หลังการ Spin Off ธุรกิจ Food Delivery อย่าง Robinhood แยกตัวจากธุรกิจธนาคาร ซึ่งผลตอบรับออกไปในเชิงบวก โดยเฉพาะการไม่เก็บค่า GP กับร้านค้าที่ส่งผลให้หลายร้านค้าสามารถเข้าถึงระบบ Food Delivery ซึ่งเป็นอีกช่องทางในการจำหน่ายอาหาร นอกจากการองรับลูกค้าที่เดินเข้ามาทานในร้าน และเพราะไม่มีการเก็บค่า GP ทำให้ร้านค้าสามารถสร้สงโปรโมชั่นที่ตอบความต้องการของลูกค้าได้ ทั้งลด แลก แจกแถม
และด้วยความสำเร็จของ Robinhood ในส่วนของ Food Delivery จนมีข้อมูลฐานลูกค้าที่ชี้ให้เห็นพฤติกรรมผู้บริโภคสะท้อนความต้องการต่างๆ ซึ่งหนึ่งในความต้องการของผู้บริโภค คือ ความต้องการท่องเที่ยว โดยฐานลูกค้าส่วนใหญ่ของ Robinhood จะเป็นกลุ่มในระดับมีกำลังซื้อค่อนข้างสูง ประกอบกับธุรกิจ OTA (Online Travel Agency) ส่วนใหญ่เป็นของต่างชาติและมีการเก็บค่าคอมมิชชั่นในอัตราที่สูง
ถือกำเนิด Robinhood Travel
ซึ่งเมื่อดูจากสภาพตลาดของธุรกิจ OTA แทบจะไม่แตกต่างจากธุรกิจ Food Delivery ในช่วงแรกที่มีการเก็บค่า GP ในอัตราสูงจนร้านเล็กๆ ไม่สามารถเข้าร่วมได้ ในด้านธุรกิจโรงแรมเองก็มีสภาพไม่แตกต่างกัน ซึ่งโรงแรมเชนใหญ่มีเงินทุนที่พร้อมรองรับค่าคอมมิชชั่นเหล่านั้นได้ แต่โรงแรมขนาดเล็กระดับ 3-4 ดาว ไม่สามารถรองรับค่าคอมมิชั่นนั้นได้ ยิ่งเป็นช่วงที่หลังผ่านวิกฤติโรคระบาดที่หลายโรงแรมขนาดเล็กมีการใช้เงินทุนหมุนเวียนหรือเงินทุนสำรองแทบจะหมดหน้าตัก
นั่นจึงทำให้ Robinhood ขยายธุรกิจก้าวเข้าสู่ Robinhood Travel ภายใต้แนวคิด “เรื่องกินเรื่องเที่ยว เรื่องเดียวกัน” รองรับการท่องเที่ยวหลังส่งสัญญาณฟื้นตัว ซึ่งคุณธนา เธียรอัจฉริยะ ประธานกรรมการ บริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด หรือ “พี่โจ้” ชี้ว่า Robinhood Food ได้รับการตอบรับอย่างดีจนสามารถก้าวขึ้นอันดับ 2 ในแพลตฟอร์มผู้ให้บริการ Food Delivery ที่ได้รับความนิยมจากผู้ใช้งานในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล
โดยในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมาพบว่า อัตราการจองห้องพักโรงแรมในประเทศไทยกลับมาสู่ระดับ 75% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดสถานการณ์โรคระบาด สะท้อนให้เห็นว่าคนไทยโหยหาและคิดถึงการท่องเที่ยว สอดรับกับฐานข้อมูลของ Robinhood Food ที่ลูกค้าส่วนใหญ่กว่า 2.8 ล้านรายที่ใช้บริการ Food Delivery ต้องการกลับมาท่องเที่ยว จึงเป็นที่มาของการพัฒนาแพลตฟอ์ม Robinhood สู่ Robinhood Travel
เน้นจุดยืนช่วยเหลือธุรกิจตัวเล็ก
ซึ่ง Robinhood Travel ไม่จำเป็นต้องดาวน์โหลดใหม่ สามารถใช้งานผ่านแอปฯ Robinhood เดิมได้ทันที ด้วยข้อดีที่ยังรูปแบยให้ธุรกิจรายเล็กสามารถเข้าร่วม โดยไม่มีค่าคอมมิชชั่น ซึ่งถือเป็น Business Model ที่ประสบความสำเร็จมาแล้วจาก Food Delivery และจะช่วยให้โรงแรมสามารถคิดแคมเปญการตลาดเพื่อสร้าง Gimmick ให้โรงแรม ไม่ว่าจะเป็นการลด แลก แจก แถมเพื่อดึงดูดให้ลูกค้าใช้บริการเพิ่มมากขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีการมองถึงการให้บริการแบบ Cross Service โดยลูกค้าที่ใช้บริการของ Robinhood Travel จะได้รับสิทธิ์สั่งอาหารแบบค่าฟรี 20 ครั้ง ช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับการให้บริการของ Robinhood นอกจากนี้การไม่เก็บค่าคอมมิชชันยังอาจช่วยให้โรงแรมเสนอบริการพิเศษ เช่น บริการอาหารฟรี บริการรับส่งฟรี เป็นต้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสบการณ์การเข้าพักโรงแรมได้เป็นอย่างดี
เรียกว่าเป็นการนำประสบการณ์จาก Food Delivery มาสู่ธุรกิจ OTA อีกสิ่งที่ดูเหมือนจะช่วยกระตุ้นตลาดการท่องเที่ยวของ Robinhood คือการสร้างคอนเท้นต์การท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เพื่อเป็นไกด์ไลน์สำหรับการท่องเที่ยวของหลายๆ คน รวมไปถึงฟีเจอร์ Playlist ที่ระบบจะค้นหารูปแบบการท่องเที่ยวที่น่าสนใจผ่านข้อมูลที่ลูกค้าใส่ไว้ เพื่อให้ได้ทริปการท่องเที่ยวที่เหมาะสมและตรงใจมากที่สุด
Robinhood Travel ประตูสู่การท่องเที่ยว
ด้าน คุณสีหนาท ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด หรือ “พี่บิ๊ก” ชี้ว่า ปัจจุบันมีผู้ประกอบการในกลุ่มธุรกิจโรงแรมระดับ 3 – 5 ดาว เข้าร่วมบนกับ Robinhood Travel แล้วกว่า 16,000 แห่ง ครอบคลุม 71 จังหวัดท่องเที่ยว ซึ่งในเฟสแรกจะเน้นบริการเฉพาะการจองที่พัก ก่อนขยายสู่บริการอื่นๆ ม่ว่าจะเป็น บริการจองทัวร์และกิจกรรม บริการเช่ารถ และบริการจองตั๋วเครื่องบิน โดนเน้นบริการด้านการท่องเที่ยวออนไลน์แบบครบวงจร
และเพื่อช่วยกระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวในวงกว้าง จึงเตรียมโปรโมชันเสริมอยู่อย่างต่อเนื่อง ประเดิมด้วยส่วนลด 50% เมื่อจองที่พัก Pool Villa จากโรงแรมชั้นนำชื่อดังที่ร่วมรายการ ตั้งแต่วันที่ 10 พฤษภาคม 2565 – 31 พฤษภาคม 2565 หรือจนกว่าสิทธิ์จะครบตามจำนวนคืนเข้าพักที่กำหนด นอกจกานี้ยังมีระบบ Call Center ที่พร้อมตอบคำถาม ให้คำปรึกษาและแก้ปัญหาตลอด 24 ชั่วโมงใน 7 วัน และการันตีด้วยว่าเป็นการให้บริการโดยพนักงานตัวจริงไม่มี AI บนมาตรฐานธนาคาร
สำหรับปีแรก Robinhood Travel ตั้งเป้าให้ผู้ประกอบการในกลุ่มธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยวมาเข้าร่วมบนแพลตฟอร์มกว่า 30,000 รายทั่วประเทศ และคาดว่าจะมีจำนวนลูกค้าผู้ใช้งานกว่า 200,000 ราย จะส่งผลให้มีทริปเกิดขึ้นจากแพลตฟอร์มกว่า 300,000 ทริป และเพราะไม่มีการเก็บค่าคอมมิชชันจะช่วยผู้ประกอบการลดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ได้กว่า 200 ล้านบาท และสร้างเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจได้กว่า 1 พันล้านบาท
เส้นทางสู่ Super App ของไทย
ทั้งนี้การพัฒนาสู่ Robinhood Travel เป็นบันไดขั้น 2 ของการก้าวสู่ Super App ของไทย โยบันไดขั้นแรกคือการก้าวสู่ธุรกิจ Food Delivery โดยขั้นแรกจะเป็นการทำธุรกิจเพื่อสังคมแบบไม่หวังผลกำไร ซึ่งเป้าหมายของบันไดขั้นแรกคือการสร้างฐานลูกค้าและข้อมูล (Data) สำหรีบบันไดขั้น 2 จะเป็นต่อยอดฐานลูกค้า รวมไปถึงการขยายสู่ตลาดใหม่ๆ เพื่อให้ลูกค้าที่ยังไม่เข้าไม่ถึงสามารถเข้ามาใช้บริการ Robinhood ได้
จากนั้นจะเริ่มเข้าสู่กระบวนการ Raise Fund ซึ่งในขั้นตอนหลังจากนี้เป็นต้นไปจะเข้าสู่การทำธุรกิจเพื่อสร้างกำไรอย่างเต็มตัว ทั้งในส่วนของ ธุรกิจบริการสั่งซื้อสินค้าจากซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านค้า (Mart Service) ในเดือนกรกฎาคม 2565 และในไตรมาสที่ 3 และ 4 ของปีนี้จะสามารถเปิดให้บริการรับ-ส่งของ (Express Service) และบริการ Ride-Hailing หรือบริการรถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ในช่วงปลายปีหรืออาจจะเป็นปีหน้า
ทั้งหมดนี้คือการวางแผนสู่การก้าวเป็น Super App ของไทย โดยคุณธนาชี้ว่า การที่ Robinhood จะเป็นยูนิคอร์นตัวใหม่ของไทยหรือไม่นั้นเป็นเป้าหมายที่อยากไปให้ถึง แต่ถ้าต้องปรับเปลี่ยนตัวตนของ Robinhood ก็คงต้องรอไปก่อน เพื่อให้ Robinhood สามารถตอบความต้องการของตลาดและผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด