จีนไม่ใช่ตลาดเดียว มารู้จักแต่ละมณฑลกัน

  • 357
  •  
  •  
  •  
  •  

 

การบุกตลาดจีนไม่ใช่ของง่ายครับ จะทำเป็นเล่นไม่ได้เลย เพราะมีเงื่อนไข และโจทย์ที่สลับซับซ้อนกว่าที่คิด หลายคนตกม้าตายกันมาเยอะแล้ว

แล้วหนึ่งในเรื่องสำคัญที่ทำให้หลายคนเผชิญกับปัญหาเมื่อนำสินค้าเข้าไปขายในจีนก็คือ แต่ละเมืองมีตลาดที่แตกต่างกันอย่างมาก เรียกง่าย ๆ ว่า หลายคนมักเข้าใจผิดว่าตลาดจีนเป็นหนึ่งเดียวกันหมด หมายความว่า สินค้าแต่ละอย่าง ขายดีในเมืองหนึ่ง ก็ไม่ได้แปลว่าย้ายไปเมืองใกล้กันจะขายดีเสมอไปนั่นเอง สาเหตุสำคัญเพราะตลาดจีนแต่ละแห่งไม่เหมือนกันเลย

ดังนั้นก่อนที่เราจะบุกตลาดจีน เราต้องรู้จักกับระดับของแต่ละเมืองในจีน รวมถึงแต่ละโซน เพื่อเพิ่มโอกาสในการบุกตลาดจีน และช่วยลดความเสี่ยงได้ด้วย

ต้องเข้าใจก่อนว่า ประเทศจีนมีพื้นที่กว้างใหญ่มหาศาลเป็นอันดับ 3 ของโลก มีประชากรมากกว่า 1,300 ล้านคน มากกว่าประเทศไทย 20 เท่า แล้วที่สำคัญคือ เป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานกว่า 4,000 ปี ถือว่าเป็นหนึ่งในแหล่งต้นทางอารยธรรมของโลก อีกทั้งแต่ละพื้นที่แม้จะผ่านกาลเวลามาแล้ว แต่ก็ยังมีความซับซ้อนหลากหลายมิติ ทั้งผู้คน สถานที่ วิถีชีวิต วัฒนธรรม ดังนั้นในแต่ละโซนจึงมีการเติบโตที่เกี่ยวข้องกับความเจริญในภาพรวมของประเทศที่แตกต่างกันไปด้วย

ซึ่งในปัจจุบัน จีนได้กลายเป็นประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของโลก แต่ละเมืองและแต่ละภูมิภาคมีการเติบโต จุดแข็ง จุดด้อย และลักษณะเฉพาะที่ไม่เหมือนกันเลย แม้ว่าเชื้อสายที่สำคัญอันดับหนึ่งคือชาวฮั่น ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มประชากรมากกว่า 92% ประชากรของจีนทั้งหมดก็ตาม

ดังนั้น ถ้าเราจะเริ่มการบุกตลาดจีน สิ่งที่เราควรทราบก่อนก็คือ ความแตกต่างของพื้นที่แต่ละโซนอย่างคร่าว ๆ อย่างน้อยที่สุดก็ช่วยให้เราประเมินโอกาสและความเสี่ยงได้ครับ

 

กรุงปักกิ่ง กับ โซนภาคเหนือ

ภาคเหนือของจีน โดยเฉพาะตั้งแต่กรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของจีนที่มีความคับคั่งมาก ไปจนถึงฮาร์บินทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และพื้นที่ติดกับประเทศมองโกลเลีย พื้นที่ทางเหนือนี้มีสภาพภูมิอากาศหนาวเย็นบ่อยครั้ง และยังเป็นแหล่งโรงงานอุตสาหกรรมการผลิตที่สำคัญ กรุงปักกิ่ง ถูกสถาปนาเป็นนครหลวงของจีนมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์หมิงเมื่อประมาณ 600 ปีก่อน เป็นแหล่งรวมความเจริญและศูนย์กลางปกครองของประเทศจีน ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของสถานที่ราชการต่าง ๆ และมีการจัดงานมหกรรมสำคัญเช่นโอลิมปิก

ปัญหาที่เกิดในช่วงหลายปีหลังคือ เรื่องสภาพภูมิอากาศและความแออัดในเมืองหลวง แม้ว่าปัจจุบันได้รับการรณรงค์ป้องกันสภาพอากาศที่เป็นมลภาวะมากก็ตาม รวมถึงยังมีแผนการที่จะขยายความเจริญไปยังเมืองใหม่ที่จะตั้งขึ้นทางใต้ของปักกิ่งด้วย เพื่อลดความแออัดในปักกิ่งลงด้วย

อย่างไรก็ตาม ด้วยสภาพอากาศในภาคเหนือของจีนค่อนข้างแปรปรวนและมีลมหนาวเย็นมาแต่ไหนแต่ไร โดยเฉพาะในหน้าหนาว อุณหภูมิจะลดต่ำลงถึงติดลบ มีหิมะตก ในแง่ของการท่องเที่ยวทำให้ในภูมิภาคนี้มีลักษณะพิเศษที่แตกต่างจากภาคอื่น ๆ คือ เมื่อถึงช่วงฤดูหนาว คนจีนที่มีรายได้ดีและมีฐานะมักส่งพ่อแม่ที่ชราแล้วให้เดินทางออกนอกประเทศเพื่อหนีสภาพอากาศ แล้วไปอยู่อาศัยในต่างประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศที่มีอุณหภูมิอบอุ่นและติดทะเลอย่างน้อย 2-4 เดือนต่อปี ไม่ว่าจะเป็น ประเทศไทย เกาะไหหลำ (ไห่หนาน) เกาะบาหลี เป็นต้น

เนื่องจากปัจจุบัน กรุงปักกิ่งถือว่าเป็นศูนย์กลางความเจริญและเป็นศูนย์รวมของการบริหารประเทศ จึงยังคงความเป็นจีนใน่แง่ของชาติที่มีความเข้มข้นสูง ดังนั้นคนต่างชาติที่เดินทางมาต้องปรับตัวพอสมควร แต่ก็ถือว่าเป็นหนึ่งมหานครสำคัญที่สุดของจีนที่มีความพยายามอย่างยิ่งที่จะพัฒนาและปกป้องสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ไว้มากที่สุดด้วย

 

เมืองเสฉวน กับ โซนภาคตะวันตก

โซนนี้จะแบ่งเป็นสองส่วนสำคัญ คือโซนตะวันตกทางเหนือ และตอนกลางค่อนไปทางตะวันตกเฉียงใต้

เมื่อขึ้นไปทางเหนือของโซนนี้ ในอดีตเมื่อ 2,000 กว่าปีที่แล้วก็คือเส้นทางสายไหม ที่พระเจ้าฮั่นอู่ตี้แห่งราชวงศ์ฮั่นได้ดำเนินโครงการเพื่อเชื่อมต่อประเทศจีนกับโลกภายนอกไปจนถึงทวีปยุโรปเอาไว้ แต่ที่อยากจะเน้นหนักคือ ทางตะวันตกตอนในและตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งมีสองหัวเมืองที่สำคัญอันดับต้น ๆ ของจีนซึ่งคนไทยเราก็คุ้นชื่อกันดี นั่นคือ นครเฉิงตู และ คุนหมิง

ด้านนครเฉิงตู เป็นหัวเมืองเอกของมณฑลเสฉวน หรือที่หลายคนรู้จักเนื่องจากในประวัติศาสตร์นี่ก็คือเมืองหลวงของอาณาจักรจ๊กก๊ก (สู่) ที่ก่อตั้งโดยเล่าปี่ในยุคสามก๊กนั่นเอง เมืองนี้จึงมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานและยังเป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวอันดับต้นๆของจีนด้วย

สภาพภูมิประเทศนั้นเต็มไปด้วยภูเขาล้อมรอบมากมาย มีแหล่งธรรมชาติ แม่น้ำตัดผ่าน สภาพภูมิอากาศค่อนข้างสบายคล้ายกับเซี่ยงไฮ้ ลักษณะการใช้ชีวิตของผู้คนฝั่งนี้จะค่อนข้างอยู่กินอย่างสบาย ๆ แม้จะเป็นเมืองใหญ่ แต่การแข่งขันก็ยังไม่รุนแรงมากเหมือนกับกรุงปักกิ่งหรือนครเซี่ยงไฮ้ เพราะที่เสฉวนยังมีลักษณะของการใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายอยู่นั่นเอง

แต่ในปัจจุบัน เฉิงตู ได้พัฒนาขึ้นจนกลายเป็นแหล่งนำเข้าและส่งออกที่สำคัญของจีน เนื่องจากเป็นเส้นทางสำคัญสำหรับยุทธศาสตร์ One Belt Road รวมถึงมีเส้นทางรถไฟเดินทางไปถึงทวีปยุโรปด้วย ที่นี่จึงเป็นเส้นทางผ่านสำหรับจีน-ยุโรปที่สำคัญ แล้วยังสามารถเดินทางลงมายังภูมิภาคอาเซียนได้ด้วย แต่ก็เป็นแหล่งที่มีภัยธรรมชาติเช่นแผ่นดินไหวอยู่บ่อยครั้ง ที่เฉิงตูยังมีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญทางประวัติศาสตร์ในยุคสามก๊กที่โดดเด่นด้วย

แล้วยังมีรายงานจากในปี 2017-2018 ที่ระบุว่า นครเสฉวนเป็นแหล่งสำคัญที่ผู้คนนิยมจับจ่ายซื้อสินค้าแบรนด์ Luxury ที่มาแรงและน่าจับตามองมากที่สุด ซึ่งบรรดาแบรนด์ชื่อดังที่เข้ามาในตลาดจีนมักทดลองทำทางการตลาดรูปแบบต่าง ๆ กับที่เสฉวนนี้ก่อนจะไปที่อื่น

 

เมืองกว่างโจว เซินเจิ้น และ โซนภาคใต้

ภาคใต้ของจีน ปัจจุบันเป็นประตูสำคัญสำหรับการติดต่อค้าขายกับประเทศในภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะประเทศไทย และคนจากมณฑลกวางตุ้งที่อยู่ทางใต้ของจีน คือกลุ่มคนที่เข้ามาเมืองไทยมากที่สุดด้วย

สำหรับเมืองกว่างโจวและเซินเจิ้น ปัจจุบันได้กลายเป็นสองเมืองสำคัญที่ผู้ประกอบการไทยไม่สามารถมองข้าม หรือจะกล่าวว่าเป็นไฟท์บังคับ ถ้าจะบุกตลาดจีนเลยก็ว่าได้

แต่เดิมที นครเซินเจิ้นขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองการผลิตสินค้าอุปโภคและบริโภคของจีนในอันดับต้น ๆ แล้วยังสามารถเดินทางติดต่อกับเกาะฮ่องกงได้ด้วย ในขณะที่กว่างโจวซึ่งอยู่ในมณฑลกวางตุ้งนั้นก็เป็นจุดศูนย์กลางในการค้าขายของจีน แต่ละปีจะมีการจัดงานมหกรรมแสดงสินค้า Canton Fair สองครั้งต่อปี ซึ่งได้รับความสนใจจากนักธุรกิจ นักลงทุน จากทั่วทุกมุมโลก

นอกจากนี้ยังมีเมืองสำคัญเช่นนครเซินเจิ้นและเมืองหางโจว ทั้งสองแห่งเป็นเมืองสำคัญด้านอุตสาหกรรม การผลิต แล้วยังเป็นที่ตั้งของบริษัท Tencent ซึ่งเวลานี้เป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงสุดของจีน ในขณะที่เมืองหางโจวเองก็เป็นที่ตั้งของเครือ Alibaba ซึ่งเป็นเบอร์ 1 ในธุรกิจ E-Commerce ของจีน

ทั้งสองเมืองนี้ยังมีความสำคัญในแง่ของการเป็นเมืองแห่งโรงงานและการผลิต สำหรับผู้ประกอบการไทยที่จะนำเข้าสินค้าจากจีน สองเมืองนี้คือช่องทางสำคัญที่จะต้องติดต่อด้วย แล้วยังมีราคาค่อนข้างถูก ซึ่งแม้ว่าในอดีตจะมีปัญหาในเรื่องคุณภาพสินค้าอยู่บ้าง จากการที่มีคำล้อเลียนว่าเป็นของก็อปจากเซินเจิ้น แต่ทุกวันนี้ทางเซินเจิ้นก็ได้พยายามที่จะยกระดับคุณภาพสินค้าให้น่าเชื่อถือยิ่งขึ้น แต่สำหรับผู้ประกอบการไทยเองก็ยังต้องระวังในการมองหาสินค้าต่าง ๆ จากที่นี่เช่นกัน

ในบรรดาเมืองต่าง ๆ คนไทยมีโอกาสไปทำธุรกิจที่สองเมืองนี้ได้สะดวกกว่าที่อื่น เนื่องจากปัจจุบันมีสถานกงสุลที่กว่างโจวเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการไทยที่ต้องการไปทำธุรกิจหรือบุกตลาดจีน

 

นครเซี่ยงไฮ้ กับ โซนภาคตะวันออก

ในภาคตะวันออกเป็นแหล่งความเจริญและการลงทุนจากต่างแดนของจีน โดยเฉพาะที่นครเซี่ยงไฮ้นับว่าเป็นเมืองสำคัญที่สุดไม่ใช่แค่ในภาคตะวันออก แต่เป็นอันดับหนึ่งประเทศจีนด้วย ปัจจุบันเป็นเมืองสำคัญในด้านเศรษฐกิจ และการเป็นแหล่งลงทุนจากต่างประเทศ

นอกจากนี้ มหานครเซี่ยงไฮ้ยังเป็นเมืองสำคัญทางด้านการลงทุนของจีน ที่ปัจจุบันมีชาวต่างชาติเข้าไปใช้ชีวิตอยู่อาศัยได้อย่างสะดวกและง่ายที่สุด มีการเปิดกว้างด้านวัฒนธรรมและความเป็นอยู่ต่าง ๆ ไปจนถึงมีบางเขตที่สามารถเปิดให้บริการใช้งานโซเชียลมีเดียสำหรับชาวต่างประเทศด้วย นครเซี่ยงไฮ้ยังเป็นเมืองใหญ่ที่มีอาณาเขตติดกับมหาสมุทร ดังนั้นจึงเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญด้านการส่งออกและนำเข้าไปจนถึงระบบ Logistics และการเชื่อมต่อกับประเทศอื่น ๆ ในภาคตะวันออกของเอเชีย โดยเฉพาะที่ญี่ปุ่น ไต้หวัน เกาหลี เป็นต้น

ดังนั้น ที่เซี่ยงไฮ้ จึงถือว่าเป็นเมืองใหญ่ที่มีค่าครองชีพสูงสุดอันดับต้น ๆ ของจีน มี GDP สูงถึง 9.1 ล้านล้านหยวน หากไม่นับปักกิ่งแล้ว ถือว่าเซี่ยงไฮ้มีส่วนสำคัญมากที่ทำให้ภูมิภาคนี้มีศักยภาพในระดับการเป็นนครหลวงจีน

สำหรับการลงทุนที่นี่จึงจำเป็นต้องพิจารณาให้รอบคอบอย่างมาก เพราะการแข่งขันสูง แล้วยังมีความเสี่ยงสูงตามไปด้วย แม้ว่าจะมีโอกาสที่ดี เพราะเมืองนี้ค่อนข้างจะมีความเป็น International ผู้คนในส่วนต่าง ๆ สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดีกว่าเมืองอื่น ๆ ของจีน และมีการพัฒนาใกล้เคียงกับฮ่องกงมาก สิ่งบ่งชี้อย่างหนึ่งคือ เซี่ยงไฮ้เป็นแหล่งที่บริษัท C.P. หรือที่ในภาษาจีนเรียกว่าเจิ้งต้า ได้เข้าไปทำการเปิดห้างสรรพสินค้าระดับหรูคือ ซุปเปอร์แบรนด์มอลล์ที่ใจกลางนครเซี่ยงไฮ้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

โดยสรุปแล้ว โซนทางตะวันออกของจีนจึงนับเป็น Headquarter ที่สำคัญทางด้านเศรษฐกิจและการลงทุนจากต่างแดน ซึ่งเวลานี้อัตราส่วนทางเศรษฐกิจของจีนกว่าร้อยละ 50 มาจากแหล่งการเข้ามาลงทุนจากต่างชาติ ทำให้เซี่ยงไฮ้เป็นเมืองที่สร้างรายได้ให้กับประเทศจีนมากที่สุด และมีบริษัทต่างชาติเข้ามาลงทุนและปักหลักอยู่มากที่สุดด้วย

โดยสรุปแล้ว เราจะเห็นว่าแต่ละพื้นที่และภูมิภาคต่าง ๆ ของจีน มีความแตกต่างกันอยู่พอสมควร ดังนั้นก่อนจะบุกตลาดจีน จึงต้องทำความเข้าใจตลาดที่เราจะเข้าไปด้วยครับ

 


  • 357
  •  
  •  
  •  
  •  
Ittichai
ผู้ก่อตั้ง บริษัท เลเวลอัพ โฮลดิ้ง จำกัด ที่ปรึกษาด้านการตลาดจีน เจ้าของเพจ Level Up Thailand, Level Up China และ เว็บไซต์ Level Up Thailand (https://www.levelupthailand.com) มีความรู้ด้านการตลาดออนไลน์ในจีน เป็นนักพูดสร้างสรรค์ และผู้เขียนหนังสือ “บุกตลาดจีนด้วยโซเชียลมีเดีย”