บริษัท สบาย เทคโนโลยี (SABUY) แถลงเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน เปิดเผยผลประกอบการในไตรมาสที่ 3 ของปี 2022 พบว่ามีรายได้รวมและผลกำไรมีการเติบโตขึ้นอย่างมาก โดย SABUY มีรายได้รวมในไตรมาสที่ 3 รวม 1,157 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 75% มีกำไรสุทธิ 501 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 793% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า นอกจากนี้ยังมีการประกาศปรับทัพจัดตั้งบริษัทโฮลดิ้งจำนวน 4 บริษัทเพื่อรองรับการปรับโครงสร้างธุรกิจ
โดยคุณณรงค์ชัย ว่องธนะวิโมกษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายบัญชีและการเงินของสบาย เทคโนโลยี ระบุว่าผลประกอบการในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้บริษัท SABUY มีรายได้รวม 1,157 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 75% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 53% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 501 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 793% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 41% จากไตรมาสที่ผ่านมา ในส่วนงวด 9 เดือน มีรายได้เพิ่มขึ้นมากถึง 2,648 ล้านบาทเติบโตขึ้น 88% ในส่วนของกำไรเติบโตขึ้น 964 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 605% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้รวม 1,413 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 136 ล้านบาท
สำหรับรายได้ที่เติบโตขึ้นนั้นเป็นผลมาจาก 6 กลุ่มธุรกิจคือ1. Connext – ธุรกิจช่องทางการจัดจำหน่ายและเชื่อมต่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าทุกกลุ่ม 2. Enterprise & Life – ธุรกิจให้บริการสำหรับองค์กรและไลฟ์สไตล์ด้วยความเข้าใจผู้บริโภค 3. Payments and Wallet – ธุรกิจบริการด้านการชำระเงินและระบบการเงินอิเลคทรอนิกส์ 4. Financial Inclusion – ธุรกิจให้บริการสินเชื่อและประกันภัย 5. InnoTainment – ธุรกิจนวัตกรรมทางสื่อ ดิจิทัลมีเดียและเครือข่าย และ 6. Venture – ธุรกิจการลงทุนเพื่อสนับสนุนการเติบโตที่ยั่งยืน
คุณณรงค์ชัย ระบุด้วยว่า ผลกำไรที่ที่เติบโตขึ้นนั้นเป็นผลมาจากการเติบโตอย่างต่อเนื่องของธุรกิจในเครือไม่ว่าจะเป็น SABUY TECH, Vending Plus , SABUY Solutions และ SABUY Speed ที่คิดเป็นสัดส่วนถึง 64% นอกจากนี้สัดส่วน 36% เป็นกำไรจากธุรกิจใหม่ที่รับเข้ามาด้วยไม่ว่าจะเป็น TSR, SABUY Alliance และ SABUY Market Plus ซึ่งบางบริษัทยังเข้ามาไม่เต็มไตรมาส ทำให้เห็นได้ว่า กลุ่มสบายมีศักยภาพในการเติบโตของรายได้อีกมาก
มั่นใจถึงเป้า 5,000 ล้านในปีนี้ 2023 ตั้งเป้า 20,000 ล้าน
ด้านคุณวิรัช มรกตกาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานพาณิชย์และการลงทุน ระบุถึงเป้าหมายรายได้ปี 2022 นี้ยังคงอยู่ที่ 5,000 ล้านบาท จากธุรกิจเดิมประมาณ 3,000 ล้านบาท เพิ่มเติมด้วยธุรกิจใหม่ในกลุ่ม Connext ประมาณ 500 ล้านบาท และ Enterprise & Life ประมาณ 1,300 ล้านบาท พร้อมมุ่งมั่นที่จะสร้างรายได้ถึง 20,000 ล้านบาท ในปี 2023 ที่ประกอบด้วย ธุรกิจเดิม 5,000 ล้านบาท ธุรกิจใหม่ในกลุ่ม Enterprise & Life ประมาณ 9,000 ล้านบาท กลุ่ม Connext ประมาณ 3,000 ล้านบาท กลุ่ม InnoTainment ประมาณ 1,000 ล้านบาท และกลุ่ม Financial Inclusion ประมาณ 2,000 ล้านบาท
ตั้งโฮลดิ้ง 4 แห่งรอบรับปรับโครงสร้าง
คุณวิรัช กล่าวถึงแผนการปรับโครงสร้างบริษัทเพื่อสร้างความชัดเจนให้กับนักลงทุน และรองรับการเติบโตในอนาคต ด้วยว่าล่าสุด SABUY ได้แต่งตั้งที่ปรึกษาทางการเงินได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และบริษัท หลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จํากัด (มหาชน) เพื่อศึกษาแนวทางการจัดโครงสร้างกลุ่มบริษัท และมีการตั้งบริษัท บริษัทโฮลดิ้งจำนวน 4 แห่งเพื่อรองรับการปรับโครงสร้างธุรกิจ ได้แก่
-
- Connext เพื่อจัดโครงสร้างธุรกิจผลิตภัณฑ์และช่องทางการจัดจำหน่ายเพื่อเชื่อมต่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าทุกกลุ่ม
- Enterprise & Life เพื่อรองรับธุรกิจบริการสำหรับองค์กรและไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค
- SPEED เพื่อรองรับธุรกิจ drop-off ซึ่ง SABUY จะถือหุ้นอยู่ 82%
- AIT เพื่อรองรับธุรกิจ infrastructure ที่บริษัทได้เข้าลงทุนใน AIT
ตั้งเป้าลุยตลาดระดับภูมิภาค
ด้านคุณชูเกียรติ รุจนพรพจี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท สบาย เทคโนโลยี ระบุว่า นับตั้งแต่ SABUY เข้าตลาดหลักทรัพย์เมื่อ 2 ปีที่แล้วนั้น SABUY มีมูลค่าสินทรัพย์เพิ่มขึ้นจาก 2,500 ล้านบาทขึ้นมาเป็น 15,000 ล้านบาท ในส่วนผู้ถือหุ้นในวันที่ SABUY เข้าตลาดมีประมาณ 1,500 ล้านบาท แต่ล่าสุดบริษัทมีส่วนผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้นเป็น 10,500 ล้านบาท เห็นได้ว่า ท่ามกลางความผันผวนความเปลี่ยนแปลงทั้งภาวะเศรษฐกิจและการเมืองสิ่งสำคัญคือฐานทุน ปัจจุบัน SABUY มีฐานทุนถึง 10,500 ล้าน มีส่วนที่เป็นหนี้ประมาณ 4,700 ล้านบาทเทียบแล้วมีสัดส่วนหนี้ต่อทุนอยู่เพียง 0.4 เท่า เท่านั้นที่เรียกว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับการเติบโต เรียกว่า SABUY สร้างขึ้นบนรากฐานที่มั่นคง
ขณะที่ทิศทางของ SABUY เปรียบเหมือนการรวบรวมเอาคนตัวเล็กที่มีพลังใจที่ใส่เกินร้อยเพื่อมาสร้างความเติบโตที่ SABUY จะช่วยให้พวกเขาวิ่งได้เร็วขึ้น นอกจากนี้ SABUY ยังมีต้นทุนต่อหน่วยที่ต่ำจากการที่สามารถขายสินค้าและบริการจำนวนมากให้กับลูกค้าแต่ละรายได้และจะทำให้กำไรเพิ่มสูงขึ้น
นอกจากนี้ SABUY ยังมีเป้าหมายในการสร้างทีม Thailand ไปสู่การเป็นแพลตฟอร์มของคนในภูมิภาคอาเซียน โดยมีแกนหลักคือ 4 บริษัทโฮลดิ้งที่ตั้งขึ้นใหม่โดยมีสินค้าและบริการแยกสัดส่วนชัดเจน ที่จะส่งผลให้ SABUY สามารถก้าวไปสู่ตลาดในระดับภูมิภาคได้ง่ายขึ้น
“จะเห็นได้ว่าเรามีโครงสร้างทางการเงินที่แข็งแรง มีพื้นฐานช่องทางการหารายได้ที่หลากหลายกว่าคนอื่นเป็นสิบๆเท่า มีความสามารถในการกดต้นทุนได้ดีกว่า และสุดท้ายผมกำลังรวมเอาคนเก่งของไทยมารวมตัวกันเพื่อที่จะคว้าเหรียญทองในระดับภูมิภาค เพื่อสนับสนุนคนตัวเล็กและสร้างสังคมที่น่าอยู่ขึ้น” คุณชูเกียรติ กล่าวปิดท้าย
