5 เหตุผลทำไม Virtual Reality ‘ของเล่นเก่า’ ที่ถูกพลิกเกมใหม่ จึงน่าสนใจสำหรับ Brand ในยุค 5G – โควิดครองเมือง

  • 390
  •  
  •  
  •  
  •  

เมื่อผู้คนเริ่มคุ้นชินกับพฤติกรรมออนไลน์ต่างๆ  ไม่ว่าจะเป็น ช้อปปิ้งออนไลน์ บริการเดลิเวอร์รี่ หรือแม้แต่ดูหนังฟังเพลง การสร้างประสบการณ์ใหม่ที่ต่างออกไปจากนี้ จึงเป็นความท้าทายอย่างยิ่งต่อคนทำธุรกิจ ที่จะสร้างความแตกต่างและสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับลูกค้าและผู้บริโภค ดังนั้น เทคโนโลยีจึงก้าวเข้ามาเป็นคำตอบเป็น solutions ที่จะมาตอบโจทย์การสร้างประสบการณ์ใหม่ให้คอนซูเมอร์ประทับใจ

 

แต่ถ้าถามว่าเทคโนโลยีอะไรที่ตอนนี้ถูกพูดถึงกันมากเหลือเกินเมื่อเร็วๆ นี้ นั่นก็คือ Virtual Reality (VR) โดยมีห้างร้านมากมายต่างไปร่วมเปิดตัวกันที่ #ห้างทิพย์ V-AVENUE powered by AIS 5G ไม่ว่าจะเป็น “บาร์บีคิวพลาซ่า” โดยบริษัทฟู้ดแพชชั่นฯ  RS Mall  CMG โดยเซ็นทรัลกรุ๊ป  Emporium  Asian Lifestyle ฯลฯ เป็นต้น ซึ่งถือว่ากำลังคึกคักและเป็นที่จับตาทั้งแวดวงไอทีและธุรกิจอย่างมากทีเดียว

 

 

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Virtual Reality เป็นจริงได้ในยุคนี้

แต่เดี๋ยวก่อน อาจจะมีคนเถียงว่า เอ๊… VR มันเป็นเรื่องเก่า มีมานานแล้ว จะว้าวได้อย่างไร ก็ต้องตอบว่าจริงทีเดียว แต่การใช้เทคโนโลยี VR ในตอนนี้ อาจเรียกว่าเป็นการพลิกเกมใหม่ของบรรดาแบรนด์ต่างๆ ที่ต้องการสร้างประสบการณ์ในการเข้าถึงผู้บริโภคมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เทคโนโลยี Virtual Reality ถูกนำมาหยิบใช้ช่วงนี้ได้นั้น ประกอบไปด้วยเรื่องหลักๆ ดังนี้

  1. เป็นเพราะความพร้อมของความเร็วแรงของอินเตอร์เน็ตในปัจจุบัน โดยเฉพาะความแรงในระดับ 5G ที่ดีมากขึ้นกว่าเดิม ทำให้ผู้บริโภคเข้าถึงเทคโนโลยีตัวนี้และใช้งานมันได้ง่ายมากขึ้น ลื่นไหลมากขึ้น ประสบการณ์การใช้งานที่ดีตรงนี้จึงทำให้ผู้บริโภคและแบรนด์รู้สึกถึงความพร้อมที่จะใช้งานได้ดีมากขึ้นกว่าเดิม
  2. เทคโนโลยีมีราคาถูกลงและพัฒนาดีมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เหล่าเดเวลลอปเปอร์สามารถสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ในโลกเสมือนจริงได้ดีขึ้น ง่ายขึ้น และที่สำคัญคือมีความสวยงามเสมือนจริงมากขึ้น ดังนั้น หากเทียบกับเมื่อช่วงก่อนหน้านี้ที่ VR เริ่มเป็นที่สนใจ ก็ต้องบอกว่าไม่ได้ดูดีและใช้งานง่ายเช่นนี้ แต่เมื่อทุกอย่างลงตัวเอื้อให้เกิดการสร้างสรรค์ที่ง่ายขึ้น ย่อมถึงคราวที่แบรนด์จะหยิบมาเป็นกลยุทธ์สำคัญในตอนนี้
  3. ความพร้อมของผู้บริโภคในปัจจุบัน แม้ว่าเราจะรู้ดีว่าผู้คนค่อยๆ โอบรับดิจิทัลเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตแล้ว แต่ต้องยอมรับว่าตั้งแต่มีโควิด-19 เข้ามา ผู้คนเข้าสู่โลกดิจิทัลได้เร็วขึ้น เป็นเสมือนตัวเร่งปฏิกิริยาให้เราต้องเรียนรู้มันในเวลาอันสั้น ดังนั้น ในช่วงเวลา 1-2 ปีที่ผ่านมา ต้องบอกว่าผู้บริโภคมีความพร้อมด้านเทคโนโลยีมากกว่าช่วงเวลาไหนๆ ในประวัติศาสตร์มาก่อน

 

ส่วนจะมีเหตุผลเบื้องหลังอะไรสำหรับแบรนด์ที่ก้าวมาในจุดนี้บ้างนั้น เราลองมาวิเคราะห์และมองไปพร้อมๆ กัน

 

  1. Move ก่อน Win ก่อน Wow ก่อน

เป็นเรื่องปกติของโลกการทำธุรกิจ ที่ต่างมองว่า หากเริ่มก่อน ทำก่อน ลุยก่อน ได้เปรียบก่อนแน่นอน ดังนั้น การที่แบรนด์ต่างๆ ขยับเข้าสู่โลกเสมือนจริงที่วันนี้ทำได้ดีขึ้นกว่าเดิมใช้งานได้พร้อมทีเดียว ก็เพราะต้องการที่จะเป็นหนึ่งใน First Mover เป็นหนึ่งในกลุ่มแรกๆ ที่เข้ามาเปลี่ยนโลกการทำธุรกิจ Digital Transformation ของประเทศอย่างเต็มตัว จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่วันนี้เมื่อมีการรังสรรค์เมืองเสมือจริงขึ้นมา บนความพร้อมของผู้บริโภคเองที่คุ้นเคยกับการ adopt เอาเทคโนโลยีมาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันแล้ว หลายๆ แบรนด์จึงกล้าที่จะก้าวเข้ามาแล้วนำเสนอสินค้าและบริการของตัวเองบนแพล็ตฟอร์มใหม่นี้

 

  1. เข้าถึงผู้บริโภคในช่องทางใหม่บนความประทับใจที่เหนือกว่า

มากไปกว่าช่องทางธรรมชาติ (ไม่ใช่ล่ะ) มากไปกวาช่องทางการเข้าถึงผู้บริโภคแบบปกติ คือไม่ว่าจะเป็นทั้งช่องทางออฟไลน์ หรือช่องทางออนไลน์ อาทิ บนเว็บไซต์ของตัวเอง บนแพล็ตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ หรือแม้แต่บนโซเชียลมีเดียต่างๆ นี่นับเป็นอีกหนึ่งช่องทางใหม่ที่จะเข้าถึงผู้บริโภคได้ และอย่างที่เกริ่นไปบ้างแล้วว่า ช่องทางออนไลน์นั้นไม่ได้สร้างความแปลกใหม่หรือเกิดความว้าว! ต่อจิตใจผู้บริโภคอีกต่อไปแล้ว การสั่งของออนไลน์หรือสั่งอาหารแบบเดลิเวอรี่ เริ่มจะนอร์มปกติที่คนใช้กัน ดังนั้น การมาอยู่ยังแพล็ตฟอร์มใหม่ที่สามารถสร้างประสบการณ์ความประทับใจให้กับลูกค้าได้มากกว่า ยกระดับการช้อปปิ้งที่ดีกว่า รวมไปถึงสร้างปฏิสัมพันธ์ที่เหนือกว่าได้ในอนาคตอีกหลายรูปแบบมากมาย จะมีแบรนด์ไหนปฏิเสธได้ล่ะ

 

  1. สร้าง Brand Image โชว์ศักยภาพความเป็นแบรนด์ล้ำสมัยได้ใจคนรุ่นใหม่

อีกหนึ่งเหตุผลที่ปฏิเสธไม่ได้ก็คือ แบรนด์และทุกองค์กรย่อมต้องการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของตัวเอง โดยเฉพาะการทำให้ผู้บริโภคเห็นว่าเป็นแบรนด์ที่ล้ำสมัย ก้าวหน้าและไม่หยุดพัฒนาตัวเอง และที่สำคัญเลยคือ จะสามารถก้าวเข้าไปอยู่ในใจของผู้บริโภคยุคใหม่ได้ทั้งในปัจจุบันและอนาคต โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้า Generation Alpha ซึ่งเติบโตมาพร้อมกับชีวิตแบบ digital life มีมือถือและไอแพดติดมือมาแต่เกิด และผ่านชีวิตการเรียนแบบออนไลน์ อย่างที่ไม่เคยมีคนรุ่นไหนผ่านประสบการณ์เช่นนี้มาก่อน ดังนั้น ภาพของแบรนด์รุ่นแรกเป็นแบรนด์ที่ล้ำสมัยก้าวสู่โลก Virtual อย่างเต็มรูปแบบอย่างนี้ ย่อมเข้าไปอยู่ในใจของพวกเขาได้อย่างง่ายดาย

 

  1. ปรับตัวรองรับการเปลี่ยนแปลงที่คาดไม่ถึงในอนาคต

โควิด-19 สร้างผลกระทบความเสียหายไว้มากมายทั้งต่อชีวิตและธุรกิจ แต่ก็ต้องยอมรับเช่นกันว่าโควิด ก็ช่วยผลักดันให้ทุกคนเข้าสู่วิถีชีวิตดิจิทัลเร็วขึ้น อย่างไรก็ตาม บทเรียนจากโควิดทำให้เราเรียนรู้ถึงความไม่แน่นอนของทุกสิ่ง จู่ๆ ร้านอาหารที่เคยนั่งได้ก็ทำไม่ได้ ห้างร้านที่เคยขายของจับจ่ายซื้อสินค้าก็ไปไม่ได้ มากไปกว่านั้นทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนบางธุรกิจแทบจะปรับตัวหันหัวเรือกันแทบไม่ทัน ดังนั้น ด้วยความตื่นตัวจากการบาดเจ็บในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา เกิดเป็นบทเรียนที่สำคัญให้แบรนด์และธุรกิจต้องคอยเสาะแสวงหาหนทางใหม่ๆ เอาไว้ เพื่อเตรียมตัวรองรับสถานการณ์ที่คาดไม่ถึงอยู่ตลอดเวลา และเมื่อแพล็ตฟอร์มใหม่นี้เกิดขึ้นแบรนด์จึงเล็งเห็นว่าจะเป็นโอกาสดีที่จะได้สร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับผู้บริโภค รวมถึงเป็นแผนการทางธุรกิจในวิธีใหม่ เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้ในอนาคตและตลอดเวลา

 

  1. ก้าวสู่โลกแห่งอนาคตที่สมบูรณ์ และ Metaverse ที่กำลังมาแรง

จากความพร้อมและปัจจัยต่างๆ ที่กล่าวถึงไปแล้วนั้น ไม่ว่าจะเป็นความเร็วแรงของอินเตอร์เน็ต เทคโนโลยีที่เข้าถึงง่าย และพฤติกรรมผู้บริโภคที่ชำนาญขึ้น ดังนั้น ด้วยอีโคซิสเทมที่สมบูรณ์พร้อม สิ่งนี้มันจึงเริ่มขึ้นแล้วกับการก้าวเข้าสู่โลกออนไลน์ Digital World แบบเต็มรูปแบบ และเร็วๆ นี้กับกระแสที่น่าจับตาของ Metaverse ที่แม้แต่ Mark Zuckerberg ผู้ก่อตั้ง Facebook ก็พูดถึงเรื่องนี้และเกิดเป็นประเด็นที่ฮือฮาทั้งในวงการไอทีและธุรกิจ (อ่านบทความเพิ่มเติม) ดังนั้น โลกในอนาคตที่เราเคยเห็นแต่ในภาพยนตร์หรือการ์ตูนนั้น วันนี้เราสามารถเข้าถึงมันได้แล้ว ไม่ว่าจะไป จะเดินเล่น ช้อปปิ้ง หรือจับจ่ายซื้อขายได้กันได้จริงๆ ดังนั้น สิ่งเหล่านี้จะสร้างความสมบูรณ์และแข็งแกร่งทางธุรกิจให้แบรนด์และองค์กรเติบโตต่อไปในอนาคต

 

อย่างไรก็ตาม เราก็หวังว่าโลกเสมือนจริง หรือเมืองเสมือนจริงเช่น V-AVENUE นี้จะไม่ได้มีแค่แห่งเดียว ในอนาคตประเทศไทยจะต้องมีผู้พัฒนาเพิ่มขึ้นอีกเรื่อยๆ ทำให้เราได้ไป explore สิ่งต่างๆ มากมายหลากหลายรูปแบบ เพราะฉะนั้นโลกอนาคตวันนี้ไม่ใช่อนาคตอีกต่อไป แต่เป็นโลกวันนี้โลกที่จะอยู่คู่ขนานกับเรา และที่สำคัญคือ จะชาเลนจ์ให้นักการตลาด นักโฆษณา และแบรนด์สินค้าต่างๆ เข้ามาสร้างสรรค์สิ่งใหม่อยู่ตลอดเวลา เมื่อความสนุกกำลังจะเริ่มขึ้น แล้วคุณล่ะพร้อมหรือยัง.


  • 390
  •  
  •  
  •  
  •  
pigabyte
การเรียนรู้ไม่มีวันจบสิ้น มาเรียนรู้และสนุกไปกับบทความ จาก MarketingOops! กันนะคะ แล้วเราจะได้ค้นพบว่าโลกของ Marketing นั้น So Sexy and Cool!