หลังจาก Elon Musk ปิดดีลเป็นเจ้าของ Twitter และเริ่มกระบวนการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ตั้งแต่ไล่ CEO และบรรดาผู้บริหารระดับสูงออกไปก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ยังประกาศแผนที่จะคิดค่าบริการรายเดือนสำหรับบัญชี Twitter ที่มีเครื่องหมายยืนยันตัวตน (เครื่องหมายถูกสีฟ้า) เดือนละ 8 ดอลลาร์สหรัฐหรือราว 300 บาทไปแล้วนั้น ล่าสุด The Verge รายงานเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายนตามเวลาสหรัฐอเมริกาว่า บรรดาพนักงานทวิตเตอร์ได้รับแจ้งผ่านบันทึกข้อความภายในแล้ว่าจะมีการลดจำนวนพนักงานลง
รายงานระบุว่าเนื้อหาในบันทึกข้อความภายในระบุให้บรรดาพนักงาน Twitter ทั้งหมดรอรับอีเมล์ในเวลา 9.00น.ตามเวลาสหรัฐ หรือราว 23.00น. ตามเวลาประเทศไทย ของวันที่ 4 พฤศจิกายน โดยอีเมล์ดังกล่าวจะยืนยันว่าพนักงานแต่ละคนจะต้องถูกให้ออกจากงานหรือไม่ และบัตรที่จะใช้เข้าสำนักงานของ Twitter ทั้งหมดจะถูกปิดการใช้งานลงเป็นการชั่วคราว
“เรารู้ว่าสถานการณ์ที่กำลังเผชิญนี้ท้าทายอย่างไม่น่าเชื่อ ไม่ว่าคุณจะได้รับผลกระทบหรือไม่ ขอบคุณทุกคนที่ยังคงยึดมั่นในนโยบายของ Twitter ที่ห้ามไม่ให้คุณวิพากษ์วิจารณ์ข้อมูลลับของบริษัทในสื่อสังคมออนไลน์ กับสื่อหรือไม่ว่าที่ใดๆก็ตาม” บันทึกข้อความระบุ
แม้ว่าบันทึกข้อความดังกล่าวจะไม่ได้ระบุว่าจะมีการปรับลดจำนวนคนใน Twitter ลงเท่าใด แต่กระแสข่าวก่อนหน้านี้ระบุว่า Musk ต้องการลดกำลังคนของ Twitter ลงครึ่งหนึ่ง จากจำนวนพนักงานของ Twitter 7,500 คนในเวลานี้ และมีรายงานว่าที่ปรึกษาของ Musk ได้เริ่มปรึกษาหารือกันแล้วว่าจะใช้วิธีใดในการเลือกพนักงานที่จะทำงานกับ Twitter ต่อไปบ้าง
ทั้งนี้ Musk ซีอีโอ และผู้ก่อตั้งบริษัท Tesla และ Space X เคยระบุไว้ก่อนหน้านี้ว่า Twitter มีต้นทุนที่สูงกว่ารายได้และจำเป็นที่จะต้องมีการตัดลดต้นทุน จำนวนกำลังคนและค่าใช้จ่ายบางอย่างลงเพื่อให้ Twitter สามารถเติบโตต่อไปได้
ขณะที่ล่าสุด Bloomberg รายงานว่า มีทนายความที่เป็นตัวแทนของพนักงาน Twitter ที่ยื่นเรื่องฟ้องร้องต่อบริษัท Twitter แล้วโดยอ้างอิงกฎหมายของรัฐบาลกลางและกฎหมายของรัฐแคลิฟอร์เนียที่ระบุว่า การเลิกจ้างพนักงานนั้นบริษัทต้องแจ้งให้พนักงานทราบก่อนล่วงหน้าอย่างน้อย 60 วัน
จากกระแสข่าวล่าสุดนั้นก็ต้องติดตามกันต่อไปว่า Twitter จะเดินหน้าต่อไปในทิศทางใดภายใต้การนำของ Elon Musk ด้านบรรดาพนักงานที่จะต้องลุ้นว่าจะได้ทำงานต่อกับ Twitter หรือไม่ และนับจากนี้จะมีการต่อสู้ทางกฎหมายยืดเยื้อตามมาหรือไม่ก็คงต้องจับตาดู