หลังความหวั่นเกรงว่า AI จะสร้างปัญหาให้เกิดขึ้น ซึ่งจากการติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับความกลัวการพัฒนา AI ทำให้สามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเด็นด้วยกัน โดยประเด็นแรกเป็นความกลัวว่า AI จะมองมนุษย์เป็นภัยคุกคามเหมือนนวนิยายวิทยาศาสตร์ และประเด็นต่อมาเป็นความกลัวว่า จะมีการใช้ AI ในทางที่ผิดอย่างการหลอกลวง การบูลลี่ เป็นต้น
เพื่อป้องกันและคลายความกังวลในประเด็นที่สอง Big Tech อย่าง Meta, Google, Anthropic, Inflection, Amazon และ Microsoft ในฐานะผู้ลงทุนใน OpenAI พร้อมใจกันเข้าพบประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ทำเนียบขาว และให้คำมั่นว่าจะทดสอบระบบ AI อย่างเข้มงวดก่อนเผยแพร่ รวมถึงแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับมาตรการลดความเสี่ยงและการลงทุนในระบบความปลอดภัยทางไซเบอร์
ความเคลื่อนไหวดังกล่าว ส่งสัญญาณให้เห็นว่า ภาครัฐกำลังจับตาและให้ความสำคัญกับเรื่องของความปลอดภัยและควบคุมเทคโนโลยี AI ซึ่งที่ผ่านมามีการพัฒนาอย่างรวดเร็วแบบก้าวกระโดด โดยเฉพาะในภาคธุรกิจ อย่างข้อกังวลในเรื่องการสื่อสารที่เหมือนมนุษย์โดย ChatGPT ทำให้ภาครัฐเกรงว่า อาจถูกนำไปใช้ในการหลอกลวง
ข้อกังวลเห็นได้ชัดมากขึ้น เมื่อสภาของสหรัฐฯ กำลังพิจารณาร่างกฎหมายที่จะบังคับให้โฆษณาที่เกี่ยวกับทางการเมืองเปิดเผยว่า มีการใช้ AI ในการสร้างภาพหรือเนื้อหาหรือไม่ และอาจกลายเป็นแม่แบบให้กับกฎหมายในหลายประเทศ
โดย Big Tech ได้ให้คำมั่นว่าจะพัฒนาระบบลายน้ำที่สามารถใช้กับเนื้อหาทุกรูปแบบที่สร้างโดย AI รวมถึงข้อความ รูปภาพ เสียง และวิดีโอ ลายน้ำจะถูกฝังโดยใช้เทคนิคพิเศษเพื่อให้อยู่ในเนื้อหา ทำให้ผู้ใช้สามารถระบุได้ว่า เทคโนโลยี AI ถูกนำมาใช้ในการสร้างสรรค์ผลงานชิ้นใด การใส่ลายน้ำเพื่อช่วยการหลอกลวงทำได้ยากลำบากมากขึ้น โดยวิธีแสดงลายน้ำยังไม่มีความชัดเจนในวิธีการ
Source: Reuters , Business Today