ทำการตลาดยุคใหม่ด้วยพลัง Generative AI, CDP และ Marketing Automation ในยุคที่โลกไร้คุกกี้

  • 51
  •  
  •  
  •  
  •  

โลกการตลาดในยุคปัจจุบันต้องเรียกว่าเปลี่ยนแปลงไปแทบทุกๆวัน พร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ๆและ Regulation ใหม่ที่เกิดขึ้นในโลกยุคดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี Generative AI เทคโนโลยีใหม่จะเข้ามาช่วยนักการตลาดให้ทำงานได้ง่ายขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้นในปัจจุบัน รวมไปถึงโลกที่กำลังจะก้าวไปสู่ยุค “ไร้คุกกี้” หรือ Cookieless World ที่ทำให้ 3rd Party Data เริ่มหมดความสำคัญลง ส่งผลให้การทำ Data Driven Marketing ในอนาคตมีความสำคัญมากขึ้น

นั่นเป็นเหตุผลให้ BrandBaker เอเจนซี่โฆษณาดิจิทัลที่โดดเด่นในเรื่องการวางกลยุทธ์ที่ทำได้จริงร่วมกับ Connext-X ผู้ให้บริการ CDP Platform และ Google จัดงานสัมมนา The Future of Data Driven Marketing with GenAI ขึ้นเพื่อฉายภาพการทำการตลาดยุคใหม่ด้วย 3 สิ่งสำคัญคือ Generative AI, CDP หรือ Customer Data Platform เทคโนโลยีเก็บข้อมูลที่ช่วยงานการตลาด ที่ปัจจุบันสามารถทำสิ่งสำคัญอย่างที่ 3 ได้ก็คือ Marketing Automation นั่นเอง

โลกเปลี่ยนการตลาดต้องเปลี่ยน

สิ่งที่นักการตลาดทราบกันดีก็คือโลกของเรามี Regulation เรื่อง ความเป็นส่วนตัว หรือ Privacy เพิ่มขึ้นอย่างในประเทศไทยก็มีกฎหมาย พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือ PDPA แล้ว ในเรื่องความเป็นส่วนตัวนี้ ทำให้ DATA ที่ใช้ในการติดตามพฤติกรรมการใช้งานโลกออนไลน์ผ่านเบราเซอร์ต่างๆกำลังจะยุติลงไม่ว่าจะเป็น Google ที่เริ่มปิดการเก็บ 3rd Party Data ลงแล้วในหลายๆประเทศ เริ่มมีการนำเทคโนโลยีใหม่ (Topics of Interest) เข้ามาใช้แทน ด้าน Safari ก็เริ่มยุติการใช้ UTM Tracking ในส่วนของระบบปฏิบัติการ iOS เองก็มีระบบ Ask App Not to Track ส่งผลให้การเก็บข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานผ่านแอพพลิเคชั่นต่างๆทำได้ยากขึ้น นั่นทำให้การเก็บ 1st Party Data และการใช้ CDP มีความสำคัญมากยิ่งขึ้นพร้อมๆกับการนำ Marketing Automation และ AI เข้ามาช่วย ในการทำการตลาดแบบ Personalization เพื่อสร้างยอดขายตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ได้มากที่สุดในยุคนี้

Generative AI กับการหา Insight ทำแคมเปญการตลาด

คุณจิ๊บ สุรศักดิ์ เหลืองอุษากุล Founder และ Director of Planning & Idea จาก BrandBaker เล่าให้ฟังถึง Use Case ที่น่าสนใจในการนำ Generative AI มาใช้วิเคราะห์ข้อมูลหา Insight เพื่อให้กระบวนการสร้างคอนเทนต์ในการทำการตลาดรวดเร็วขึ้นง่ายขึ้นและหลากหลายมากขึ้นได้อย่างไร โดยหนึ่งตัวอย่างที่น่าสนใจก็คือการนำเอาความสามารถในการ Summarize ข้อมูลของ Generative AI แบบ Image to Text อย่าง Google Bard หรือ ChatGPT มาใช้ในการสรุปความคิดเห็นของลูกค้าจำนวนมากเพื่อหา painpoint หลัก นำไปสู่การคิด slogan ช่วยคิดคิด Content Pillar ไปจนถึงการคิด คอนเทนต์ในแต่ละ pillar  ในส่วนของ Generative AI แบบ Text to Image อย่าง Midjourney ก็สามาถนำไปใช้ออกแบบโลโก้สำหรับแบรนด์ หรือแม้แต่การสร้างคอนเทนต์โฆษณาทั้งข้อความและภาพสำหรับสื่อสารผ่านช่องทางต่างๆกันได้

ใช้ Google Bard สรุปความคิดเห็นของลูกค้าเป็นจุดเริ่มต้นไปสู่การคิดแคมเปญทางการตลาดต่อไป

“Gen-AI ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้เราทั้งในงานด้านการตลาดและการโฆษณา ทำให้เราสร้างคอนเทนต์ ได้คล่องตัว ช่วยวิเคราะห์ข้อมูล และทำให้การทำงานในแต่ละวันมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น แต่ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เราแตกต่าง อย่างชัดเจน คือในแต่ละแคมเปญที่เราสร้างออกไปนั้น ทีมงานของเราใส่ใจลงไปในทุกรายละเอียด เพื่อให้เข้าถึง อารมณ์และความรู้สึกของกลุ่มเป้าหมาย” คุณจิ๊บ ระบุ

CDP ศูนย์กลางข้อมูลที่ตอบโจทย์การตลาด

ในโลกยุคปัจจุบันการทำ Data Driven Marketing สำคัญมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆโดยเฉพาะการเก็บข้อมูล 1st Party Data อย่างเป็นระบบและสามารถนำไปใช้งานทางการตลาดต่อได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยเฉพาะในยุคที่เราไม่สามารถใช้ 3rd Party Data มาใช้ทำการตลาดที่ตอบโจทย์ได้อีกต่อไป ซึ่งสิ่งที่สำคัญก็คือการต้องมี CDP ที่ตอบโจทย์การใช้งาน

คุณตั้น นิวัฒน์ ชาตะวิทยากูล Founder และ Director of Technology บริษัท BrandBaker เล่าให้ฟังว่า CDP นี้ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางสำหรับการรวบรวมข้อมูลลูกค้าจากแหล่งต่าง ๆ เรียกได้ว่าเก็บทุกลมหายใจของลูกค้า เช่น การติดต่อทางอีเมล การเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ ระยะเวลาดู จำนวนคลิก การซูมรูป และกิจกรรมทางโซเชียลมีเดีย “แหล่งข้อมูล Insight ลูกค้าแบบเบ็ดเสร็จนี้” ไม่เพียงแค่รวบรวม ข้อมูลเท่านั้น แต่ยังช่วยให้แต่ละแบรนด์ หรือธุรกิจสร้างโปรไฟล์ลูกค้าแบบละเอียด ประเมินมูลค่าที่ลูกค้าแต่ละรายใช้จ่ายไปกับแต่ละสินค้าหรือบริการของธุรกิจนั้นๆและ สร้างแคมเปญ แบบเฉพาะเจาะจง กับลูกค้าแต่ละรายได้

ปัจจุบัน CDP เป็นส่วนสำคัญในการทำ Data-Driven Marketing ที่มีเป้าหมาย 3 ส่วนคือการเพิ่มประสิทธิภาพของโฆษณาในยุคที่ไม่มีคุกกี้ การสร้าโอกาสของแบรนด์โดยใช้ Data-Driven Strategy และ เพิ่มประสิทธิภาพในการทำการตลาดด้วย Martech ต่างๆ ซึ่งแพลทฟอร์ม CDP ที่ดีก็จะเข้ามาช่วยเชื่อมโยงข้อมูลจากช่องทางต่างๆเข้ามาด้วยกันและสามารถนำมาวิเคราะห์อย่างเป็นระบบได้

Marketing Automation เสริมพลัง CDP

การนำเอาทั้ง Generative AI และ CDP มาทำงานร่วมกับระบบ Marketing Automation เป็นการเสริมพลังทำให้งานการตลาดมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ดีมากขึ้น Personalize ได้มากขึ้นอีกทั้งยังประหยัดทรัพยากรได้มากขึ้น

การสร้าง Automation Journey ใน CDP

คุณเกท วรภัทร ศศิบุตร Head of Solution Delivery บริษัท ConnectX โชว์ตัวอย่าง Use Case ของระบบ Marketing Automation ในระบบ CDP ของ ConnextX เอาไว้อย่างน่าสนใจเช่น การสร้าง Marketing Automation Journey ในช่องทางต่างๆได้ไม่ว่าจะเป้น Facebook, Line, Instagram หรือ อีเมล์ ซึ่งสามารถวัด Reach วัดจำนวนคลิก สามารถตั้งค่าอัตโนมัติต่างๆได้เช่น ถ้าลูกค้าได้รับข้อความทาง Line แล้วไม่คลิกสามารถให้ระบบส่ง SMS ต่อในทันทีโดยอัตโนมัติได้

ตัวอย่างการเชื่อมโยงลูกค้าจาก offline สู่ online

หลังจากตั้ง Journey ไว้แล้วระบบ Automation ก็จะทำงานโดยอัตโนมัติ ซึ่งระบบนี้จสามารถนำมาใช้เชื่อมโยงลูกค้าจาก offline สู่ online ได้ ยกตัวอย่างเช่น เมื่อลูกค้าเข้าร้านและสมัครสมาชิกข้อมูลลูกค้าจะไหลเข้าสู่ CDP ในทันทีซึ่งระบบ CDP ที่มี Automation ก็จะส่ง Email ขอบคุณในทันที หลังจากนั้น 1 วันสามารถตั้งให้ระบบส่งโปรโมชั่นทาง SMS หรือ Email แนะนำสินค้าอื่นๆ หรือโปรโมชั่นอื่นๆในเว็บไซต์ เพิ่มได้ต่อไปแบบอัตโนมัติได้

ใช้ Automation กระตุ้นการซื้อซ้ำ

ระบบ Automation ใน CDP สามารถ “ช่วยให้เกิดการซื้อซ้ำได้” ตัวอย่างเช่น เมื่อลูกค้าทักแชทไลน์มาซื้อสินค้าซ้ำทุกๆ 3-4 สัปดาห์ ระบบสามารถตั้งค่าให้ส่งโปรโมชั่นให้ลูกค้าคนนี้ล่วงหน้าก่อนครบกำหนดได้โดยอัตโนมัติเพื่อกระตุ้นให้ซื้อเพิ่มได้

กระตุ้นการซื้อด้วย Web Push

หรือแม้แต่การขายสินค้าในเว็บไซต์เมื่อลูกค้ากดสินค้าใส่ตะกร้าเอาไว้แล้วยังไม่ซื้อสามารถตั้ง Automation จากระบบ CDP เพื่อส่ง push pop-up ขึ้นที่มุมขวาบนได้ว่ามีสินค้าในตะกร้าเพื่อกระตุ้นให้ซื้อ รวมไปถึงสามารถส่ง SMS หรือ Email ไปกระตุ้นหรือให้ส่วนลดเพิ่มแบบ Personalize ได้เช่นกัน

สร้างความภักดีต่อแบรนด์

หรือแม้แต่การทำ Loyalty Program ก็สามารถทำได้เช่นเมื่อลูกค้าซื้อกล้องไปแล้ว 1 เดือน เราสามารถตั้งค่า CDP ให้ส่งโปรโมชั่น หรือแนะนำสินค้า Accessories อื่นๆตามไปได้โดยอัตโนมัติเป็นต้น

ช่วย Upsale ได้โดยอัตโนมัติ

ไม่เว้นแม้แต่การ “เพิ่มยอดขาย” ก็สามารถทำได้ ยกตัวอย่างเช่นลูกค้าจองโรงแรมผ่านระบบเว็บไซต์เรียบร้อยแล้วก่อนเข้าพักสามารถส่งโปรโมชั่นอัพเกรดห้องหรือแพ็กเกจอาหารให้ซื้อเพิ่มได้โดยอัตโนมัติ หรือถ้ายังไม่เช็คเอาท์ก็ส่งโปรโมชั่นจองห้องพักต่อในราคาพิเศษได้เช่นกันเป็นช่องทางในการ upsale อีกรูปแบบหนึ่ง

ทั้งหมดนั้นคือพลังของ Generative AI, CDP และ Marketing Automation ที่จะมีบทบาทสำคัญในการทำกาตลาดในยุคไร้คุ๊กกี้ ที่ 3rd Party Data ลดความสำคัญลงในทุกวันนี้ ในขณะที่ 1st Party Data จะสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆและเครื่องมือที่สำคัญที่สุดก็คือ CDP ที่จะมามีบทบาทในการทำ segmentation ทำแคมเปญแบบ Personalization เพื่อสื่อสาร เพิ่มยอดขาย สร้าง Loyalty และทั้งหมดนี้จะทำได้อย่างมีประสิทธิภาพง่ายและรวดเร็วมากยิ่งขึ้นด้วยระบบ Automation และ Generative AI


  • 51
  •  
  •  
  •  
  •