เปิดตัว ‘SUA (ซูอา)’ Virtual Influencer คนใหม่จากเกาหลี เน้นสร้างตัวตนเป็น วัยรุ่นธรรมดา ที่ไม่ธรรมดา

  • 4.3K
  •  
  •  
  •  
  •  

 

หนึ่งในกลยุทธ์การตลาดที่ได้รับความนิยมและผลสำเร็จค่อนข้างสูงได้แก่ Influencer Marketing แต่ถ้าสร้างให้เกิดความล้ำสมัยบียอนด์ไปกว่าเดิมก็ต้องเป็น Virtual Influencer ซึ่งถือเป็นเทรนด์ใหม่มาแรงมากกว่า อีกทั้งยังเข้าถึงคนรุ่นใหม่ได้ง่ายกว่าอีกด้วย ทั้งนี้ ข้อมูลจาก The Influencer Marketing Factory เอเจนซี่ชั้นนำของสหรัฐฯ ระบุว่า มูลค่าขนาดตลาดของ Virtual Influencer เติบโตขึ้นมาก โดยเมื่อปี 2018 อยู่ที่ 4.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตต่อปี (CAGRX) มากกว่า 26% ตั้งแต่ปี 2019 ไปจนถึงปี 2025 และที่สำคัญผลสำรวจยังระบุว่า 58% ของผู้ใช้อินเตอร์เน็ตจะติดตาม Virtual Influencer อย่างน้อย 1 คน และมีถึง 35% ที่ยอมรับว่า พวกเขาเคยซื้อผลิตภัณฑ์หรือบริการที่โปรโมทโดย Virtual Influencer จากข้อมูลดังกล่าวนี้น่าจะเป็นตัวสะท้อนได้ดีว่าตลาดและความสนใจของ Virtual Influencer ในระดับโลกนั้นมีความสำคัญมากขนาดไหน

ล่าสุด กับการมาถึงเมืองไทยแล้ว Virtual Influencer ที่ร้อนแรงที่สุดแห่งเกาหลีใต้ “SUA (ซูอา)” ซึ่งวันนี้ Cheil (Thailand) เอเจนซี่แถวหน้าของเอเชีย ได้พาเธอบินตรงลัดฟ้าเดินทางถึงเมืองไทย  และพร้อมสำหรับทุกภารกิจด้านการตลาดแล้ว

 

 

ทำความรู้จักกับ SUA (ซูอา) Virtual Influencer ธรรมดาที่พิเศษกว่าใคร

จุดเด่นที่สำคัญของ ‘SUA’ คือการวางคาแร็คเตอร์ให้เป็นเหมือน วัยรุ่นธรรมดาๆ คนหนึ่ง มีไลฟ์สไตล์เหมือนเด็ก Gen Z ทั่วไป มีความเป็น Digital Native ชอบเล่น IG เต้น TikTok ชอบการท่องเที่ยวไปตามที่ต่างๆ และทดลองสิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ แต่ก็ยังแอบมีความโก๊ะกัง ติดตลก เป็นสาวบ้านๆ ติดดิน อารมณ์ขัน และมองโลกในแง่ดี ชอบสร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้คนรอบข้างอยู่เสมอ ซึ่งการปั้นคาแร็คเตอร์ให้เธอเป็นเหมือนเด็กวัยรุ่นธรรมดาคนหนึ่งนี่เอง ยิ่งทำให้เธอพิเศษมากกว่าใคร เพราะขับเน้นให้ SUA โดดเด่นและแตกต่างจาก Virtual Influencer รายอื่นๆ และที่สำคัญคือ ทำให้ผู้คนรู้สึกเข้าถึงตัวเธอได้ง่าย และเป็นที่รักของชาวเน็ตอย่างมาก

นอกเหนือจากคาแร็คเตอร์ที่โดดเด่นไม่เหมือนใครแล้ว ในแง่ของการออกแบบพัฒนา ‘SUA’ ก็ต้องบอกว่าได้มือครีเอทระดับโลก ได้แก่ On Mind บริษัท 3D Image Production ชั้นนำจากเกาหลีใต้ ซึ่งมีเป้าหมายสำคัญก็คือ การทำให้ SUA เป็น Virtual Human ที่มีความเรียลและเคลื่อนไหวได้เสมือนจริงมากที่สุด ด้วยเทคโนโลยีที่มีชื่อว่า High Definition Render Pipeline (HDRP) ซึ่งเป็นการเรนเดอร์ที่สร้างขึ้นเพื่อมาใช้กับโปรแกรม Unity เครื่องมือดังกล่าวจะสามารถสร้างโมเดลของ Digital Human ขึ้นมาได้ด้วยฟิสิกส์และแสงเงาที่ถูกต้อง พร้อมทั้งฟังก์ชันการเคลื่อนไหวอื่นๆ อีกมากมาย ดังนั้น วิชวลของ ‘SUA’ จึงเป็นงานละเอียดคุณภาพสูง ผลงานที่ออกมาจึงมีทั้งความสวยงามและสมจริงอย่างน่าทึ่ง

 

  

กลยุทธ์การเข้าถึงใจคนรุ่นใหม่ด้วยกระแส K-Culture

หากวิเคราะห์ในเชิงการตลาดกับการมาครั้งนี้ของ SUA หลายคนอาจจะตั้งข้อสังเกตว่า ช้าไปหรือเปล่า เพราะตอนนี้ตลาดเมืองไทยก็เริ่มมี Virtual Influencer กันมามากแล้ว แต่เรากลับมองว่าเป็นช่วงจังหวะที่ค่อนข้างดีทีเดียว เพราะเป็นช่วงที่กระแสของ K-Culture ต่างๆ กำลังเบ่งบานมากทีเดียวแถมยังมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น การเปิดตัวพร้อมอิงไปกับกระแสเกาหลีฟีเวอร์ในเมืองไทยของ SUA จึงไม่ถือว่าสายเกินไป แต่เป็นไทมมิ่งที่ดีมากกว่า ที่สำคัญคือ กระแส K-Culture ยังสามารถเข้าได้กับคนทุกเพศทุกวัย เป็นการตลาดที่มีประสิทธิภาพและได้ผลตอบรับที่ดีมาก เข้ากันได้กับหลายกลุ่มธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็น เครื่องสำอางสกินแคร์ อาหารเครื่องดื่ม หนังซีรีส์ ดนตรีเพลง ฯลฯ

อย่างไรก็ตาม แน่นอนว่ากลุ่มเป้าหมายหลักยังคงเป็นกลุ่มวัยรุ่น #สายเกา บรรดาแฟนด้อมที่ชื่นชอบในวัฒนธรรรมเกาหลี ดังนั้น ในมุมกลยุทธ์การสื่อสารเพื่อเปิดตัว SUA ครั้งนี้ทำได้อย่างน่าสนใจเปรียบเหมือนกับไอดอลเกาหลีคนหนึ่งเลยก็ว่าได้ โดยมีการเปิดตัวที่สะท้อนดิจิทัลไลฟ์ในรูปแบบ Digital Out of Home (DOOH) บนพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญของกรุงเทพฯ (Key Strategic Location) อย่างสยามพารากอน แหล่งรวมคน Gen Z ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายสำคัญ รวมไปถึงยังมีการร่วมงาน Collaboration กับเหล่าซุปตาร์คนดังของไทยมากมาย และที่เก๋จนไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือการจัดแคมเปญสนุกๆ ชวนแฟนคลับมาร่วมตั้งชื่อไทยให้กับ SUA อีกด้วย ซึ่งกลยุทธ์แต่ละก้าวนั้นเกิดจากการทำการบ้านมาอย่างดีของทีมงาน ที่ศึกษาข้อมูลอินซ์ไซต์กลุ่มเป้าหมายในเชิงลึกมาอย่างดี จนขณะนี้ SUA กำลังค่อยๆ เข้าไปอยู่ในหัวใจคนไทยแล้ว

 

 

ความลงตัวในแบบ Perfect Business Partner คุ้มค่าการลงทุน

ในแง่ของธุรกิจก็ต้องบอกว่าถือเป็นบิ๊กโปรเจ็คต์ที่เกิดจากการผนึกกำลังของ 3 องค์กรใหญ่ที่มีมุมความเชี่ยวชาญในแต่ละด้านแตกต่างกันแต่มารวมกันสร้างพลังแข็งแกร่งให้ธุรกิจได้ รายแรกคือมือฉมังของวงการ 3D เกาหลีใต้ ได้แก่ Onmind ที่ใช้เทคโนโลยีสุดทันสมัยในการออกแบบให้เสมือนบุคคลจริง รายที่สอง ได้แก่ Digital Dynamic Display มีเดียยักษ์ใหญ่ของไทย ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสของ Media Visibility ด้วยพื้นที่สื่อที่อยู่ใจกลางเมืองและย่านธุรกิจสำคัญหลายแห่ง และสุดท้าย Cheil (Thailand) เอเจนซี่ระดับโลก อันดับหนึ่งจากเกาหลีใต้ ที่มีศักยภาพเต็มเปี่ยมพร้อมด้วยคอนเน็คชั่นที่ยอดเยี่ยม ซึ่งจะพา “SUA” ไปสร้างสรรค์กิจกรรมส่งเสริมการตลาดให้กับแบรนด์ได้หลากหลายครบมิติ ทั้ง Online และ Offline

 

 

ดังนั้น การผนึกกำลังกันในครั้งนี้อาจจะเรียกได้ว่าเป็น Perfect Business Partner ที่ผสานความแข็งแกร่งของแต่ละด้านเข้าด้วยกันกันอย่างลงตัว ซึ่งจะเสริมพลังให้ในการทำหน้าที่ Virtual Influencer ของ ‘SUA’ ในการเป็นตัวแทนแบรนด์ เพื่อสื่อสารกับผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งทำได้ตั้งแต่ขั้นการวางแผนกลยุทธ์ ไปจนถึงการครีเอทแคมเปญให้ครบจนจบโปรดักชั่น รวมถึงบริการให้คำปรึกษาในทุกขั้นตอน จนเรียกได้ว่าก่อให้เกิดความร่วมมือแบบ One- stop Service เพื่อให้แบรนด์ได้รับประโยชน์สูงสุดและคุ้มค่ากับการลงทุนนั่นเอง

ดังนั้น การเลือกใช้ Virtual Influencer ถือเป็นทางเลือกใหม่ที่มาแรง และกำลังเป็นเวิล์ดเทรนด์ของการทำดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งกันทั่วโลก เพราะฉะนั้นแล้วนักการตลาดและแบรนด์ไทย ก็ไม่ควรพลาดที่จะเกาะติดเทรนด์เหล่านี้ไว้ รวมถึงลองครีเอทแคมเปญมาใช้งาน Virtual Influencer ดูบ้างหากต้องการเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ ซึ่งก็ต้องบอกว่าถ้าเน้นกลุ่ม Gen Z แล้วล่ะก็ “SUA” คนนี้ค่อนข้างเหมาะมากทีเดียว หรือถ้าใครสนใจอยากติดตามความเคลื่อนไหวต่างๆ ของ “SUA” ก็สามารถเข้าไปตามกันได้ผ่านช่องทางโซเชียลของเธอที่มีการอัปเดตอยู่ตลอดเวลา

Facebook: https://www.facebook.com/sua.to.th/

IG: https://www.instagram.com/sua_to_th/

Tiktok : vt.tiktok.com/ZSdsd8Qyg


  • 4.3K
  •  
  •  
  •  
  •