“เฮียฮ้อ” มองโอกาสธุรกิจบันเทิง เติบโตได้เพราะออนไลน์ ชูเรือธง RS Music ดาวรุ่งหลังปรับโครงสร้างใหม่ หวังให้ รบ.ช่วยซัพพอร์ต

  • 21
  •  
  •  
  •  
  •  

 

บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ อาร์เอส กรุ๊ป ฟื้นตัวแรง ทำกำไรไตรมาส 1/2566 ที่ 92 ล้านบาท จากรายได้รวม 813 ล้านบาท โดยกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นถึง 67% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลจากการฟื้นตัวของธุรกิจสื่อ และรายได้จากการจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ที่สูงขึ้น รวมไปถึงการรับรู้กำไรพิเศษจากการขายหุ้น CHASE บางส่วน มั่นใจครึ่งปีหลังรายได้เติบโตต่อเนื่องจากการจัดกิจกรรม คอนเสิร์ตและอีเวนต์ต่างๆ พร้อมเดินหน้าลุยเจรจาพาร์ทเนอร์รายใหญ่-รายย่อย ปิดดีลใหม่ๆ ทั้งธุรกิจคอมเมิร์ซ และธุรกิจมีเดียและเอ็นเตอร์เทนเมนต์ ภายใต้โมเดล Entertainmerce ที่เป็นแต้มต่อสำคัญที่ทำให้ อาร์เอส กรุ๊ป แตกต่างและดึงดูดใจพาร์ทเนอร์ทั้งในและต่างประเทศ ขณะที่ธุรกิจเพลงเร่งยกเครื่องปรับโครงสร้างใหม่เพื่อ spin-off เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ในปีหน้า ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยผลักดันให้บริษัทฯ เติบโตในหลายมิติ ทั้งในแนวตั้งและแนวราบ รวมถึงในด้านรายได้ที่น่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้

 

“เฮียฮ้อ” หรือ สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “แม้ในช่วงต้นปี จะเป็นช่วง Low season ของธุรกิจสื่อโฆษณา แต่รายได้ของ กลุ่มธุรกิจสื่อ ของอาร์เอส กรุ๊ป กลับเติบโตสูงกว่าอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นผลมาจากการปรับโครงสร้างบริหารการขายทุกสื่อโฆษณาให้มารวมศูนย์อยู่ภายใต้สายงานการตลาดและขายสื่อโฆษณา (Media sales and Marketing) รวมไปถึงการจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ไปสู่ OTT platform และต่างประเทศที่สูงขึ้น ทำให้รายได้รวมอยู่ที่ 419 ล้านบาท

 

ส่วนของ ธุรกิจคอมเมิร์ซ นั้น RS Mall ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มจำหน่ายสินค้าของเรา ได้ปรับกลยุทธ์เพิ่มความหลากหลายของประเภทสินค้า ทั้งเครื่องใช้ภายในบ้าน เครื่องใช้ไฟฟ้า และกลุ่มอาหารเสริมอื่นๆ ที่ไม่ได้ทับซ้อนกับสินค้าที่พัฒนาภายใต้บริษัท RS Livewell จึงทำให้ลูกค้ามีทางเลือกเพิ่มขึ้นและเป็นการขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้นด้วย ส่วน RS Connect ที่ประกอบด้วย ULife กับ DeBeste ก็มีการสร้างโมเดลธุรกิจใหม่ๆ เพื่อเสริมสร้างการเติบโตของรายได้ในระยะยาว ทำให้รายได้จากธุรกิจคอมเมิร์ซของไตรมาสแรกอยู่ที่ 395 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังรับรู้กำไรพิเศษจากการขายหุ้น CHASE บางส่วน มองว่าในไตรมาส 2/2566 รายได้จะกลับมาทำ New High อีกครั้งจากการจัดกิจกรรมทั้งคอนเสิร์ต อีเวนต์ รวมไปถึงการเพิ่มรายได้ใหม่ๆ จากธุรกิจคอมเมิร์ซ”

 

กางแผนรุกใน Q2

อย่างไรก็ดี ในไตรมาส 2 จนถึงสิ้นปี 2566 อาร์เอส กรุ๊ป มีแผนการดำเนินงานและเป้าหมายสร้างการเติบโตทางธุรกิจให้เติบโตอย่างต่อเนื่องในทุกกลุ่มธุรกิจ โดยมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้

 

RS Livewell

เดินหน้าออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ในหมวดผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร, ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม และผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนตัวภายใต้แบรนด์ well u, Vitanature+ ในส่วนของแบรนด์ Lifemate ล่าสุดได้ออกผลิตภัณฑ์ Lifemate Natural Pet Deo-Nourishing Spray สเปรย์ดับกลิ่นไม่พึงประสงค์ ฉีดแล้วหอม พร้อมบำรุงผิว ยับยั้งแบคทีเรียได้ 99.99% ด้วยเทคโนโลยีไมโครแคป และ Lifemate Booster อาหารพักฟื้นสูตรโภชนาการครบถ้วน สำหรับสัตว์พักฟื้น ทานน้อย ต้องการสารอาหารและการบำรุง ด้าน RS Mall เพิ่มความหลากหลายของสินค้าจากพาร์ทเนอร์ พร้อมขยายช่องทางการขายไปยังสถานีโทรทัศน์ช่องอื่นๆ เพื่อขยายกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย โดยเริ่มตั้งแต่ช่วงปลายไตรมาส 1/2566

“ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ แม้ตอนนี้ตลาดจะได้รับผลกระทบจากการที่ผู้บริโภคยังไม่ฟื้นตัวดีนัก แต่กำลังซื้อของผู้บริโภคก็ค่อยๆ เริ่มกลับมา ทำให้รายได้เราทรงตัว และเชื่อว่าจะฟื้นตัวในช่วงครึ่งปีหลัง โดยเรามีแผนจะออกสินค้าใหม่ เอสเคยูใหม่ซึ่งเชื่อว่าจะทำจะสามารถสร้างรายได้ให้กับเราได้”

 

RS Connect

พัฒนาโมเดลธุรกิจให้มีความหลากหลาย สามารถขายสินค้าได้ง่ายขึ้น มีการเปิดตัวยูไลฟ์ สเปซ ศูนย์บริการสำหรับลูกค้าและตัวแทนจำหน่าย (Business Partners) แบบครบวงจร พร้อมด้วยโซนช้อปปิ้งที่เปิดให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์นวัตกรรมคุณภาพสูงของยูไลฟ์ได้อย่างสะดวกสบายไร้รอยต่อยิ่งขึ้น รวมไปถึงการสร้างรายได้จากการแตกไลน์โมเดลธุรกิจ ‘ปิ่นโต’ ธุรกิจโมเดลใหม่สำหรับจำหน่ายสินค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพแบบ Subscription เสริมสร้างความสามารถในการแข่งขัน

“สำหรับ RS Connect เราจะใช้กลยุทธ์แบบปิ่นโต คือ Subscription เชื่อมโยงกับ ULife และ DeBeste เชื่อว่าเราจะเห็นผลลัพธ์กลยุทธ์นี้ในช่วงครึ่งปีหลัง”

 

RS Pet All

เริ่มต้นธุรกิจด้วยการเข้าลงทุนใน บริษัท ฮาโตะ เพ็ท เวลเนส เซ็นเตอร์ จำกัด (Hato Pet Wellness Center) ศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตสัตว์เลี้ยงครบวงจรและเป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน “Preventive Program” โปรแกรมการป้องกันดูแลและส่งเสริมให้สัตว์เลี้ยงมีสุขภาพแข็งแรงชั้นนำของประเทศไทย ในสัดส่วน 51% ซึ่งล่าสุด ได้ทำการเปิดตัวโรงพยาบาลสัตว์กรุงเทพ-ชัยพฤกษ์ ศูนย์สุขภาพสัตว์เลี้ยงครบวงจร เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ที่แมสมากขึ้น นำเสนอบริการคุณภาพในราคาที่เข้าถึงได้ โดย อาร์เอส กรุ๊ป พร้อมที่จะสนับสนุนให้ Hato เป็นที่รู้จักและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น

“เร็วๆ นี้เตรียมที่จะเปิด เพ็ทช็อป แฟล็ฟชิพสโตร อีกด้วย โดยปิดปีจะเปิดถึง 6-7 สาขา เพราะเป็นแพสชั่นส่วนตัว ความที่ผมเป็นทาสน้องหมา และมั่นใจว่า Pet Economy จะทำให้เราสำเร็จตามเป้าได้ ซึ่ง Q1 เราก็ทำรายได้ไปแล้วกว่า 5 พันล้านบาท มีกำไร 10-20% ปีนี้ก็น่าจะจบตามเป้าหมายและเติบโตแบบก้าวกระโดด”

 

RS Multimedia

สำหรับช่อง 8 หลังจากมีการปรับกลยุทธ์ตามยุทธศาสตร์ให้สอดคล้องกับสโลแกน “ข่าวช่อง 8 ที่นี่ของจริง” และการกลับมาอ่านข่าวอีกครั้งของ “พุทธ อภิวรรณ” ในรายการ “ลุยชนข่าว” ส่งผลให้เรตติ้งพุ่งแรงต่อเนื่อง ล่าสุดคว้าเรตติ้ง Nationwide 1.2% และสามารถเข้าถึงฐานผู้ชมกว่า 3.2 ล้านคน และจากนี้จะได้เห็นการปรับผังรายการต่างๆ ให้มีความเข้มข้นโดนใจกลุ่มเป้าหมายยิ่งขึ้น

 

RS Music

กำลังเปิดรับออดิชั่นคนรุ่นใหม่ที่มีความฝันก้าวสู่การเป็นศิลปินในสังกัด RS Music ภายใต้ โปรเจค RS Newcomers ในส่วน โปรเจค RS Homecoming นั้น มีการเปิดตัวศิลปินเบอร์แรก “บีม กวี” ที่กลับมาครั้งนี้พกพาความสนุกมาแบบคูณสาม กับการรวมตัวครั้งสำคัญของพ่อพ่อบีมกับแฝดตัวแสบอย่างพี่ธีร์น้องพีร์ใน Single ใหม่ เเนวเพลง Electronic Pop กับเนื้อหาเพลงของตัวพ่อสายเปย์ “Calll Me Daddy” ที่พร้อมทุ่มทั้งหัวใจ เปย์ไวแบบ Full Option! ติดตามชมความสนุกแบบจัดเต็มใน Music Video เพลง “Call Me Daddy”- Beam ft. Thee Phee 30 พฤษภาคมนี้ ในขณะเดียวกัน RS Music ได้เตรียมแต่งตั้งที่ปรึกษาทางการเงิน เพื่อเตรียมความพร้อมนำ RS Music เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ภายในเดือนพฤษภาคมนี้เช่นกัน

ในปีนี้ ยังมีกิจกรรมความบันเทิงอื่นๆ อีกมากมาย อาทิ ‘VIBE SQUARE’ จาก 4th Apple โชว์เคสพิเศษจากศิลปินไทยที่จะโรดโชว์ไปตามสถานที่ต่างๆ คอนเสิร์ตและมิวสิคเฟสติวัลที่จัดขึ้นโดย COOLive และคอนเสิร์ต Grammy-RS ที่กลายเป็นปรากฏการณ์ครั้งประวัติศาสตร์ อีก 3 คอนเสิร์ต

นอกจากนี้ RS Music ยังมีแผนปิดดีลกับพาร์ทเนอร์ต่างประเทศในเร็วๆ นี้ ซึ่งเป็นดีลขนาดใหญ่ที่จะสร้างมูลค่าให้ทั้งกลุ่มและเป็นจิ๊กซอว์สำคัญในการผลักดัน RS Music ให้มีศักยภาพ ขยายธุรกิจให้เติบโตได้ทั้งในประเทศและระดับโลก และมีการปรับโครงสร้างธุรกิจเพลงใหม่ โดยรวมธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับเสียงเพลงทั้งหมดมาไว้ด้วยกัน ได้แก่ 3 ค่ายเพลงหลัก, สถานีเพลง COOLFahrenheit, โชว์บิส, การทำการตลาดออนไลน์และ ออนกราวนด์ รวมถึง Artist Management  ซึ่งการปรับเปลี่ยนโครงสร้างภายในให้ชัดเจน และการปรับกลยุทธ์ของแต่ละธุรกิจให้สอดคล้องกับสถานการณ์อยู่เสมอ ตอกย้ำให้เห็นว่า อาร์เอส กรุ๊ป เป็นองค์กรที่ไม่เคยหยุดนิ่ง และพร้อมเดินหน้ามุ่งสู่การเป็น ‘Life Enriching’ ที่ไม่ใช่แค่การเติมเต็มความสุขและความต้องการของผู้บริโภคด้วยผลิตภัณฑ์และบริการเท่านั้น แต่ยังต้องการ “ยกระดับในทุกมิติการใช้ชีวิต” ของลูกค้า เพื่อสร้างประสบการณ์แห่งความสุขไปพร้อมกับสร้างคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีให้กับผู้คนและสัตว์เลี้ยงผ่านทุกธุรกิจในเครือ ภายใต้โมเดลธุรกิจ Entertainmerce ที่แข็งแกร่ง ซึ่งจะส่งผลให้องค์กรเติบโตขึ้นในหลากหลายมิติ และมั่นใจว่ารายได้ปี 2566 จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้”

 

เมื่อถามว่าทำไมถึงคิดว่าควรกลับมาทำธุรกิจเพลงอีกครั้ง เฮียฮ้อ กล่าวว่า ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เราเห็นเทรนด์ที่ชัดเจนของออนไลน์และการสตรีมมิ่งที่เติบโตสูงมาก อีกมุมหนึ่งคือ ในการซื้อมีเดีย มันยังมีทั้งการซื้อกิจกรรม ซื้อคอนเสิร์ต ก็สามารถเก็บเงินจากโฆษณาได้ด้วย มันไม่ใช่แค่การขายทิกเก็ต แต่ได้เงินจากมีเดียด้วย ซึ่งตรงนี้ตอบโจทย์มาก ทำให้เราสนใจ ประกอบกับเรามีพาร์ทเนอร์มาคุยทั้งในและนอกประเทศ เลยเป็นสิ่งที่ทำให้ถูกที่ถูกเวลา

 

สิ่งที่อยากฝากถึงรัฐบาลชุดใหม่เกี่ยวกับการสนับสนุนธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเมนต์ เฮียฮ้อ กล่าวว่า “ฝากถึงรัฐบาลผมอยากเห็นการซัพพอร์ทอย่างจริงจังของศิลปะคอนเทนต์ โดยรัฐบาลเป็นผู้สนับสนุน ไม่ต้องลีด ไม่ต้องชี้นำ เพราะเอกชนไทยเก่งมากอยู่แล้ว และถามองจากต่างประเทศ อย่างเกาหลี ในอดีตเขาตามหลังเรา เขาตามหลังเราเยอะเลย เขาต่างหากที่เรียนรู้จากเรา แต่ตอนนี้เมื่อรัฐบาลของซัพพอร์ตแบบไม่ได้หวังผล เขาก็เหมือนเรียนรู้ถูกผิดไปตลอด ซึ่งเอกชนเองก็ไปเรียนรู้เองด้วย สุดท้าย ประเทศที่เราจะเห็นว่าเขาประสบความสำเร็จได้นั้น เพราะเอกชนเป็นกองหน้า ไม่ใช่หน่วยงานรัฐมานำ ไม่ต้องมาจับคู่ใหม่ ซึ่งผมเชื่อว่าเรามีศักยภาพ ผมมองว่าเราเก่งมากเรื่องเอ็นเตอร์เทนเมนต์ เรามีศักยภาพพอเช่นเดียวกับธุรกิจท่องเที่ยวเลย”

 


  • 21
  •  
  •  
  •  
  •  
pigabyte
การเรียนรู้ไม่มีวันจบสิ้น มาเรียนรู้และสนุกไปกับบทความ จาก MarketingOops! กันนะคะ แล้วเราจะได้ค้นพบว่าโลกของ Marketing นั้น So Sexy and Cool!