กางแผน “เซ็นทรัลพัฒนา” ลงทุน 1.35 แสนล้าน – เตรียมสร้าง Mega Mixed-use ทำเล “พหลโยธิน”

  • 2
  •  
  •  
  •  
  •  

Central Pattana

“เซ็นทรัลพัฒนา” มุ่งสู่โมเดลธุรกิจ The Ecosystem for All โดยมีธุรกิจ Retail เป็นหัวใจสำคัญ ภายใต้แผนการลงทุน 5 ปี (ปี 2566 – 2570) งบลงทุน 135,000 ล้านบาท เฉลี่ยลงทุนปีละ 25,000 – 35,000 ล้านบาท ครอบคลุม 30 เมืองทั้งในไทย และอาเซียน ประกอบด้วย

– ศูนย์การค้า 50 โครงการ

– คอมมูนิตี้มอลล์ 17 โครงการ

– ที่อยู่อาศัย 90 โครงการ

– โรงแรม 37 โครงการ

– อาคารสำนักงาน 13 แห่ง

– Flex Office 4 โครงการ

Central Pattana

 

3 กลยุทธ์ขับเคลื่อนโมเดลธุรกิจ “The Ecosystem for All

จากแนวคิด Centre of Life หรือการพัฒนาสถานที่ให้เป็นศูนย์กลางของการใช้ชีวิต ครอบคลุมทั้งศูนย์การค้า ขยายไปสู่ธุรกิจคอมมูนิตี้ มอลล์, ที่อยู่อาศัย, อาคารสำนักงาน และโรงแรมทั่วประเทศ โดยพัฒนาให้ทุกส่วนเชื่อมโยงถึงกันแบบ Seamless Synergy และยังเชื่อมต่อไปสู่พันธมิตรธุรกิจ ผู้คน ชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม

ดังนั้น เพื่อเดินหน้าสู่โมเดลธุรกิจแห่งอนาคตเป็น “The Ecosystem for All” โดยมีธุรกิจ Retail เป็นแกนหลัก “เซ็นทรัลพัฒนา” จึงได้กำหนด 3 กลยุทธ์สำคัญ ประกอบด้วย

1. The 360-Degree Centre of Life: เป็นศูนย์กลางการใช้ชีวิตที่ตอบโจทย์ครบทุกองศาทั้งOffline & Online ทั้ง shop-eat-work-play-stay-live ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง 365 วัน ทุกที่ ทั่วประเทศ โดยมีแผนดำเนินการและเป้าหมายดังนี้

– ภายใน 5 ปี Traffic ในโครงการของเซ็นทรัลพัฒนาจะเพิ่มขึ้นจาก 1.2 ล้านคนเป็น 1.8 ล้านคนต่อวัน หรือคิดเป็นการมาใช้บริการ 657 ล้านครั้งต่อปี สำหรับ 

– ในปี 2566 นี้จะมีมิกซ์ยูส (Mixed-use Project) ที่ครบทุกองค์ประกอบเพิ่มขึ้น ได้แก่ เซ็นทรัล อุบลราชธานี, เซ็นทรัล อยุธยา และเซ็นทรัล ระยอง

– แผนลงทุน 5 ปี (ปี 2566-2570) ลงทุนทุกธุรกิจรวมกว่า 135,000 ล้านบาท เฉลี่ยปีละ 25,000-30,000 ล้านบาท โดยมีทั้งหมดมากกว่า 200 โครงการ ครอบคุลม 30 เมืองในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน ประกอบด้วย ศูนย์การค้า 50 แห่ง, คอมมูนิตี้ มอลล์ 17 แห่ง, ที่อยู่อาศัย 90 แห่ง, โรงแรม 37 แห่ง, อาคารสำนักงาน 13 แห่ง และพื้นที่ใหม่ๆ Flex Offices อีก 4 แห่ง

โดยจะทำให้จำนวนโครงการมิกซ์ยูสเพิ่มขึ้นจาก 18 โครงการในปี 2566 เป็น 25 โครงการในปี 2570

– วางแผนระยะยาว 5-10 ปีในการพัฒนาโครงการมิกซ์ยูส Mega Projects รวม 5 โครงการ ซึ่งจะยกมาตรฐานให้กรุงเทพฯ เทียบเท่ามหานครระดับโลก อย่างนิวยอร์ก, โตเกียว หรือโซล

โดยโครงการแรก Dusit Central Park จะทยอยเปิดตัวในปี 2567-2568 รวมถึงอีก 4 โครงการใหญ่ที่แต่ละโครงการมีพื้นที่ GFA กว่า 350,000 ตร.ม. และเงินลงทุนกว่า 20,000 ล้านบาท

Central Pattana

Central-Pattana_Dusit-Central-Park

2. Total B2B2C Solutions: การเชื่อมโยงการทำธุรกิจของพันธมิตรคู่ค้า สู่การใช้ชีวิตของลูกค้าที่ครบวงจร

 

– ลงทุนด้าน Digital Transformation & Technology Infrastructure ปีละ 300-500 ล้านบาท โดยได้มีการพัฒนา Data-driven Omnichannel ที่มีประโยชน์กับลูกค้า คู่ค้า และสังคม

3. The Place Making for Sustainable Future:ให้ความสำคัญทั้งด้าน คน” ด้วยการส่งเสริม Local Wealth

– ใน 5 ปีข้างหน้า เซ็นทรัลพัฒนาจะมีพนักงานกว่า 6,500 คน พร้อมผลักดันการจ้างงานใน Ecosystem อีกกว่า 100,000 ตำแหน่ง

– การเปิดพื้นที่ค้าขายฟรีให้เกษตรกรและ SMEs ทั่วประเทศคิดเป็นมูลค่า 300 ล้านบาทต่อปี และการสนับสนุนกิจกรรมภาครัฐและ CSR รวมมูลค่ากว่า 200 ล้านบาทต่อปี

– การดูแลสิ่งแวดล้อม เดินหน้าตามโรดแมป NET Zero 2050 อาทิ การประหยัดพลังงานไปแล้วกว่า 200 ล้านบาท, ติดตั้ง Solar Rooftop และขยาย EV Charger Station อย่างต่อเนื่องทั่วประเทศ, การเพิ่มพื้นที่สีเขียว รวมถึงการจัดการขยะและขยาย Recycle Shops ในศูนย์การค้า

Central Pattana

Central-Pattana_Central-West-Ville

 

เตรียมสร้างโครงการ Mega Mixed-use5 โครงการ เผยโฉม “Central Dusit Park” และมีแผนพัฒนาแปลง “พหลโยธิน”

หนึ่งใน Key Highlight ของการเปิด Business Direction ของเซ็นทรัลพัฒนาครั้งนี้คือ วางแผนระยะยาว 5 – 10 ปีในการพัฒนาโครงการ Mega Mixed-use รวม 5 โครงการ แต่ละโครงการใหญ่เทียบกับ CentralwOrld ขนาดที่ดิน 25 ไรขึ้นไป มีพื้นที่ GFA กว่า 350,000 ตารางเมตร และเงินลงทุนมากกว่า 20,000 ล้านบาท

โดย 4 ใน 5 โครงการเป็นโมเดลร่วมทุน (Joint Venture) ซึ่งโครงการแรกที่เปิดตัวคือ “Dusit Central Park” ภายใต้การร่วมทุนกับกลุ่มดุสิตธานี งบลงทุนรวม 46,000 ล้านบาท เป็น One-of-a-kind Mixed-use Project ระดับโลก ที่เชื่อมพื้นที่สีเขียวให้เข้ากับชีวิตเมืองได้อย่างลงตัว โดยมี 4 องค์ประกอบที่สำคัญที่เชื่อมโยงกันอย่างไร้รอยต่อ

– ศูนย์การค้า “Central Park” ที่เชื่อมต่อทุกส่วนเข้าด้วยกัน โดยมีคอนเซ็ปต์ “Here for curated experience and inspiration” ที่จะสร้างประสบการณ์และแรงบันดาลใจใหม่ให้คนกรุงเทพ

– อาคารสำนักงาน “Central Park Offices” ระดับ Grade A+ ที่ตั้งใจจะเป็น Global Prototype ของ Future Workplace

– Ultra-Luxury Branded Residence,

– โรงแรมระดับ Global Legendary Iconic แห่งเดียวของไทย

Dusit Central Park
Dusit Central Park

นอกจากนี้อีกหนึ่งทำเลที่ “เซ็นทรัลพัฒนา” มีแผนจะสร้างเป็น Mega Mixed-use Project คือ ที่ดินแปลงพหลโยธิน (ตรงข้ามสวนสนุกแดนเนรมิตเก่า)

Mega Mixed-use project 5 โครงการ โปรเจคเหล่านี้มีความสำคัญ และมีขนาดใหญ่เทียบเท่ากับ CentralWOrld แต่ละโปรเจค พื้นที่มากกว่า 350,000 ตารางเมตร งบลงทุนไม่ต่ำกว่า 20,000 ล้านบาท โดย 4 ใ5 โครงการเป็น Joint Venture ซึ่งรวมถึงแปลง “พหลโยธิน” ครอบคลุมกรุงเทพฯ และปริมณฑล

โดยภายในปีนี้ เปิด 1 – 2 โครงการ หนึ่งในนั้นคือ โครงการ Dusit Central Park ส่วนอีก 4 โครงการจะทยอยเปิด ซึ่งเป็นที่ดินทั้งหมดเราเป็นเจ้าของ และพร้อมพัฒนาแล้ว

เรามองว่าการพัฒนา Mega Mixed-use จะยกระดับมาตรฐานของเมืองของเมืองให้มีคุณภาพชีวิต และเศรษฐกิจให้ดีขึ้น เพราะเราเชื่อมั่นว่าประเทศไทยสามารถดึงดูดทั้งนักท่องเที่ยว, คนวัยเกษียณ, Digital Nomad และผู้คนหลากหลายอาชีพที่อยากมาประเทศไทย ไม่ว่าจะด้วยจุดประสงค์มา Shop, Eat, Work, Play, Stay หรือ Live” คุณวัลยา จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา เล่าถึงแผนการสร้างโครงการ Mega Mixed-use

Central Pattana_CEO
คุณวัลยา จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา

 

กางแผนลงทุน “ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ที่อยู่อาศัย อาคารสำนักงาน โรงแรม”

ธุรกิจศูนย์การค้า

ในฐานะหัวใจสำคัญของ Ecosystem เน้นการเป็น No.1 Market Leader โดยมีไฮไลท์สำคัญ ได้แก่

1. การเปิดตัว 4 โครงการใหม่ในปี 2566-2567:

– เซ็นทรัล เวสต์วิลล์ (Central Westville) เปิด 27 ตุลาคม 2566 งบลงทุนกว่า 6,200 ล้านบาท ซึ่งจะเป็น The Next Evolution of Semi-Outdoor Model ที่จะพลิกโฉมย่านราชพฤกษ์ ตอนนี้ Occupancy ร้านค้าเกือบเต็ม 100% ตอกย้ำความสำเร็จเช่นเดียวกับที่ Central Eastville

– เซ็นทรัล นครสวรรค์ (Central Nakhon Sawan) เปิด Q1/2567 งบลงทุน 5,800 ล้านบาท

– เซ็นทรัล นครปฐม (Central Nakhon Pathom) เปิด Q2/2567 งบลงทุน 8,200 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ที่ยกระดับศักยภาพของภูมิภาค เชื่อมต่อโซนภาคเหนือ และขยายสู่ภาคตะวันตกของประเทศ

– เซ็นทรัล กระบี่ (Central Krabi) งบลงทุน 4,500 ล้านบาท เปิดช่วง Q4/2567 มิกซ์ยูสเมืองท่องเที่ยว ซึ่งจะเป็น The New Gateway to Southern Paradise ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ประกอบด้วยศูนย์การค้า ที่อยู่อาศัย และโรงแรม เติมเต็มศักยภาพของกระบี่ที่เป็นเมืองที่มี world’s most famous islands และเป็น Top 5 จุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลก โดยจะเป็น the first & largest complete landmark ที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของจังหวัดและประเทศ

Central-Pattana_Central-Krabi
เซ็นทรัล กระบี่

2. การขยายและรีโนเวทเพื่อ ได้แก่

– เซ็นทรัล พัทยา ที่ได้มีการปรับโฉมโรงแรม Hilton ทำให้มียอดเข้าพักมากกว่าปี 2563 แล้วและเตรียมรีโนเวทศูนย์การค้า เพิ่มโซนต่างๆ ตอบรับการเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลก โดยจะมีแบรนด์ Bridgeline และ luxury เพิ่มเติม ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และส่วนใหญ่นิยมสินค้าแบรนด์เนม

– ความสำเร็จของ Central Ramindra ที่มีทราฟฟิคเพิ่มขึ้นเท่าตัว

– เตรียมเดินหน้าส่วนขยายของ Central Westgate เพิ่มอีก 20,000 ตารางเมตร เติมเต็มด้วย New Anchor ใหญ่ ขยายพื้นที่ค้าขายเพิ่ม และเพิ่มอาคารจอดรถ

– ปรับโฉมเซ็นทรัล อุบลราชธานี เตรียมรับโรงแรม Centara เติมเต็มมิกซ์ยูส, รวมถึงเซ็นทรัล มารีนา ปิ่นเกล้า แจ้งวัฒนะ เชียงใหม่ ขอนแก่น อีกด้วย

Central-Pattana_Central-Nakhon-Pathom
เซ็นทรัล นครปฐม

3. เป็น Experiential Place Making ระดับโลก นำโดย centralwOrld ตอกย้ำ Global Landmark ที่สร้างปรากฏการณ์ด้วยแบรนด์ระดับโลกเลือกมาเปิดตัวเป็นที่แรก เตรียมมอบประสบการณ์ใหม่ๆ ได้แก่ ร้านเบอร์เกอร์ระดับโลก Shake Shack ที่เตรียมเปิดปลายเดือนมีนาคมนี้เป็นสาขาแรกในไทย

รวมถึงเซ็นทรัล ภูเก็ต (Central Phuket) ซึ่งเป็น Luxury mall แห่งเดียวของไทยที่ตั้งอยู่ในเมืองท่องเที่ยวระดับโลก เตรียมต้อนรับแบรนด์ลักชูรี่ระดับโลก

Central-Pattana_Central-Nakhon-Sawan
เซ็นทรัล นครสวรรค์
ธุรกิจคอมมูนิตี้มอลล์

– เปิดตัวโปรเจ็คใหญ่ Marché Thonglor มูลค่าโครงการรวม 2,000 ล้านบาท เปิดตัว 26 มีนาคม 2566 เป็น Flagship of Community mall และ New Landmark ที่ใหญ่และครบครันที่สุดใจกลางทองหล่อ จับกลุ่มกำลังซื้อสูง, คนทำงานจาก Office ที่อยู่ภายในโครงการเดียวกัน, และ Expat ชาวต่างชาติ เติมเต็มด้วยพื้นที่สีเขียวกว่า 2,300 ตร.ม. / Pet-Friendly / เป็น Food Destination ใหญ่ที่สุดในย่าน มีที่จอดรถ 24 ชม.

– รีโนเวทนวมินทร์ ซิตี้ ออกแบบ façade ใหม่ทั้งโครงการ และวาง rtail mix ใหม่ โดยเป็นโมเดลที่จะนำไปประยุกต์ใช้ปรับปรุงคอมมูนิตี้มอลล์อื่นๆ ของเซ็นทรัลพัฒนา

Central-Pattana_Marche-Thonglor
Marché Thonglor
Central Pattana-Community Mall
โฉมใหม่นวมินทร์ซิตี้
ธุรกิจที่อยู่อาศัย

ชูกลยุทธ์สำคัญคือ Best Location & Best in class ในทุกโลเคชั่น อยู่ติดหรือใกล้ศูนย์การค้าเซ็นทรัล และเริ่มขยายโปรเจ็คที่อยู่ติดโรบินสัน ไลฟ์สไตล์ด้วย โดยนำจุดแข็งในเรื่องการทำ Synergy กับแบรนด์ชั้นนำ ในเครือ Central Group แผนปี 2566 เตรียมเปิดโครงการใหม่ทั้งหมด 7 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 9,000 ล้านบาท ได้แก่

– คอนโดมิเนียม 3 โครงการ คือ ESCENT เพชรบุรี, บุรีรัมย์ และนครศรีธรรมราช

– โครงการแนวราบ 4 โครงการ คือ บ้านนิรติ นครศรีธรรมราช และแบรนด์ใหม่ บ้านนิรดา พระราม 2, อุทยาน และเอกชัย ในเขตกรุงเทพฯ

คาดว่าภายในปี 2570 จะครอบคลุม 27 จังหวัด นอกจากนี้ ยังได้พัฒนาแพลตฟอร์มใหม่ Central Pattana Residents รวมทุกความสะดวกสบายเพื่อการอยู่อาศัยไว้ในแอปเดียว เพื่อลูกบ้านโดยเฉพาะ

Central Pattana-residential

ธุรกิจอาคารสำนักงาน

ชูจุดแข็ง Strategic Locations in CBD Bangkok โดยเตรียมเปิดเผยโปรเจ็คใหญ่ Central Park Offices ภายในโครงการ Dusit Central Park โดยเป็น World-Class Professional Hub แห่งใหม่รองรับบริษัทชั้นนำระดับโลก บนโลเคชั่น Super Core CBD เป็น interchange station ทั้งรถไฟฟ้า BTS และ MRT และมีพื้นที่สีเขียวทั้งจาก Rooftop Park ขนาดใหญ่ ที่เชื่อมต่อกับสวนลุมพินี และบนชั้นพิเศษ ยังมี Private Outdoor Gardens อีกด้วย และเป็น World-Class Design and Facilities มุ่งเน้นการพัฒนาตามมาตรฐาน World-class LEED Gold Certified และการ Customized พื้นที่เพื่อธุรกิจทุกขนาด

Central Pattana
Dusit Central Park
ธุรกิจโรงแรม

ชูความเชี่ยวชาญของเซ็นทรัลพัฒนาในการพัฒนาทำเลศักยภาพและเข้าถึงลูกค้าทั่วประเทศ พร้อมยกระดับมาตรฐานการเข้าพักอาศัยในโรงแรมและตอบโจทย์ทุกจุดประสงค์ของการเดินทาง

ในปี 2566 นี้จะเปิดโรงแรมครบทุก 3 แบรนด์ และจะมีโรงแรมทั้งสิ้น 10 แห่ง 1,600 ห้อง สำหรับโครงการใหม่ที่เตรียมเปิดปีนี้ ได้แก่

– แบรนด์ Centara: Upscale Full-Service เตรียมเปิด Centara Ubon และ Centara Ayutthaya

– แบรนด์ Centara One: Lifestyle Midscale เตรียมเปิดแห่งแรกคือ Centara One Rayong

– แบรนด์ GO! Hotel: Premium Budget Hotel และเป็น Pet-Friendly เตรียมเปิดที่โรบินสันบ้านฉาง, เซ็นทรัล ศรีราชา และเซ็นทรัล ชลบุรี

Centara Centara Centara One-GO! Hotel


  • 2
  •  
  •  
  •  
  •  
WP
อยู่ในแวดวงนิตยสารธุรกิจการตลาดกว่าสิบปี สนุกและชอบติตตามเทรนด์ ไลฟ์สไตล์ใหม่ๆ และอยากเรียนรู้เพิ่มเติมในแพลตฟอร์มดิจิทัล มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์การตลาดและดิจิทัลร่วมกันนะคะ