analytics ที่สามารถวิเคราะห์ภาพจากกล้องวงจรปิดเพื่อนำไปใช้จัด flow ลูกค้าและการให้บริการหน้าร้านได้ มีเทคโนโลยีอย่าง Car Inspection AI เทคโนโลยีที่ใช้ AI วิเคราะห์ตำหนิต่างๆของรถเพื่อลดเวลาของการเคลมประกันรถยนต์สำหรับลูกค้าลง

 

 

นอกจากนี้ยังมีระบบที่ธุรกิจค้าปลีกสามารถนำไปใช้ต่อได้อย่าง Smart Checkout เทคโนโลยีแคชเชียร์ที่สามารถ “คิดเงิน” จากสินค้ารูปแบบต่างๆกันได้ด้วยกล้องถ่ายภาพเพียงตัวเดียว ในขณะที่ฝ่ายบริการจัดการทรัพย์ของธนาคารก็มีการพัฒนาระบบ Asset Intelligence ด้วยการนำ Generative AI เข้าไปใช้ร่วมกับการขายทรัพย์บ้านพักอาศัย ด้วยการใช้ AI สร้างภาพการตกแต่งห้องขึ้นใหม่เพื่อเพิ่มโอกาสการขายทรัพย์ให้มากขึ้น รวมไปถึงใช้ AI ประเมินราคาทรัพย์อย่างที่ดินจากแผนที่ดาวเทียมก็ทำได้แล้ว

 

 

ยังไม่ต้องพูดถึงเทคโนโลยี AI ที่ทาง KBTG ร่วมกันพัฒนากับ MIT Media Lab ที่เคยนำเสนอผ่านสื่ออย่างต่อเนื่องเช่น Future You ที่จำลอง “ตัวเราในอนาคต” ขึ้นมาเพื่อเป็นที่ปรึกษาช่วยพัฒนาตัวเองไปสู่เป้าหมายในชีวิตที่วางเอาไว้ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึง “คู่คิด” AI ที่ปรึกษาที่จะช่วยแบ่งปันมุมมอง 2 มุมช่วยให้เรามีมุมมองในการตัดสินใจเรื่องต่างๆได้กว้างมากขึ้นก็นำมาโชว์ความสามารถให้เราได้เห็นในงานเช่นกัน

 

 

นอกจากนี้ยังมีบูทจากพาร์ตเนอร์ในโซน Showcase Exhibition เทคโนโลยีที่น่าสนใจไม่ว่าจะเป็น “Elastic Search” บริการเซิร์จเอ็นจินที่อยู่เบื้องหลังแอปพลิเคชั่นดังๆ ที่เราใช้งานกันในหลายแอปฯ เป็นระบบที่สามารถนำไปให้ผู้ใช้บริการค้นหาสินค้า หรือเนื้อหาต่างๆในเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชั่นของธุรกิจเราได้ นอกจากนี้ยังมีแพลตฟอร์ม observability ยักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่าง “Dynatrace” แพลทฟอร์ม APM ที่นอกจากจะช่วยตรวจจับความผิดปกติในระบบหลังบ้านของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชั่นได้แล้วยังสามารถตอบสนองธุรกิจในด้านการตลาดได้ถึงหน้าบ้านอีกด้วย รวมถึง “Slack” แพลตฟอร์มสื่อสารสำหรับการทำงานที่ปัจจุบันเพิ่มขีดความสามารถด้วยการผสานพลังของ Generative AI อย่าง ChatGPT เข้าไปช่วยแก้ปัญหาแชตสนทนาที่มีจำนวนมหาศาลด้วยการช่วยค้นหาและสรุปเนื้อหาได้อย่างรวดเร็ว และยังมีบูทของ “Splunk” เครื่อมือช่วยจัดการความปลอดภัยและภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่ทุกๆองค์กรควรจะมีไว้เพื่อความปลอดภัยมาโชว์เทคโนโลยีด้วยเช่นกัน

 

Business Matching และ Speed Dating สร้างโอกาสทางธุรกิจและการทำงาน

นอกจากโซนให้ความรู้แล้ว KBTG Techtopia ยังเปิดพื้นที่ให้ธุรกิจสร้างโอกาศพัฒนาธุรกิจด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าอย่างโซลูชั่นเทคโนโลยียืนยันตัวตนที่พัฒนาโดย KBTG Labs สู่ “AINU” ที่พร้อมเชื่อมต่อกับทุกธุรกิจได้อย่างมั่นคงและปลอดภัย นอกจากนี้ยังมี “Coral” แพลทฟอร์มซื้อขาย NFT “Bigfin” เครื่องมือติดตามพอร์ตคริปโตเคอร์เรนซีและสินทรัพย์ดิจิทัลรูปแบบต่างๆ รวมถึง “Kubix” ผู้ให้บริการระดมทุนแบบ ICO ที่มาออกบูทในโซน Business Matching ให้ได้เชื่อมต่อพูดคุยสร้างคอนเน็กชันด้านเทคโนโลยีกันอย่างพร้อมเพรียง

 

 

ไม่เท่านั้นยังมีโซน Speed Dating ที่เปิดโอกาสให้พูดคุยและแนะนำตัวกับทีม Talent Acquisition ของ KBTG ที่ทำให้น้องๆนักศึกษาที่นอกจากจะได้ความรู้จาก KBTG Techtopia แล้วอาจยังได้ตำแหน่งงานในบริษัทเทคฯยักษ์ใหญ่กลับบ้านไปด้วย

 

 

นั่นเป็นเพียงบรรยากาศและความน่าสนใจบางส่วนของงาน KBTG Techtopia: Across The AI Verse ที่พาผู้ร่วมงานทุกคนได้รู้จักโลกที่ก้าวเข้าสู่ยุค AI อย่างเป็นทางการแล้ว ได้มองเห็นเทรนด์ใหม่ๆ โอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ สร้างแรงบันดาลใจและภาพของโลกอนาคตที่เรากำลังจะเดินไป ซึ่งก็ต้องยอมรับว่างาน KBTG Techtopia เป็นงานที่จัดโดยคนสายเทคฯ ที่ตอบสนองความต้องการคนสายเทคฯอย่างตรงประเด็นมากที่สุด ซึ่งใครที่พลาดไปก็คงต้องรองานในครั้งต่อไปซึ่งเชื่อว่า KBTG จะจัดขึ้นอีกครั้งอย่างแน่นอน

 

 


  • 2.3K
  •  
  •  
  •  
  •