แม้วิกฤตโควิด-19 จะผ่านพ้นไปแล้วแต่บริการที่ทำให้คนไทยผ่านพ้นวิกฤตมาได้อย่าง Grab ก็ไม่ได้หยุดที่จะพัฒนา แต่ยังคงเดินหน้าต่อไปโดยเฉพาะในช่วงเวลาที่การท่องเที่ยวกำลังกลับมาฟื้นตัวอย่างเต็มที่ทั้งในประเทศไทยและอีกหลายๆประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ล่าสุด Grab เปิดตัว นวัตกรรมใหม่สำหรับการเดินทางและจับมือพันธมิตร ยกระดับประสบการณ์การเดินทางที่สะดวกสบายขึ้น และสร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัยเพื่อสร้างความปะทับใจในการเดินทางท่องเที่ยวในภูมิภาคนี้
การเดินหน้าของ Grab สู่การท่องเที่ยวในครั้งนี้สอดคล้องกับเทรนด์การท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวกลับมา โดยในปี 2565 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมายังประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพิ่มขึ้นถึง 1,706% เมื่อเทียบกับปี 2664 ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับ Grab ที่มีผู้ใช้บริการในกลุ่มนักท่องเที่ยวกลับมาเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเห็นได้จากการเรียกใช้บริการเพื่อเดินทางไป-กลับสนามบินต่างๆ ที่เพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า นับตั้งแต่เดือนมกราคมถึงธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา
ถามว่านักท่องเที่ยวในภูมิภาคนี้คือใคร Grab ก็สำรวจข้อมูลมาแล้วพบว่า43% ของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ใช้ Grab ในประเทศไทย มาจากประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกเหนือจากนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้แล้ว นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มีการเดินทางโดย Grab ยังมาจากประเทศในแถบอเมริกาเหนือ ออสเตรเลีย จีน และเกาหลีใต้
ดังนั้น Grab จึงมีเป้าหมายเพื่อให้นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้มีความมั่นใจ สามารถเดินทางไปยังเป้าหมายได้อย่างไร้กังวล สามารถวางแผนการเดินทางล่วงหน้า และเดินทางได้อย่างราบรื่นเมื่อถึงที่หมาย พร้อมเข้าถึงประสบการณ์ของคนท้องถิ่นใหม่ๆ ได้อย่างเต็มที่
สำหรับฟีเจอร์ใหม่ที่จะเพิ่มความสะดวกสบายให้กับนักท่องเที่ยวก็คือ
1.Traveller Homepage
หน้าแรกสำหรับนักท่องเที่ยว การเพิ่มฟีเจอร์นี้ขึ้นมาเป็นเพราะ Grab พบว่า 2 ใน 3 ของนักท่องเที่ยวที่ใช้ Grab ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน และลงทะเบียนบัญชีล่วงหน้าตั้งแต่ยังไม่ได้ออกจากประเทศต้นทาง ดังนั้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับแผนการเดินทาง Grab จึงเปิดตัว Traveller Homepage โฉมใหม่บนแอปพลิเคชั่น ที่เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวสามารถสำรวจ 33 เมืองชั้นนำทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ผ่าน Grab ราวกับว่าได้เดินทางไปถึงที่หมายแล้วจริงๆ พร้อมมีรายละเอียดการให้บริการของ Grab ในเมืองต่างๆ ให้เลือกดู ค้นหา และบันทึกสถานที่ที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น จุดที่ตั้งของที่พัก สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ หรือร้านอร่อยบริเวณใกล้เคียง
2. Grab พร้อมให้บริการในภาษาจีน เกาหลี และญี่ปุ่น
ฟีเจอร์นี้จะช่วยให้การเดินทางสำหรับนักท่องเที่ยวชาวจีน เกาหลี และญี่ปุ่นเป็นเรื่องง่าย ซึ่งนับเป็นกลุ่มลูกค้าสำคัญที่เดินทางมาท่องเที่ยวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกจากนี้ภายในครึ่งปีหลังของปี 2566 Grab จะพัฒนาการเปลภาษาเมนูของร้านค้าต่างๆเป็นภาษาอังกฤษ เพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสประสบการณ์ท้องถิ่นมากที่สุดในเมืองสำคัญของประเทศอินโดนีเซีย เวียดนาม และไทย โดยจะมีฟีเจอร์ให้เลือกเปลี่ยนเมนูเป็นภาษาจีน เพื่อรองรับการกลับมาของนักท่องเที่ยวชาวจีนโดยเฉพาะ ซึ่งจะเปิดให้บริการในหัวเมืองต่างๆ ของประเทศอินโดนีเซีย ต่อไปด้วย
3.ระบบนำทางในอาคาร
อีกหนึ่ง Pain Point ของนักท่องเที่ยวก็คือการมองหาทางออกในสนามบินที่พลุกพล่านและไม่คุ้นเคย Grab จึงแก้ปัญหานี้ด้วยฟีเจอร์ Venues เวอร์ชันล่าสุด นักท่องเที่ยวจะเห็นจุดรับผู้โดยสารในแต่ละจุดภายในอาคารหรือสถานที่ต่างๆ และสามารถเลือกจุดรับผู้รับผู้โดยสารที่ต้องการได้ พร้อมยังสามารถดูเส้นทางการเดินไปยังจุดนัดพบนั้นๆ ได้แบบละเอียด แม้ว่าจะยังไม่ได้เรียกใช้บริการก็ตาม
ฟีเจอร์ Venues พร้อมให้บริการในสนามบินหลักทุกแห่งทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และสามารถใช้กับสถานที่กว่า 4,000 แห่ง อาทิ ห้างสรรพสินค้า โรงแรม อาคารสำนักงาน สวนสาธารณะ และสถานที่อื่นๆ ทั่วภูมิภาค รวมไปถึงสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอย่างสวนสัตว์สิงคโปร์ ตลาดน้ำในพัทยา และอนุสรณ์สถานแห่งชาติในกรุงจาการ์ตา เป็นต้น
4.ฟีเจอร์แปลงสกุลเงิน
เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่จะพร้อมให้บริการภายในครึ่งปีหลังของปี 2566 โดยจะแสดงค่าโดยสารในสกุลเงินที่ผู้ใช้งานต้องการแบบอัตโนมัติ
“เรามั่นใจว่าการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของการท่องเที่ยวและการเปิดประเทศของจีนจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยรวม และในฐานะซูเปอร์แอประดับภูมิภาค เราเชื่อว่าแอปพลิเคชันของเราจะได้รับประโยชน์จากเทรนด์การท่องเที่ยวที่กำลังเติบโตนี้ โดยปกตินักท่องเที่ยวจะมีการใช้จ่ายในการเดินทางเฉลี่ยมากกว่าผู้ใช้บริการในพื้นที่ถึง 2 เท่าต่อวัน ดังนั้น เราจึงอยากเป็นแพลตฟอร์มที่นักท่องเที่ยวเลือกใช้ เป็นเสมือนเพื่อนร่วมทางของพวกเขา นี่จึงทำให้เราไม่หยุดที่จะพัฒนาช่องทางใหม่ๆ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่มีคุณค่ามากกว่าให้กับการเดินทางของพวกเขา” รัสเซล โคเฮน กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายปฏิบัติการ แกร็บ (ระดับภูมิภาค) ระบุ
5.ใช้บริการของ Grab บนแอปที่คุณคุ้นเคย
นอกจากนี้ แกร็บ ยังได้ผนึกความร่วมมือกับแอปพลิเคชันชั้นนำระดับโลกเพื่อเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้เข้าถึงบริการเรียกรถของ Grab ผ่านแพลตฟอร์มที่คุ้นเคย ไม่ว่าจะเป็น WeChat, AliPay, Ctrip, Kakao T และ Booking.com สามารถใช้บริการเรียกรถของ Grab ได้ทั่วภูมิภาค โดยสามารถเลือกจุดรับและจุดส่ง ดูประเภทรถทั้งหมด พร้อมค่าโดยสารเป็นสกุลเงินของประเทศนั้นๆ และยังสามารถเลือกชำระเงินด้วยวิธีที่ต้องการผ่านแอปดังกล่าวได้โดยตรง
และในไตรมาสที่ 2 ของปี 2566 นี้ ผู้ใช้บริการ Uber ที่เปิดใช้งานในระหว่างที่เดินทางในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จะได้รับข้อความเพื่อส่งต่อไปยังแอปพลิเคชัน Grab ในฐานะแพลตฟอร์มที่แนะนำโดย Uber เมื่อเดินทางมายังภูมิภาคนี้
6. GrabUnlimited
นอกจากนี้ แกร็บยังได้เปิดตัวฟีเจอร์อัปเกรดใหม่สำหรับแพ็คเกจ GrabUnlimited กับค่าโดยสารราคาพิเศษสำหรับสมาชิกเมื่อใช้บริการเรียกรถจากสนามบิน 89 แห่ง ทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วย
“เราต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการฟื้นฟูการท่องเที่ยวภายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยการต้อนการกลับมาของนักท่องเที่ยวผ่านการยกระดับประสบการณ์บนแอปพลิเคชัน Grab ที่จะทำให้นักท่องเที่ยวอุ่นใจและสะดวกสบายในทุกการเดินทาง”
“แกร็บเข้าใจพฤติกรรมผู้ใช้งานในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นอย่างดี ซึ่งเป้าหมายของเราไม่เพียงคำนึงถึงเรื่องของการส่งมอบประสบการณ์การเดินทางที่ปลอดภัย และราบรื่นที่สุดเท่านั้น แต่ยังเป็นความมุ่งมั่นที่จะผลักดันให้นักท่องเที่ยวได้รับประสบการณ์การท่องเที่ยวแบบคนท้องถิ่นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างเต็มที่ จากการใช้บริการต่างๆ บนแอปพลิเคชัน Grab” โคเฮน ระบุ
