บริษัท โกลบอล คอนซูเมอร์ จำกัด(มหาชน) หรือ GLOCON ผู้ได้รับสิทธิ์ดำเนินธุรกิจร้านอาหาร A&W ในประเทศไทย ตัดสินใจยุติธุรกิจร้านดังกล่าว หลังจากเผชิญภาวะขาดทุนมาต่อเนื่อง และได้รับผลกระทบมากขึ้นจากการระบาดของโควิด-19
การตัดสินใจครั้งนี้ เกิดขึ้นในการประชุมการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2565 ของ GLOCON โดยให้เหตุผลว่า จากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ที่ยาวนานกว่า 2 ปีที่ผ่านมา ส่งผลกระทบโดยตรงกับธุรกิจร้านอาหาร เนื่องจากการปิดห้างสรรพสินค้า บวกกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้บริษัทมีผลดำเนินงานขาดทุนมาโดยตลอด ซึ่งทางฝ่ายบริหารเห็นว่า ไม่สามารถรับผลขาดทุนได้อีกต่อไป จึงเสนอคณะกรรมการบริษัทขออนุมัติยุติกิจการ A&W และร้านอาหาร Kitchen Plus ที่บริษัทบริหารเองเหลืออยู่ 2 สาขาตั้งแต่เดือนมกราคม 2565 ด้วยเหตุผลจากการขาดทุนเช่นกัน
สำหรับผลประกอบการในปี 2564 ของ GLOCON มีรายได้รวม 1,862 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23% จากปีก่อน แต่เมื่อมารายได้จากกลุ่มธุรกิจร้านอาหาร ประกอบด้วย ร้าน A&W ที่ตอนนี้มีอยู่ 24 สาขา และ Kitchen Plus 2 สาขา พบว่า มีรายได้อยู่ที่ 86 ล้านบาท ลดลง 27% โดยร้าน A&W ขาดทุนไปถึง 70 ล้านบาท
A&W เป็นร้านอาหารเชนดังจากสหรัฐอเมริกาที่มีอายุกว่า 100 ปี โปรดักท์ขึ้นชื่อก็คือ รูทเบียร์ และวอฟเฟิล ปัจจุบันมีสาขากว่า 1,000 สาขาทั่วโลก ส่วนการเข้ามาดำเนินกิจการในไทยได้มีการเปลี่ยนมือผู้ได้รับสิทธิ์หลายครั้ง โดยในปี 2559 ได้มาอยู่ในมือของ ‘สุรพงษ์ เตรียมชาญชัย’ ก่อนจะถูกเปลี่ยนมือมาอยู่ภายใต้การบริหารของ GLOCON ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการขยับและปรับกลยุทธ์ A&W ในไทยหลายครั้งในการสร้างโมเดลธุรกิจใหม่ ๆ
เช่น การเพิ่มเมนูที่เป็นที่ชื่นชอนของคนไทย, การเปิดในรูปแบบคอร์นเนอร์ตามศูนย์การค้า , A&W Express ย่อขนาดร้านเข้าไปเปิดให้บริการอยู่ภายในร้าน 7-Eleven, A&W Food Truck หมุนเวียนไปตั้งตามสถานที่ต่าง ๆ เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างวัยมิลเลนเนียลได้ดีขึ้น รวมถึงได้เริ่มทดลองเข้าสู่ตลาดอาหารพร้อมทาน หรือ Ready to eat เพื่อให้เข้าถึงลูกค้าได้ง่ายและมากขึ้น รวมถึงเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ ด้วยการเปิดตัว Waffle All Day วางขายในร้าน 7-Eleven
ที่มา :https://www.set.or.th/set/pdfnews.do?newsId=16460853298961&sequence=2022027243