กระแส Cryptocurrency ร้อนแรงขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากมีการเติบโตที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่ม NFT หรือ Non – Fungible Token และ Metaverse ล่าสุดได้กำเนิดโทเคนน้องใหม่แห่งวงการ อย่าง Crown Token (คราวน์ โทเคน) หรือ CWT ของวงการ Utility Token ถือเป็นมิติใหม่ในการนำเอาจุดเด่นของทรัพย์สินทางปัญญา Intellectual Property หรือ IP ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าสำคัญของบริษัท รวมถึงภาพยนตร์และซีรีส์แอนิเมชัน มาต่อยอดทางธุรกิจให้มีความหลากหลาย
โดยการสร้างบน NFT ที่บริษัทจะพัฒนาร่วมกับพันธมิตรชั้นนำของไทยและต่างประเทศ และต่อยอดสู่การนำไปใช้จริงใน Metaverse อีกหนึ่งอภิมหาโปรเจกต์ที่บริษัทกำลังพัฒนา และจะนำไปสู่การสร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญทั้งในโลกจริงและโลกเสมือน
จุดกำเนิดของ Crown Token
กลุ่มบริษัท T&B Media Global บริษัท VUCA Digital มีความตั้งใจในการสร้าง Crown Token ให้เป็น Token ระดับโลกที่จะเข้ามาช่วยจุดประกายให้กับ IP (Intellectual Property) หรือ ทรัพย์สินทางปัญญา โดยจะช่วยเพิ่มมูลค่าและต่อยอดให้กับผลงานของศิลปินและผู้ผลิตคอนเทนต์ระดับโลก ที่มี Partner จากค่ายหนังยักษ์ใหญ่ระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น Sony Picture, Warner Bro., Netflix
และพันธมิตรของประเทศไทยเองก็มี อาทิ BBTV New Media ของช่อง 7 เซิร์ชเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ ของ ถกลเกียรติ วีรวรรณ ค่ายเพลงโลมาบิน ของ ติ๊ก ชิโร่ ซึ่งเป็นคนหนึ่งที่นำทรัพย์สินทางปัญญามาแปรเปลี่ยนเป็นรายได้ เพราะขายงานเพลง “รักไม่ยอมเปลี่ยนแปลง” ผ่าน NFT ได้ถึง 13 ล้านบาท และยังมีพันธมิตรอื่นๆ 11 ราย เช่น มหาวิทยาลัยรังสิต และบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ MQDC นอกจากนี้ยังมี ZIPMEX , The Last Idol , Lomabin , หัวเว่ย เทคโนโลยี , INFOFED และ Cozy Game
โดยมี VUCA Digital ผู้เป็นที่ปรึกษาและให้คำแนะนำด้านการพัฒนาธุรกิจภายใต้ระบบ Blockchain และร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำทั้งไทยและต่างประเทศ โดยดึง Tree Roots Entertainment Group (TREG) ผู้ให้บริการดิจิทัลแพลตฟอร์มและนวัตกรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งเป็นผู้พัฒนาแพลตฟอร์ม SMO ที่จะเป็นศูนย์กลางทั้งในด้านการสร้าง community การสร้าง engagement ของ creators ศิลปิน และกลุ่มแฟน จะเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่สร้างอีโคซิสเท็มที่แข็งแกร่งให้กับคราวน์โทเคนอีกด้วย
จุดเด่นของ Crown Token
Crown Token หรือ CWT มีความโดดเด่นทั้งในแง่ของผลประโยชน์ และการพัฒนาอีโคซิสเท็ม อย่างครบวงจร เพื่อรองรับการใช้งานอย่างหลากหลาย รวมถึงการพัฒนาร่วมกับพันธมิตรและบริษัทในเครือ โดยบริษัท VUCA Digital ได้จับมือกับบริษัท Pellar Technology ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน blockchain technology และมีประสบการณ์และความสำเร็จจากโปรเจกต์ NFT ระดับสากล มาร่วมสร้าง NFT Platform ADOT ที่จะเปิดให้บริการในเร็ว ๆ นี้ โดย ADOT ได้ร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำทั้งในประเทศและระดับสากล ซึ่งจะเป็นการช่วยพัฒนาต่อยอด IP ของบริษัทไปสู่ตลาด NFT และเชื่อมโยงไปถึง Metaverse ซึ่งเป็นหลักไมล์สำคัญของบริษัทในอนาคตอีกด้วย
ทั้งนี้ IP ยังสามารถต่อยอดไปสู่ธุรกิจอื่นได้อีกมากมายเช่น เกม การ์ตูน Licensing & Merchandising นิยาย และสวนสนุกธีมพาร์ค ซึ่งมีมูลค่าตลาดโลกโดยรวมกว่า USD 600 billion สำหรับ IP จากแอนิเมชันรวมถึงแพลตฟอร์มไลฟ์สตรีมมิง SMO จะสร้างผลประโยชน์ในรูปแบบต่างๆ แก่ผู้ถือโทเคน ผ่านระบบ Staking การได้รับสิทธิพิเศษต่างๆ การได้รับ NFT airdrop การได้รับ SMO points เพื่อสิทธิพิเศษบนแพลตฟอร์ม การเข้าไปมีส่วนร่วมกับแอนิเมชัน
โปรเจกต์แอนิเมชัน บน NFT
สำหรับโปรเจกต์แอนิเมชันนั้น T&B Media Global ได้ทำงานร่วมกับผู้กำกับและทีมงานระดับโลก อาทิ Mr. Andrew Gordon หนึ่งใน Executive Producer ของโปรเจกต์ยักษ์ใหญ่ของ T&B และได้มีการวางแผนพัฒนา NFT ร่วมกันในขณะนี้ โดย Mr. Gordon มีผลงานเป็นที่รู้จักจากแอนิเมชันชื่อดังอย่าง
• Monsters
• Inc.
• Ratatouille
• Finding Nemo
• Toy Story
นอกจากนี้ T&B Media Global ยังมีพาร์ตเนอร์ในจีน เพื่อนำแอนิเมชันที่คนไทยร่วมเป็นเจ้าของบุกตลาดจีน ซึ่งมี Box office ใหญ่ติดอันดับโลก อย่าง Mr. Kenji Xiao อดีต CEO ของ ThreeZero และ Chief Planner/bureau member of Wu Zhen International Project of Future Visual Arts ผู้มีประสบการณ์ในวงการแอนิเมชันของจีน เป็นหนึ่งในทีม Executive Producer ของโปรเจกต์ที่เน้นบุกตลาดจีน
โดย T&B Media Global เตรียมเปิดตัวแอนิเมชันสุดอลังการสู่ตลาดโลกเร็วๆ นี้ ในระหว่างปี 2022-2025 เช่น
• Legends of the Two Heroes
• FriendZSpace, Looking for Gods
• New Legend
• The Forestias และ
• Blue City
ซึ่งนับว่าเป็นอภิมหาโปรเจกต์ที่ T&B ทุ่มทุนสร้างเพื่อตอบโจทย์โลกแอนิเมชันที่นับวันยิ่งก้าวล้ำและมีกลุ่มแฟนที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ รวมถึงสิทธิในการโหวตกำหนดเรื่องราว การสร้างอวตารของตัวเองให้โลดแล่นอยู่บนแอนิเมชันระดับโลก การโฆษณาประชาสัมพันธ์ นอกจากนี้ ผู้ถือจะได้รับสิทธิในการเข้าร่วมประมูล NFT คอลเลกชั่นพิเศษ และสิทธิพิเศษในการเข้าถึง Translucia Metaverse อีกด้วย
สำหรับ CROWN Token มีจำนวนโทเคนจำกัดทั้งหมด 140 ล้านโทเคน ได้เปิดให้ซื้อขายในช่วงต้นเดือนมีนาคม 2565 บน Zipmex แพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัลอันดับต้นของไทย นอกจากนี้เรายังได้เตรียมความพร้อมเพื่อเปิดให้ซื้อขาย CWT ในภูมิภาคเอเชียอีกด้วย
สิทธิประโยชน์ของ CWT Token
สำหรับผู้ที่ถือครองเหรียญ CWT Token จะได้รับสิทธิประโยชน์ดังนี้
• Staking for rewards คือ นำ CWT มา Stake เพื่อสามารถรับสิทธิ์ในการเข้าร่วมกิจกรรมเพื่อลุ้นรับ NFT Airdrop รวมถึงการเข้าถึงกิจกรรมพิเศษจากเครือของ CROWN ได้
• Become director คือ ผู้ถือ CWT สามารถใช้ออกเสียงในการเลือกคอนเซ็ปต์ของตัวละคร และร่วมกำหนดทิศทางภาพยนตร์และซีรีส์ รวมไปถึงทิศทางของแพลตฟอร์มในเครือของ CROWN ได้
• Become in-film character คือ ผู้ถือ CWT มีสิทธิ์ลุ้นในการนำ NFTs ของตนเองซึ่งมาเป็นตัวละครในภาพยนตร์หรือซีรีย์ภายในเครือ รวมไปถึงสื่อโฆษณา ที่จะมีตามมาในอนาคตร่วมกับ CROWN ได้
• Exclusive Event Participation คือ สิทธิ์ในการเข้าถึงกิจกรรมพิเศษ
• Drifting into Metaverse คือ ใช้ NFTs ที่มีในการเข้าใช้ Translucia Metaverse และสิทธิประโยชน์พิเศษ
อย่างไรก็ตาม โลกของ Cryptocurrency รวมถึง NFT และ Metaverse ดูเหมือนจะอยู่ใกล้ตัวเราเข้ามาเรื่อย ๆ แม้จะไม่ใช่สกุลเงินหลัก แต่หลายคนต่างก็ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก แต่ทั้งนี้ก็ต้องศึกษาก่อนที่จะเข้าไปลงทุนเพื่อไม่ให้เงินในกระเป๋าของเรานั้นหายไปนั่นเอง