“The Age of AI Has Begun” คำกล่าวของ Bill Gates หนึ่งในเจ้าพ่อวงการเทคโนโลยีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งของโลกเพิ่งพูดเอาไว้เมื่อไม่นานมานี้ เป็นเครื่องยืนยันว่า “โลกก้าวเข้าสู่ยุคสมัยของเทคโนโลยี AI อย่างแท้จริงแล้ว” หลังจากเกิดปรากฏการณ์ Generative AI สร้างความตื่นตะลึงให้กับคนทั่วโลกในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา สิ่งนี้เป็นเครื่องยืนยันว่า AI จะเป็นเทคโนโลยีที่จะทำให้เกิด disruption สร้างความเปลี่ยนแปลงกับโลกได้อย่างมากมายมหาศาลนับจากนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
เมื่อโลกก้าวไปแล้วประเทศไทยจะทำอย่างไร? เราจะสร้าง AI Ecosystem ให้เกิดขึ้นในประเทศไทยได้อย่างไร? กลายเป็นคำถามสำคัญ นั่นจึงเป็นเหตุผลให้ บริษัท กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) ตัดสินใจ Kick Start ยุคสมัยแห่ง AI ขึ้นในประเทศไทยอย่างเป็นทางการด้วยการจับมือกับ ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC) จัดงาน KBTG The Age of AI : Augmented Intelligence ขึ้นเมื่อวันที่ 19 เมษายนที่ผ่านมา เพื่อให้ประเทศไทยเปลี่ยนผ่านสู่ยุคของ AI และก้าวไปอย่างผู้ชนะด้วย
KBTG ผู้นำการใช้ AI ในการทำธุรกิจ
คุณกระทิง เรืองโรจน์ พูนผล หัวเรือใหญ่ของ KBTG เล่าว่า KBTG เปลี่ยนผ่านสู่ยุคของ AI นับตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่งในปี 2019 เห็นการเติบโตของ Data จากการใช้งาน K+ ที่มีผู้ใช้งานมากขึ้นอย่างก้าวกระโดดและวันนี้ก็เริ่มทำ AI-Driven Transformation กันแล้ว โดย KBTG มีการนำ AI มาให้บริการในเรื่องของ Credit Decision และการทำ Marketing Technology มีการนำ AI มาใช้กับบริการ Chatbot ที่ให้บริการลูกค้า Live Chat แล้ว 84% ลดเวลาให้ลูกค้าไปได้แล้ว 300,000 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยมากกว่า 10 ชิ้น และ Use Case ถึง 10 กรณีใน 2 ประเทศ และยังได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับโลกอย่าง iBeta และ NIST ด้วย
KBTG ก้าวกระโดดในเรื่องของเทคโนโลยี AI อย่างมากในปี 2022 โดยได้เข้าไปเป็น Research Membership Consortium กับ MIT Media lab ห้องปฏิบัติการวิจัยของสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (MIT) และได้สนับสนุน KBTG Fellow นักวิจัยไทยคนแรกในรอบ 23 ปี อย่าง คุณพัทน์ ภัทรนุธาพร นักศึกษาในสาขา Fluid Interfaces เจ้าของงานวิจัยด้านปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับ AI (Human-AI Interaction) และการศึกษาเฉพาะบุคคล (Personalized Education) และได้สร้างนวัตกรรม AI ที่น่าสนใจที่เตรียมปล่อยเป็นผลิตภัณฑ์จริงออกมาให้เราได้ใช้กันในเร็วๆ นี้ด้วย
Mobile First สู่ AI First
คุณกระทิง ระบุถึงภาพรวมวิวัฒนาการของ AI ว่า เทคโนโลยีนี้พัฒนามาอย่างเงียบๆ มานานแล้ว ก่อนจะพัฒนาแบบหักศอกในจุด Disruptive เมื่อไม่นานมานี้ และหลังจากนี้ AI จะพัฒนาไปสู่ยุคของการ Dematerializing หรือการที่ AI จะไปอยู่เบื้องหลังแทบทุกสิ่งทุกอย่าง ไปอยู่ในทุก Application ก่อนจะพัฒนาไปสู่ยุคที่เงินไหลไปสู่อุตสาหกรรม AI และยุคที่ทุกคนเข้าถึง AI ได้ในราคาที่ถูกลง เช่นเดียวกับเทคโนโลยีอย่างคอมพิวเตอร์ ไฟฟ้า รถยนต์ อินเตอร์เน็ต สมาร์ทโฟน ที่เคยเกิด disruption มาแล้วก่อนหน้านี้
คุณกระทิงย้ำว่า ปัจจุบันนี้เทรนด์การ Transformation แบบ Mobile-First นั้นจะล้าสมัยไปแล้ว แต่จะก้าวไปสู่การทำ AI-First ซึ่งเป็นสิ่งที่ KBTG ทำมาตั้งแต่ปี 2019 และตอนนี้ก็พร้อมที่จะก้าวกระโดดไปอีกขั้นหนึ่งแล้ว
ยุคสมัยของผู้ใช้ AI: Augmented Intelligence
“เอไอไม่ได้มาแทนที่มนุษย์ แต่มนุษย์ที่ใช้เอไอต่างหากที่จะมาแทนมนุษย์ที่ไม่ได้ใช้เอไอ” คุณกระทิงเน้นย้ำอย่างชัดเจนถึงบทบาทของ AI ที่ก่อนหน้านี้คนมักจะกลัวว่าอาจมาทำงานแทนมนุษย์ แต่แท้จริงแล้ว AI ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดถ้าเราพัฒนาตัวเราให้เข้าใจ AI ให้มากขึ้นเทคโนโลยีนี้จะช่วยสร้าง Productivity ให้กับมนุษย์อย่างมหาศาล และมีการวิจัยผลกระทบกันมาแล้วว่า AI จะสามารถเพิ่ม GDP ของโลกได้อย่างน้อย 7% เลยทีเดียว
อีกแนวคิดที่สำคัญก็คือ AI จริงๆ แล้วไม่ได้เป็นแค่ Artificial Intelligence หรือ ปัญญาประดิษฐ์ อีกต่อไปแต่ AI คือ Augmented Intelligence หมายถึง AI และมนุษย์ที่ “เติมเต็มความชาญฉลาดซึ่งกันและกัน” และโลกก็ได้เห็นสิ่งนี้มาแล้วเมื่อ Lee Sedol แชมป์โลกหมากล้อมพ่ายแพ้ให้กับเอไออย่าง AlphaGO ก่อนที่ AI จะร่วมมือกับมนุษย์เอาชนะ AlphaGO ได้ในเวลาต่อมา นั่นคือสิ่งที่เรียกว่า Augmented Intelligence ที่มนุษย์และ AI เสริมสร้างความชาญฉลาดซึ่งกันและกัน
ยกระดับ AI Ecosystem ไทยด้วย Human-AI Augmentation
หนึ่งในสิ่งสำคัญที่สุดของระบบนิเวศน์ AI ของประเทศไทยนอกเหนือจากโครงสร้างพื้นฐาน ฮาร์ดแวร์ Data และความต้องการของลูกค้าก็คือ บุคลากร หรือ AI Talent ซึ่ง KBTG เองก็ทำผ่าน KBTG Kampus มาระยะหนึ่งแล้วในการเปิดอบรม ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยต่างๆ สร้างบุคลากรในสายนี้สู่อุตสาหกรรมมากขึ้น และในปีนี้ KBTG จะยกระดับ AI ecosystem ในประเทศไทยไปอีกด้วยการยกระดับขีดจำกัดของมนุษย์ด้วยการการเติมเต็มความชาญฉลาดซึ่งกันและกันระหว่างมนุษย์และ AI หรือ Human-AI Augmentation
เปิดตัวเทคโนโลยี AI: Future You, K-GPT, คู่คิด
Human-AI Augmentation ที่เป็นกลยุทธ์ของ KBTG มีอยู่ 2 องค์ประกอบด้วยกันก็คืองานวิจัย Co-Research ที่จะสร้างเทคโนโลยีที่ช่วยเติมเต็มความชาญฉลาดให้กับมนุษย์ (Augments People) นวัตกรรมที่เกิดจาก KBTG Fellow อย่างคุณพัทน์ ร่วมสร้างขึ้นหนึ่งในนั้นที่เคยเปิดตัวมาแล้วก็คือ Future You เทคโนโลยีที่ให้ผู้ใช้งานสนทนาได้กับ “ฝาแฝดดิจิทัลในอนาคต” ของตัวเอง โดยจะใช้ข้อมูลนิสัยใจคอ ประวัติชีวิต รวมถึงและเป้าหมายจากผู้ใช้งาน สร้างตัวตนในอนาคตมาให้คำแนะนำ ให้บทเรียนชีวิต คำปลอบใจ เพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกให้กับตัวเราในปัจจุบันได้ ตามทฤษฎีจิตวิทยา Future Self-Continuity ที่พบว่ายิ่งเรามองเห็นตัวเราในอนาคตได้ชัดเจน เราก็มีแนวโน้มพฤติกรรมเชิงบวกเช่น ออมเงินดีขึ้น ตั้งใจเรียนมากขึ้น สุขภาพจิตดีขึ้น คุณภาพชีวิตดีขึ้นเป็นต้น
อีกสองเทคโนโลยีใหม่ที่มีการเปิดตัวออกมาก็คือ “K-GPT” และ “คู่คิด” โดย K-GPT เป็น Large Language Model ที่พัฒนาให้เข้าใจบริบทภาษาไทย มีข้อมูลที่เฉพาะเจาะจงที่ใช้ Train เข้าไปได้ และเข้าใจจิตวิทยาและพฤติกรรมของมนุษย์เป็นอย่างดี และเทคโนโลยี K-GPT นี้ก็ถูกนำไปใช้เป็นพื้นฐานของเทคโนโลยี “คู่คิด” ที่จะเป็น Chatbot ให้คำปรึกษาที่จะให้คำแนะนำในเรื่องต่างๆ กับผู้ใช้งาน โดยจะให้คำตอบเป็น 2 มุมมองผ่าน “คชา” และ “คะน้า” ที่จะถูกเทรนด้วยบุคลิกที่แตกต่างกัน ทำให้ผู้ใช้งานสามารถปรับใช้ในชีวิตจริงได้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเงิน เรื่องธุรกิจ หรือการพัฒนาตัวเองก็ตาม
เทคโนโลยีเหล่านี้เป็นตัวอย่างสำคัญที่ตอบโจทย์ Human-AI Augmentation ที่จะมีส่วนช่วยสร้าง AI Talent ยกระดับ AI Ecosystem ให้กับประเทศไทยได้อย่างชัดเจน โดยคุณกระทิงระบุว่า จะสามารถตอบโจทย์ประเทศไทยที่เข้าสู่ยุคสังคมสูงอายุ ที่บุคลากรอย่างครู หรือแพทย์ที่จะน้อยลงเรื่อยๆ ได้ ซึ่งเวลานี้ คู่คิด ก็อยู่ระหว่างการทดสอบและเชื่อว่าจะพัฒนาออกมาให้คนทั่วไปได้ใช้จริงกันในเร็วๆ นี้
ยกระดับ AI Ecosystem ไทยด้วยการศึกษา
การเรียนรู้เป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่จะสร้างให้ประเทศไทยมี AI Ecosystem ที่ดีแต่จะเรียนรู้อย่างไรให้ถูกต้องและได้ประโยชน์สูงสุด นั่นจึงเป็นเหตุผลให้ KBTG สร้างแนวปฏิบัติในการให้ความรู้เกี่ยวกับ AI ในประเทศไทยหรือ Thai AI-Augmented Literacy Guideline ขึ้นและเปิดให้ทุกภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นสถาบันการศึกษา เอเจนซี่ ผู้ออกนโยบาย องค์กร สตาร์ทอัพ เข้ามาร่วมพัฒนา ไกด์ไลน์นี้ด้วยกันโดยสามารถมีส่วนร่วมร่างแนวปฏิบัตินี้ได้ผ่านลิงก์ได้เลย
สำหรับ Thai AI-Augmented Literacy Guideline ซึ่งคาดว่าร่างแรกจะเสร็จสมบูรณ์ในเดือนิถุนายน 2023 นี้นั้นมีแนวคิดสำคัญในการเรียนรู้ 4P คือ Project – จะต้องเป็นการเรียนรู้ที่มีเป้าหมายชัดเจน Passion – ต้องเรียนรู้อย่างมีแรงกระตุ้นเชิงบวก Peer – เรียนพร้อมๆกันกับเพื่อนๆ และ Play– เรียนรู้ให้สนุก ไม่เหมือนการเรียนแต่ให้เหมือนกับการเล่น โดยเป้าหมายที่จะไปให้ถึงก็คือการที่ AI จะเป็นเพื่อนเรียนในการหาความรู้ให้กับเด็กๆในยุคต่อไปด้วย 4C นั่นก็คือ Co-Imagine – เป็นเพื่อนช่วยจินตนาการ Co-Exploring เป็นเพื่อช่วยค้นหา Co-Thinking – เป็นเพื่อนช่วยคิด และสุดท้าย Co-Creating เป็นเพื่อนช่วยสร้างสิ่งใหม่ๆขึ้นมาได้ในที่สุด
ไกด์ไลน์นี้ก็สอดคล้องกับ Thailand National AI Strategy ของภาครัฐที่มี NECTEC เป็นหัวเรือใหญ่และดำเนินการมาแล้วเนเวลา 6 เดือนโดยเฉพาะการสร้างกำลังคนที่เป็นหนึ่งในเสาหลักสำคัญของการพัฒนา AI Ecosystem ของประเทศไทยซึ่งคุณกระทิงระบุว่า KBTG พร้อมที่จะเป็นสวนหนึ่งในการผลักดันให้ประเทศไทยก้าวสู่ยุคของ AI อย่างแข็งแกร่งและเป็นผู้ชนะในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในฐานะภูมิภาคที่จะเป็น “เครื่องจักรทางเศรษฐกิจ” ของโลกต่อไป
AI Ethic เรื่องสำคัญของ AI Ecosystem
นอกจากเรื่องกรอบการเรียนรู้เกี่ยวกับ AI แล้วคุณกระทิงยังระบุด้วยว่า KBTG ยังให้ความสำคัญเกี่ยวกับ AI Ethic ด้วยที่จะเป็นรากฐานของการสร้างและใช้ AI อย่างมีจริยธรรม และหลายๆประเทศก็มีมาตรฐานนี้เป็นแนวปฏิบัติกันแล้วมากกว่า 30 ประเทศทั่วโลกโดยจะเน้นประเด็นหลักที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งในเรื่องนี้ KBTG ก็นำมาปฏิบัติกับการสร้างเทคโนโลยี AI แล้วและนั่นเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้แต่ละเทคโนโลยีต้องใช้เวลาพัฒนาและทดสอบ เพื่อให้มั่นใจว่าเทคโนโลยี AI จะช่วยเสริมความชาญฉลาดให้กับมนุษย์ได้จริงๆ ไม่ได้ส่งผลเสียต่อมนุษย์ และเรื่อง AI Ethic ทาง KBTG ก็เตรียมที่จะสร้างหลักสูตรออนไลน์ให้กับสังคมต่อไปด้วย
เมื่อมองสถานการณ์โดยรวมของโลกผ่านงาน The Age of AI ที่จัดขึ้นโดย KBTG ในครั้งนี้ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ายุคสมัยของ AI นั้นได้ก้าวมาถึงแล้ว และ KBTG ก็พร้อมที่จะจับมือกับภาครัฐรวมถึง NECTEC ในการสร้างบุคลากร ซึ่งคุณกระทิงระบุว่าเป็นการสร้าง Public Private People partnership ที่จะสร้างให้เกิด AI Ecosystem ในประเทศไทยที่แข็งแกร่งต่อไป นอกเหนือไปจากเทคโนโลยี AI ใหม่ๆที่ KBTG จะพัฒนาออกมาอย่างต่อเนื่องเพื่อ Augmented People เพิ่ม Productivity ให้ผู้คนผลักดันเศรษฐกิจไทยให้เดินหน้าอย่างแข็งแกร่งก้าวทันโลกต่อไป