ความหมายของการเป็นแฟนคลับที่ชื่นชอบอะไรสักอย่างคืออะไร?
เราจะต้องจำทุกรายละเอียดของนิยายเรื่องโปรดให้ได้ทั้งหมดไหม?
เราจะรายละเอียดของศิลปินคนโปรดได้ให้ทั้งหมดหรือไม่?
เราต้องอ่านหนังสืออ่านข่าวให้ครบทั้งหมดด้วยหรือไม่? หรือว่าแค่เคยดูภาพยนตร์ฉบับดัดแปลงก็พอแล้ว?
เราต้องไปคอนเสิร์ตของศิลปินคนโปรดให้ครบทุกครั้งหรือไม่?
ซึ่งเมื่อก่อนแฟนๆ ต้องพิสูจน์ว่าตัวเองเป็นแฟนคลับตัวแม่ แค่ไหนกับแฟนคนอื่นๆ ในชุมชนแฟนคลับ
โชคดีที่การปิดกั้นอะไรแบบนี้กำลังจะพ่ายแพ้ให้กับแฟนๆ และแฟนด้อมยุคใหม่ไปอย่างรวดเร็ว แล้วก็ด้วยเทคโนโลยีและกฎเกณฑ์ทางวัฒนธรรมที่พลิกโฉมลักษณะที่แฟนๆ มีส่วนร่วมและเรียนรู้จากกันและกันใหม่ ตอนนี้แฟนด้อมจึงเป็นชุมชนที่เติบโตเร็วยิ่งกว่าที่เคย ซึ่งเปิดรับทุกผู้ทุกคนมากกว่าที่จะจำกัดกันอยู่เฉพาะกลุ่ม รวมทั้งเป็นมิตรต่อกันมากกว่าที่จะมาตัดสินกัน
Twitch ได้ดำเนินการศึกษาวิจัยร่วมกับ Crowd DNA ที่เป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านข้อมูลเชิงลึกและกลยุทธ์สำหรับแบรนด์ เพื่อทำความเข้าใจแฟนๆ เหล่านี้ แนวทางการคิด และการเปิดใจรับแบรนด์ต่างๆ ของแฟนประเภทนี้ให้ดีขึ้น ผลการศึกษาจัดทำขึ้นเป็น Anatomy of Hype: Engaging fans in a new era of fandom ซึ่งเป็นรายงานที่จัดทำขึ้นตามผลลัพธ์จากการสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญ การสนทนากลุ่ม 10 กลุ่ม และแบบสำรวจต่อแฟนคลับ 12,000 คนใน 12 ประเทศ
ไม่ว่าจะสนใจเรื่องอะไรก็มีกลุ่มให้เข้าไปร่วม
ทุกวันนี้แทบจะมี Fandom (Fanclub + Kingdom = Fandom ((แฟนด้อม)) ในทุกอย่างที่คุณชื่นชอบ ไม่ว่าจะเป็นกีฬาเฉพาะกลุ่มอย่างกีฬารีดผ้าผาดโผน หรือแฟรนไชส์ใหญ่ยักษ์อย่าง Lord of the Rings การหาแฟนๆ ที่ชอบเรื่องเดียวกันก็ง่ายยิ่งกว่าที่เคย
ผู้ที่ตอบแบบสำรวจรายงานว่าพบเห็นการเติบโตที่สูงขึ้นมากในด้านความนิยมของแฟนด้อมตลอดช่วงปีที่ผ่านมา ทั้งในแฟนด้อมการเล่นเกม (+26%) ไปจนถึงกีฬา (+20%) หรือแม้แต่ไซไฟและแฟนตาซี (+19%) แต่ไม่ใช่แค่จำนวนคนเท่านั้น ผู้ตอบแบบสำรวจยังพบเห็นการเพิ่มขึ้นในแง่ของวิธีต่างๆ ที่แฟนจะติดต่อสื่อสารกัน จำนวนเนื้อหาที่แฟนสร้างขึ้นมา รวมถึงความไม่แบ่งแยกก็ด้วย
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าสาเหตุหลักของจำนวนเหล่านี้คือเครื่องมือและเทคโนโลยีที่เข้าถึงได้มากขึ้น ซึ่งเป็นการขจัดอุปสรรคในการติดต่อสื่อสารข้ามพรมแดนและการสร้างเนื้อหาไปได้อย่างมาก แต่ก็ต้องไม่มองข้ามเหตุผลอันเป็นรากฐานว่าเพราะเหตุใดผู้คนจึงต้องการที่จะเข้าร่วมแฟนด้อมตั้งแต่แรก ซึ่งก็คือปัจจัยด้านชุมชนนั่นเอง
ค้นพบขุมพลังแหล่งชุมชน
การเป็นแฟนที่ชื่นชอบอะไรสักอย่าง ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องปิดบังเพราะกลัวจะอายอีกต่อไป แต่กลับเป็นเครื่องหมายเกียรติยศให้อวดได้อย่างภาคภูมิใจ ทุกวันนี้การสะสมการ์ด Pokémon ก็เป็นเรื่องปกติทั่วไปที่ยอมรับได้เช่นเดียวกับการเชียร์ทีม Football และความนิยมที่เพิ่มสูงขึ้นของแฟนด้อมก็ส่งผลให้การเรียกตัวเองว่าแฟนที่ชื่นชอบอะไรก็ตามที่ตัวเองโปรดปรานกลายเป็นเรื่องที่ยอมรับได้มากขึ้น โดยที่ไม่ต้องกลัวว่าจะถูกใครตัดสิน ซึ่ง 63% จากผู้ที่ตอบแบบสำรวจระบุว่าตนเองภูมิใจในการแฟนคลับ ขณะที่ 71% เห็นด้วยว่าการเป็นแฟนคลับนั้นเท่ดี
ในด้านแง่มุมทางสังคม ผู้ตอบแบบสำรวจ 62% พิจารณาว่าตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน และ 90% มีความชอบร่วมกับคนที่ตัวเองรู้จัก โดยน่าสนใจตรงที่เกือบ 4 ใน 5 คนค้นพบความสนใจของตนผ่านผู้คนในชีวิตของตัวเอง ซึ่งนับว่ายอดเยี่ยมอย่างยิ่งเพราะการเข้าร่วมแฟนด้อมสามารถช่วยกระชับความสัมพันธ์ที่แฟนๆ มีอยู่แล้วให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นได้
นอกเหนือจากเรื่องการเติมเต็มความต้องการทางสังคม เช่น การช่วยมอบความรู้สึกถึงการเป็นส่วนหนึ่งที่เราทุกคนล้วนปรารถนา การเป็นส่วนหนึ่งของแฟนด้อมยังสามารถตอบโจทย์ความต้องการด้านอารมณ์หลายๆ อย่างของเราได้ด้วย รวมทั้งสามารถช่วยเราสร้างอัตลักษณ์ขึ้นมาและสนับสนุนเราในลักษณะที่ยากจะหาได้ในแง่มุมอื่นของชีวิต ซึ่งในความจริงแล้วนั้น 70% ของแฟนๆ ที่ตอบแบบสำรวจระบุว่าแฟนด้อมของตัวเองและชุมชนที่โอบล้อมคือส่วนหนึ่งในชีวิตแต่ละวันของตน โดยที่เหตุผลหลักบางส่วนที่ทำให้กลายเป็นแฟนคลับประกอบด้วยช่องทางที่ช่วยให้หนีจากความจริง แรงสนับสนุน และชุมชน
ยุครุ่งโรจน์ของแฟนๆ ที่ปล่อยใจเปิดกว้าง
ก่อนหน้านี้ไม่นาน คนที่สนใจอยากเป็นแฟนคลับยังต้องพิสูจน์ความรู้และความทุ่มเทของตัวเองก่อนจึงจะเป็นที่ยอมรับหรือแม้แต่จะได้รับการพิจารณาอย่างจริงจังภายในแฟนด้อม แต่ปัจจุบันนี้ อะไรต่างๆ ไม่จำเป็นต้องเป๊ะเท่าเดิม อีกทั้งยังมีกลุ่มใหม่ที่กลายเป็นที่นิยมที่เข้าใจว่ามีวิธีมากมายหลายแบบให้แสดงความชื่นชอบต่อแฟนด้อมได้ กลุ่มนี้ไม่นิยมแนวคิดที่ตายตัวแบบเดิมๆ แล้วก็เปิดรับการมีส่วนร่วมและการโต้ตอบกันมากกว่าแฟนขาจร
แฟนคลับประเภทนี้เรียกว่าแฟนคลับที่ปล่อยใจเปิดกว้าง ซึ่งไม่ค่อยสนใจนักว่าเพื่อนร่วมด้อมจะแสดงความชอบของตัวเองออกมาอย่างไร แต่จะสนใจเกี่ยวกับการค้นพบและการมีส่วนร่วมกับเนื้อหาใหม่ๆ ให้สนุกมากกว่า อีกทั้งยังรู้สึกสบายใจที่จะแสดงตัวตนผ่านหลายๆ ชุมชนที่ตนเข้าร่วม ซึ่งเมื่อขอให้เลือกจากรายการแฟนด้อมโดยรวมกว้างๆ 10 ประเภท ตั้งแต่อนิเมะไปจนถึง gadgets ผลิตภัณฑ์เทคโนโลยี แฟนคลับที่ปล่อยใจเปิดกว้างก็ระบุว่าตนเข้าร่วมแฟนด้อมต่างๆ โดยเฉลี่ยถึง 7.6 กลุ่มด้วยกัน
แนวทางอันนำไปสู่ความไม่แบ่งแยกนี้ไม่ได้หยุดที่เท่านี้ แต่ยังครอบคลุมหมวดหมู่แต่ละหมวดหมู่ด้วย ยกตัวอย่างเช่น แฟนเพลงที่ตอบแบบสำรวจระบุว่าตนชื่นชอบแนวดนตรีที่แตกต่างกันไปโดยเฉลี่ยที่ 4 แนว ขณะที่แฟนสายเล่นเกมตอบว่าตนชอบแนวเกมต่างๆ โดยเฉลี่ยที่ 5.8 แนว
แล้วก็เป็นแนวคิดที่ไม่แบ่งแยกเช่นนี้และความต้องการที่จะค้นพบ เรียนรู้ และสานสัมพันธ์ที่ส่งผลให้แฟนด้อมกลายเป็นแหล่งที่เต็มไปด้วยศักยภาพแหล่งใหม่ให้แบรนด์วางรากฐานระยะยาวได้ ดูจากการที่ผู้ตอบแบบสำรวจ 61% กล่าวว่าตนชอบให้แบรนด์สนับสนุนหรือสร้างเนื้อหาที่เกี่ยวกับแฟนด้อมของตนเอง จึงเห็นได้ง่ายว่าบริษัทต่างๆ สามารถเข้าไปมีส่วนร่วมในการสร้างคุณค่าและการจดจำเป็นตัวเลือกในใจกับกลุ่มเป้าหมายที่มีส่วนร่วมและเปิดใจกว้างได้
แล้วแฟนๆ เหล่านี้ใช้ช่องทางใดในการเสพความชอบของตัวเองล่ะ คำตอบแบบรวบรัดคือ ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัย โดยสำหรับความบันเทิง การเรียนรู้ และการเชื่อมต่อกับอินฟลูเอนเซอร์และผู้เชี่ยวชาญ ช่องทางผ่านวิดีโอไลฟ์สตรีมอย่าง Twitch ก็เป็นที่นิยม หากแฟนๆ ต้องการพูดคุยสังสรรค์กับแฟนคลับคนอื่น โซเชียลมีเดียและฟอรัมพูดคุยก็เป็นช่องทางที่จะเลือก ซึ่งในการที่จะเจาะขุมพลังของแฟนคลับที่ปล่อยใจเปิดกว้างให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้น แบรนด์ไม่เพียงต้องทราบเป้าหมายและเหตุผล แต่ยังต้องทราบแหล่งและลักษณะพฤติกรรมของแฟนๆ อีกด้วย
เหล่าแฟนคลับทิ้งแนวทางที่ปิดกั้นกันอยู่เฉพาะกลุ่มเพื่อเปิดรับความไม่แบ่งแยกและชุมชนที่เป็นมิตร โดยได้ละทิ้งแนวคิดที่ตายตัว กฎเกณฑ์ และความคาดหวังต่างๆ แล้วเปิดรับความลื่นไหล ตลอดจนการมีความสนใจและวิธีในการแสดงแฟนด้อมที่หลากหลาย แฟนคลับพัฒนาเติบโตขึ้นจากเดิม ชุมชนที่แฟนๆ สร้างขึ้นก็ย่อมมีวิวัฒนาการตามกัน ประตูสู่พื้นที่สำคัญที่แฟนๆ ใช้เวลาส่วนมากของตนได้เปิดออกแล้ว ทั้งสำหรับแฟนคลับหน้าใหม่และแบรนด์ที่สนับสนุน หากเข้าใจวัฒนธรรมแฟนคลับในปัจจุบันอย่างลึกซึ้งมากขึ้น แบรนด์ก็จะสามารถดึงดูดแฟนๆ รวมถึงกระชับสายสัมพันธ์กับชุมชนแฟนคลับให้แน่นแฟ้น และสร้างฐานแฟนคลับตัวยงของตัวเองขึ้นมาได้เมื่อเวลาผ่านไป
หากต้องการดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการศึกษาวิจัยและวิธีที่แบรนด์สามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งในกระแส Hype โปรดติดต่อ Twitch Ads