เป็นเรื่องปกติอย่างมากที่คนทำงานระหว่างลูกค้าและเอเจนซี่นั้นอย่างได้ กระบวนการทำงานที่ดี และมีความสัมพันธ์ที่ดีร่วมกัน เพื่อที่จะทำให้งานนั้นมีประสิทธิภาพ ตรงใจและผลประโยชน์นั้นลงตัวทุกฝ่ายไม่ว่าจะลูกค้าหรือเอเจนซี่เองก็ตาม ซึ่งการมีสายสัมพันธ์ที่ดีจองลูกค้าและเอเจนซี่นั้นเกิดจากปัจจัยหลาย ๆ ซึ่งในบทความนี้จะพาไปรู้จัก 8 สัญญาณที่ว่าลูกค้าและเอเจนซี่กำลังทำงานไปได้ด้วยดี
1. มีการพูดคุยอย่างเปิดอกระหว่างกัน สิ่งที่สำคัญในการทำงานคือการสื่อสาร และการทำงานที่จะราบรื่นได้คือการที่คนทำงานต้องเปิดอกในการพูดคุยกัน โดยไม่ได้มีความลับหรือ confidential หรือ hidden agenda ใด ๆ ซึ่งการพูดคุยอย่างเปิดอกนี้ ควรเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ Pitch เลยทีเดียว เพราะจะทำให้คนทำงานหรือเอเจนซี่นั้น รู้ว่าจะต้องทำงานแบบไหนที่จะตอบโจทย์ที่ลูกค้าต้องการมากที่สุดออกมาได้
2. การบาลานซ์ความเก่งของเอเจนซี่และเป้าหมายของลูกค้าเข้าด้วย เอเจนซี่นั้นมีความเก่งในการทำงานในการลงมือทำ และการออกครีเอทีฟไอเดียต่าง ๆ ได้ และลูกค้านั้นก็มีเป้าหมายที่ต้องการจะไปให้ถึง รวมทั้งความคาดหวังของลูกค้าที่ต้องการ ในฝั่งของลูกค้าเองเมื่อจ้างเอเจนซี่แล้วก็จงไว้ใจในการทำงานเพราะเอเจนซี่นั้นก็มีกระบวนการทำงาน การวิเคราะห์ข้อมูลที่เก็บมา และการเอาข้อมูลนั้นมาทำงาน การที่ทั้งลูกค้าและเอเจนซี่เข้าใจกันและกัน ในเป้าหมายที่จะไป และวิธีการทำงานตั้งแต่ต้นนั้นจะช่วยให้การทำงานนั้นราบรื่นได้อย่างมาก เพราะไม่มีใครอยู่กล่องดำที่จะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังทำอะไร
3. มีการพูดคุยอย่างต่อเนื่อง สิ่งที่สำคัญในการทำงานคือที่จะทำให้งานนั้นราบรื่น และมีความก้าวหน้าคือ การที่ทั้งคู่ไม่ว่าจะลูกค้าหรือเอเจนซี่นั้นมีการพูดคุยอย่างตลาดเวลา เพราะด้วยการพูดคุยนี้สามารถทำให้เข้าใจได้ว่ากระบวนการทำงานนั้นอยู่ในจุดไหน หรือประสิทธิภาพที่ทำไปนั้นตรงเป้าหมายหรือไม่ ซึ่งถ้าไม่ตรงก็จะได้ปรับแก้กันหรือหาทางออกกันไว้ได้ ทำให้ทั้งคู่เข้าใจว่าเป้าหมายหรืออุปสรรคที่มีจะต้องปรับเปลี่ยนอย่างไรบ้างขึ้นมา
4. มีความซื่อสัตย์ตั้งแต่ต้น การที่จะทำงานแล้วออกมาดีได้นั้น ความซื่อสัตย์นั้นมีส่วนสำคัญอย่างมาก ไม่ว่าจะจากลูกค้าเองในการที่ต้องบอกเป้าหมายที่แท้จริงในการทำงาน งบในการตลาด หรือ KPI ที่ต้องการ ว่าต้องการแค่การรับรู้ หรือยอดขาย ในส่วนของคนทำงานเอเจนซี่ก็ต้องมีความซื่อสัตย์ในการทำงาน ไม่ใช่ขายแบบขายฝันไว้ เพื่อตีหัวเข้าบ้าน สุดท้ายทำอะไรไม่ได้จริงตามเป้าหมายที่วางไว้
5. มีความร่วมมือกันในการทำงาน การมีสายสัมพันธ์ที่ดีในการทำงานนั้นคือการที่สามารถมีความร่วมมือในการทำงานที่ดีออกมาได้ออกมา โดยแต่ละฝ่ายต่างให้ความนับถือหรือเข้าใจในวิธีการทำงาน ไอเดีย และการลงมือขึ้นมา ซึ่งแต่ละฝ่ายต้องยอมรับในความคิดเห็น การโต้แย้ง หรือการมี challenges ในการทำงานแบบต่าง ๆ ขึ้นมาเพื่อให้เกิดงานที่ดีที่สุดออกมาได้
6. ฝ่าฝันอุปสรรคด้วยกัน ลูกค้ากับเอเจนซี่ที่มีสายสัมพันธ์ที่ดี ต้องช่วยกันในการฟันฝ่าอุปสรรคที่เข้ามาได้ ไม่ใช่พอเกิดปัญหาก็ทิ้งปัญหาให้เป็นเรื่องของอีกฝ่ายที่ต้องแก้ปัญหา หรือรอจนปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ กลายเป็นปัญหาใหญ่ขึ้นมาจนแก้ไม่ได้ ความสัมพันธ์ที่ดีจะช่วยกันชี้ปัญหา ยอมรับการมีปัญหาและรีบแก้ปัญหาต่าง ๆ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพที่ดีที่สุดในการทำงาน
7. ความสัมพันธ์ที่พัฒนาขึ้นจากการทำงาน สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดในการที่ลูกค้าและคนทำงานเอเจนซี่ที่ดีมีร่วมกันคือสายสัมพันธ์ที่ดีในการทำงาน จนคนทำงานด้วยกันกลายเป็นเพื่อนกัน และช่วยกันในการทำงานได้ ไม่ว่าจะย้ายไปทำงานที่ไหน ก็ยังสามารถทำงานด้วยกัน หรือองค์กรเดิมก็ยังทำงานกันอยู่ได้ตลอดเวลา ซึ่งนี้ทำให้เห็นว่า แม้คนจะย้ายไปก็ยังทำงานด้วย หรือคนย้ายไปแล้วที่เก่าก็ยังทำงานอยู่ด้วยกัน ซึ่งเป็นการที่องค์กรที่ทำงานด้วยกันมีสายสัมพันธ์ที่ดีด้วยกัน
8. ผลักเป้าหมายให้ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม สายสัมพันธ์ที่ดีของลูกค้าและเอเจนซี่นั้น สุดท้ายแล้วจะนับมาซึ่ง impact ของการทำงานที่มีปรระสิทธิภาพเพิ่มขึ้น และเมื่อทำงานด้วยกันได้ดี เป้าหมายเดิม ๆ ที่วางไว้อาจจะไม่เพียงพออีกต่อไป การที่ไม่ว่าเอเจนซี่หรือลูกค้า เริ่มมองหาเป้าหมายที่อยากจะไปให้ใหญ่ขึ้น และหาคนร่วมฝัน ร่วมทำงานด้วยกัน นั้นเป็นสัญญาณที่ดีของการทำงานแล้วว่า เอเจนซี่กับลูกค้า กำลังทำงานด้วยกันได้อย่างดี
ทั้ง 8 ข้อนี้เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า เอเจนซี่กับลูกค้านั้นกำลังมีการทำงานที่ดีร่วมกัน ด้วยการทำงานที่ดีนั้นจะส่ผลอย่างมากกับการทำธุรกิจและการตลาดทั้งเอเจนซี่เอง และลูกค้าเอง และสามารถทำให้งานนั้นมีความรวดเร็ว มีประสิทธิภาพออกมาได้มากที่สุดด้วย