หนึ่งในเทรนด์ Digital Assets ที่มาแรงทั่วโลก รวมทั้งไทยคือ “NFTs” ย่อมาจาก “Non-Fungible Token” เป็นโทเคนประเภทหนึ่งที่อยู่บนระบบ Blockchain ใช้แทนสินทรัพย์ต่างๆ เช่น ภาพ, วิดีโอ, เสียง, งานศิลปะ, สิ่งของในเกม โดยแต่ละ NFT มีมูลค่าไม่เท่ากัน ไม่สามารถทดแทนกันได้ และไม่สามารถแบ่ง หรือทำซ้ำได้
การเกิดขึ้นของ “NFT” ช่วยกระตุ้นให้ทั้ง “Creative Economy” (ระบบเศรษฐกิจสร้างสรรค์) กับ “Digital Economy” (เศรษฐกิจดิจิทัล) เติบโตและหลอมรวมกันเป็นหนึ่งเดียว สร้างโอกาสให้ครีเอเตอร์-ศิลปิน รังสรรค์ “NFT Project” มากมาย นำไปสู่การซื้อขายผลงานกันอย่างคึกคัก และเริ่มมีแบรนด์ระดับโลก และแบรนด์ไทยจับเทรนด์ NFT แล้วเช่นกัน
คาดมูลค่าตลาด NFT ทั่วโลก แตะ 147.24 พันล้านเหรียญสหรัฐ – เอเชียโตสุด!
ในช่วง 1 – 2 ปีนี้ เกิด NFT Project มากมาย และมีมูลค่าการซื้อขายมหาศาล อย่างโปรเจคที่สร้างความฮือฮา และจุดกระแส NFT ทั่วโลกคือ “Bored Ape Yacht Club” (BAYC) ออกแบบภาพลิง“Bored Ape” 10,000 ภาพ ลิงแต่ละตัวมีคุณลักษณะเฉพาะ โดยมีอยู่ภาพหนึ่งถูกประมูลไปในราคาสูงถึง 852.39 ETH หรือประมาณ 3.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ! สะท้อนให้เห็นถึงความร้อนแรงของตลาดนี้
บริษัทวิจัยด้านเทคโนโลยี Technavio คาดการณ์มูลค่าตลาด NFT ทั่วโลกในปี 2021 – 2026 จะอยู่ที่ 147.24 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยภูมิภาคที่ตลาด NFT ขยายตัวอย่างรวดเร็วคือ “เอเชียแปซิฟิก”เติบโตสูงถึง 43% เนื่องจากความต้องการงานศิลปะดิจิทัลเพิ่มขึ้น
Demand ที่เกิดขึ้นนี้ มาจากหลากหลายวัตถุประสงค์ ไม่ว่าจะลงทุนเพื่อเก็งกำไร, ซื้อเพื่อสะสม หรือซื้อเพราะชอบ และที่น่าจับตามอง คือ เวลานี้แบรนด์จากหลากหลายกลุ่มธุรกิจเริ่มนำ “NFT” มาผนวกเข้ากับการตลาด หรือที่เรียกว่า “NFT Marketing” ทำให้ยิ่งสร้างโอกาสให้กับครีเอเตอร์ หรือศิลปิน ในการทำ Collaboration ร่วมกับแบรนด์
เมื่อมองกลับมาที่ “ประเทศไทย” ถือเป็นแหล่งรวมความคิดสร้างสรรค์, มีครีเอเตอร์-ศิลปิน และผลงานศิลปะมากมาย เพราะฉะนั้นการเกิดโลก NFT จะเป็นเวทีสร้างโอกาสให้กับเหล่าครีเอเตอร์ หรือศิลปิน รวมทั้งแบรนด์ที่ต้องการทำ NFT เพื่อเชื่อมต่อกับผู้บริโภค โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่
ด้วยเหตุนี้เอง “LINE” ในฐานะผู้นำแพลตฟอร์มดิจิทัลของคนไทย และเป็น Business Solution Provider ให้กับธุรกิจและแบรนด์ มองเห็นความสำคัญและโอกาสของการนำ NFT มาใช้ในการตลาดยุคใหม่ จึงได้จัดงานสัมมนา “NFT for Business: The Future of Marketing with LINE CREATORS” เพื่อช่วยผลักดันและปลดล็อกศักยภาพธุรกิจไทยทุกขนาด ได้สร้างโอกาสใหม่ในโลกยุค Digital Assets หนึ่งในนั้นคือ “NFT”
ทำความรู้จัก “NFT” Marketing” สำคัญอย่างไรต่อแบรนด์ และครีเอเตอร์ ?!?
ในงานสัมมนา NFT for Business หัวข้อ “Perspective on NFT Potential in Thai Businesses” มีผู้บริหารองค์กรชั้นนำในไทยและครีเอเตอร์ชื่อดังมาร่วมพูดคุย และแสดงมุมมองบทบาทของ NFT ต่อการดำเนินธุรกิจ พร้อมยกตัวอย่างแบรนด์ต่างประเทศและแบรนด์ไทยที่ทำ“NFT Marketing”
ประกอบด้วย คุณชาตยา สุพรรณพงศ์ Chief Engagement Officer, Food Passion, คุณพิทักษ์ อินทรทูต Chief Client Officer, Mindshare Thailand, คุณสุรศักดิ์ เหลืองอุษากุล Chief of Digital Marketing and Technology, MAT Association of Thailand, คุณสุมิตร สีมากุล Creator and Managing Director Liffolab โดยมี คุณรวิศ หาญอุตสาหะ Founder Mission to the moon ชวนเปิดประเด็นการพูดคุยในครั้งนี้
สรุปออกมาเป็น 5 แนวทางการนำ NFT มาประยุกต์ใช้กับการตลาด และสร้างโอกาสใหม่ให้กับครีเอเตอร์
1. “NFT Collection” สร้างฐานแฟนคลับ – ผูกกับ Loyalty Program ของแบรนด์
ปัจจุบันเริ่มเห็นแบรนด์ระดับโลก และแบรนด์ไทยเข้าสู่โลก NFT แล้ว ด้วยการทำ “NFT Collection”เพื่อให้คนได้สะสม ช่วยสร้างและขยายฐานแฟนคลับของแบรนด์มากขึ้น และยังสามารถผูกกับ Loyalty Program ของแบรนด์ได้ด้วย เพื่อให้ผู้ได้สิทธิ์ใน NFT นั้นๆ ได้สิทธิประโยชน์พิเศษจากแบรนด์
ตัวอย่างแบรนด์ระดับโลกทำ NFT เช่น
– “Nike” ซื้อ “RTFKT” (อ่านว่า artifact) บริษัทออกแบบ Virtual Fashion และของสะสม NFT นำไปสู่ความร่วมมือออกแบบสนีกเกอร์ “CryptoKicks NFT” สร้างกระแสได้ทั้งในแฟน Nike และคนที่เล่น NFT
– “Adidas” จับมือกับ Bored Ape Yacht Club, PUNKS Comic และ gmoney เพื่อทำ “Adidas Original Into The Metaverse” ร่วมกันออกคอลเลคชั่น NFT
– แบรนด์หรูอย่าง “Gucci” เปิดแพลตฟอร์ม “Gucci Vault” สำหรับขายคอลเลคชั่น NFT และเชื่อมกับโลก Metaverse
ส่วนแบรนด์ไทยก็เริ่มนำ NFT มาเชื่อมต่อกับ Loyalty Program ในโลกจริง
– “Bar B Q Plaza x Bitkub” ทำคอลเลคชั่นการ์ด “GO(N)FT” มีเพียง 90 ชิ้นในโลก ผูกกับLoyalty Program ให้กับสมาชิก GON GANG Club เชื่อมต่อจากโลกดิจิทัลสู่การนำมาใช้ในโลกจริง เช่น โปรโมชั่นซื้อ 1 ฟรี 1, แลกซื้อชุดโปรโมชั่นในราคาบาทเดียว, โปรโมชั่นสั่ง Delivery
– “เถ้าแก่น้อย x Bitkub” ทำคอลเลคชั่น NFT ภาพหยิ่นวอร์ คู่จิ้นสาย Y เพื่อให้แฟนคลับได้ตามเก็บสะสม แล้วนำมาร่วมกิจกรรมสุดพิเศษ
การนำ NFT มาเชื่อมต่อกับ Loyalty Program ของแบรนด์ ช่วยยกระดับกลยุทธ์ CRM ของแบรนด์ในการสร้างประสบการณ์ใหม่ที่แตกต่าง – ตื่นเต้นให้กับผู้บริโภค รวมทั้งเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับแบรนด์ที่ต้องการต่อยอดไปสู่ยุค Metaverse โดยทั้งในตลาดโลก และในไทยจะถูกแบ่งออกมาเป็น 3 จุดสำคัญคือ 1. สำหรับให้ลูกค้าสะสม ไม่ว่าจะสะสมเอง หรือขาย, 2. สำหรับให้สิทธิพิเศษเพิ่มเติมแก่ลูกค้านอกเหนือจากการสะสม และ 3. ใช้ต่อยอดในอนาคตเพื่อการใช้งานในโลก Metaverse ดังนั้น NFT มีศักยภาพอีกมากที่แบรนด์สามารถเอาครีเอทีฟลงไปใส่และสร้างงานได้หลากหลายรูปแบบ”
2. แบรนด์ดิ้งภาพลักษณ์ให้ทันสมัย – เชื่อมต่อผู้บริโภคคนรุ่นใหม่
คุณพิทักษ์ อินทรทูต Chief Client Officer, Mindshare Thailand เล่าว่า NFT สามารถใช้เป็นเครื่องมือในการทำแบรนด์ดิ้ง สร้างภาพลักษณ์ให้ทันสมัยเพื่อเชื่อมต่อกับผู้บริโภคกลุ่มคนรุ่นใหม่ เนื่องจากผู้บริโภคกลุ่มนี้มีไลฟ์สไตล์อยู่กับดิจิทัลแทบจะตลอดเวลา และชอบเรียนรู้ ทดลองสิ่งใหม่ ดังนั้นแบรนด์ที่จะเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ได้ ต้องนำแบรนด์เข้าไปอยู่ในโลก หรือไลฟ์สไตล์ของคนกลุ่มนี้
ตัวอย่างกรณีศึกษาแบรนด์ที่นำ NFT เชื่อมต่อกับคนรุ่นใหม่ เช่น
– “Lotus’s” (โลตัส) เชนซูเปอร์มาร์เก็ตและไฮเปอร์มาร์เก็ต นำ NFT มาสร้างการรับรู้แอปพลิเคชันใหม่ “Lotus’s Smart App” เพื่อกระตุ้นให้คนดาวน์โหลดแอปฯ และเชื่อมต่อกับผู้บริโภคคนรุ่นใหม่ เนื่องจากที่ผ่านมาภาพลักษณ์ของ Lotus’s ถูกมองเป็นแบรนด์ของแม่บ้าน ขณะที่ Lotus’s ต้องการปรับภาพลักษณ์ให้ทันสมัยขึ้น และเข้าถึงคนรุ่นใหม่ จึงทำโปรเจค “NFT” ให้ศิลปินไทยมาสร้าง “NFT Art”มอบให้กับลูกค้า นับเป็นกลยุทธ์โปรโมททั้งแอปพลิเคชัน พร้อมกับสื่อสารให้เห็นถึงภาพลักษณ์ใหม่ของแบรนด์ Lotus’s ในการเข้าถึงผู้บริโภคคนรุ่นใหม่
3. กลยุทธ์สร้างความสัมพันธ์ลูกค้าระยะยาว ต่อยอดสู่ Gamification Marketing
ความน่าสนใจของ “NFT” ไม่ได้เป็น Ad Hoc Campaign หรือแคมเปญสื่อสาร/โปรโมทระยะสั้นชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น แต่แบรนด์สามารถวาง Roadmap เพื่อเป็นกลยุทธ์ระยะยาวสำหรับธุรกิจ ด้วยการนำความคิดสร้างสรรค์มาผนวกกับเข้ากับ NFT ออกมาเป็นโปรเจคอื่นได้อีกมาก เช่น ต่อยอดสู่การทำ “Gamification Marketing” คือ การประยุกต์ใช้ส่วนประกอบการเล่นเกม ผสานเข้ากับการตลาด เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมระหว่าวแบรนด์ กับลูกค้าได้มีประสบการณ์ที่สนุก – ตื่นเต้นเหมือนกับการเล่นเกม
คุณชาตยา สุพรรณพงศ์ Chief Engagement Officer, Food Passion ขยายความถึงการต่อยอดNFT ว่า “ในมุมมองของคนทำธุรกิจ เรามองว่า NFT เป็นหนึ่งในเครื่องมือหนึ่งที่ใช้สร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าได้อย่างมหาศาล มีลูกเล่นหลายอย่าง แล้วแต่ว่าแบรนด์จะจินตนาการ หรือประยุกต์ใช้อย่างไร สเต็ปต่อไปของ NFT ในไทย อาจเห็นการต่อยอดสู่ Gamification ซึ่งเกิดขึ้นแล้วในต่างประเทศ เช่น เคสแบรนด์รองเท้ากีฬา Asics ทำ NFT Collection และนำคอนเซ็ปต์ Gamification มาทำเป็นเกมออกกำลังกายรูปแบบ Move to earn เพื่อให้ผู้ใช้งานได้ขยับตัว ไม่ว่าจะเดิน, วิ่งเหยาะๆ หรือวิ่ง แล้วจะได้รางวัลเป็นโทเคน เป็นการเอาแก่นของแบรนด์ คือ การเป็นแบรนด์รองเท้ากีฬา เชื่อมโยงกับ NFT และ Gamification วันหนึ่งข้างหน้าอาจเห็น Bar B Q Plaza นำแนวคิด Gamification มาพัฒนาเป็นเกมให้ลูกค้าได้ร่วมเล่น แล้วได้อะไรสักอย่างหนึ่งกลับไป เช่น ได้น้ำจิ้ม, ได้หมู เพื่อทำให้แบรนด์สนุกขึ้น”
4. แบรนด์หนุนตลาด NFT พัฒนาสู่ Mass Adoption
แบรนด์ต่างมองโอกาสการพัฒนาตลาด NFT จะไปสู่ระดับ “Mass Adoption” แม้วันนี้ในประเทศไทยยังมี Use Case ของ แบรนด์ไทยที่เข้ามาทำ NFT น้อยกว่าต่างประเทศก็ตาม เพราะด้วยความที่ตลาดเพิ่งเริ่มต้น, ความผันผวนของ Cryptocurrency และความรู้ความเข้าใจในโลก NFT ทำให้หลายแบรนด์อาจยังไม่กล้าลงทุน หรือยังไม่กล้าก้าวเข้ามาใน NFT
อย่างไรก็ตามเชื่อว่า NFT จะกลายเป็นกระแสหลักได้ มาจากหลายองค์ประกอบสนับสนุนกัน ไม่ว่าจะเป็น
– มี Use Case มากกว่านี้ และมี Ecosystem ให้ความรู้ความเข้าใจใน NFT
– มีครีเอเตอร์ หรือศิลปินเก่งๆ ในเมืองไทยมากขึ้น ทำให้แบรนด์ทำ Collaboration กับนักสร้างสรรค์ เพื่อให้ได้ผลงาน NFT ที่สวยงาม โดดเด่น และมีคุณค่า
– เปลี่ยน NFT ให้สะท้อนคุณค่าที่แท้จริง เนื่องจาก NFT เกิดมาพร้อมกับการเติบโตของCryptocurrency ทำให้ส่วนหนึ่งยังเป็นการเก็งกำไร ดังนั้น หากการซื้อขายมาจากจุดประสงค์เพื่อให้ได้ “คุณค่า” เช่น ซื้อเพราะชอบในผลงานครีเอเตอร์ หรือศิลปินคนนั้นๆ ซื้อเพราะสะสม หรือแม้แต่ซื้อเพราะเป็นแฟนคลับของแบรนด์นั้นๆ จะทำให้วงการ NFT เกิดความยั่งยืน
– สร้าง Community เพื่อทำให้ NFT นั้นๆ มีความเคลื่อนไหวต่อเนื่อง
5. NFT สร้างความตื่นตัววงการครีเอเตอร์ พาผลงานออกสู่ตลาดโลก
การเกิดโลก NFT เป็นอีกหนึ่ง “โอกาสใหม่” ให้กับครีเอเตอร์ หรือศิลปินได้สร้างสรรค์ผลงาน แล้วนำไปอยู่บน NFT Platform ต่างๆ ทำให้สามารถเข้าถึงตลาดโลก และหากผลงานไหนโดนใจตลาด ไม่เพียงแต่สร้างชื่อให้กับครีเอเตอร์ หรือศิลปินเท่านั้น แต่ยังสร้างรายได้ และโอกาสที่ครีเอเตอร์ หรือศิลปินคนนั้นๆ จะได้ร่วมงานกับแบรนด์ดัง
คุณสุมิตร สีมากุล Creator and Managing Director Liffolab เล่าว่า NFT คือ ตลาดใหม่ที่ครีเอเตอร์ควรเข้าไปทำความรู้จัก
เพราะเป็นตลาดที่ไม่ได้ขายให้เฉพาะคนไทยเท่านั้น แต่เข้าถึงลูกค้าต่างประเทศได้ทันที เมื่อนำงานของตัวเองขึ้นแพลตฟอร์มซื้อขาย NFT แล้วคนเห็น ชอบ ตัดสินใจซื้อเลย ครีเอเตอร์หรือศิลปินจะได้เงินในรูปแบบ Cryptocurrency ทันที ขณะเดียวกันเป็นโอกาสให้ครีเอเตอร์ได้ทดลองสิ่งใหม่ๆ แต่ทั้งนี้ด้วยความที่ NFT เป็นตลาดทั่วโลก ดังนั้นสิ่งที่ครีเอเตอร์ ต้องตระหนักไว้ คือ ต้องเข้าใจตลาด รู้ความชอบ ความต้องการของลูกค้า ต้องสร้างผลงานที่มีคุณภาพมีเอกลักษณ์ในตัวเอง และที่สำคัญ ต้องหมั่นเรียนรู้ตามสิ่งใหม่ๆที่เกิดขึ้นให้ทัน และไม่ย่อท้อหากยังไม่ประสบความสำเร็จ
จาก “LINE Creators” สู่การเป็น “NFT Solution” เพื่อทุกธุรกิจ
จากรากฐานความแข็งแกร่งของ “LINE Creators” ที่ปัจจุบันเป็นศูนย์รวมครีเอเตอร์ขนาดใหญ่ในไทย และมีคาแรคเตอร์ยอดนิยมมากมาย ล่าสุดได้ยกระดับบริการไปอีกขั้น ด้วยการเป็น “NFT Solution” ให้กับธุรกิจ โดยให้บริการ NFT Marketing ครบวงจร ตั้งแต่การทำเวิร์คช้อป (Training Workshop) ระดมสมองกับแบรนด์เพื่อหาแนวทางการทำ NFT การออกแบบ NFT โดย LINE CREATORS และการเฟ้นหาแพลตฟอร์ม (Platform Privileges) รวมถึง Discount fee และ Co-campaign promotion ที่เหมาะกับแต่ละแบรนด์
ด้วยความหลากหลายของครีเอเตอร์ ทำให้แบรนด์สามารถเลือกสร้างความร่วมมือกับครีเอเตอร์ที่จะมาสร้างสรรค์ผลงาน NFT ให้โดนใจกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่แบรนด์ต้องการเข้าถึง ซึ่งบริการ “NFT For Business” เป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของแพลตฟอร์ม “LINE” ในการเป็นโซลูชั่นด้าน “NFT Marketing” ที่ครบวงจรที่สุดให้กับแบรนด์รุกเข้าสู่โลก “NFT” ที่กำลังเป็นเทรนด์ทั้งในวันนี้ และอนาคต
สำหรับผู้ที่สนใจอยากศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเทรนด์บนโลก NFT พร้อมเรียนรู้การทำการตลาดด้วย NFT บนโลกดิจิทัล สามารถรับชมงาน ‘NFT for Business: The Future of Marketing with LINE CREATORS’ ย้อนหลังได้ที่ https://lin.ee/R4FKdoY/wcvn
