ชายผู้ที่มาเปลี่ยนโลกโปรแกรมคอมพิวเตอร์อย่าง บิล เกตส์ (Bill Gates) ผู้ก่อตั้งบริษัท ไมโครซอฟท์ และมหาเศรษฐีเบอร์ต้นๆ ของโลกมานานเคียงคู่กับเพื่อนสนิทอย่าง วอร์เรน บัฟเฟตต์ (Warren Buffett) เซียนด้านการลงทุนของโลก ซึ่งนิสัยส่วนตัวที่คล้ายๆ กันของ 2 เพื่อนรักนี้ก็คือ การอ่าน
และอย่างที่รู้ๆ กันว่า บิล เกตส์ และมหาเศรษฐีคนอื่นๆ คลั่งไคล้ในการอ่านหนังสือมากแค่ไหน ซึ่ง เกตส์ เคยพูดกับนิตยสาร TIME ว่าการอ่านคือ Top Secret อย่างหนึ่งของเหล่า CEO ที่ขึ้นแท่นเป็นบุคคลที่ร่ำรวยจนน่าจับตา
เกตส์ เคยพูดเอาไว้ว่า “Reading is my favorite way to indulge my curiosity.” (การอ่านเป็นวิธีที่ชอบมากที่สุดในการปลดปล่อยความอยากรู้อยากเห็นของตัวเอง)
ตามข้อมูลของ Pew Research 2020 ระบุว่า ชาวอเมริกันเป็นกลุ่มที่อ่านหนังสือมากเป็น Top 10 ของโลก ประมาณ 4 เล่มต่อปี แต่สำหรับ เกตส์ รู้หรือไม่ว่าเขาอ่านกี่เล่ม? คำตอบก็คือ เกตส์ อ่านหนังสือประมาณ 50 เล่มต่อปี หรือประมาณอาทิตย์ละ 1 เล่ม!
แต่ถึงอย่างนั้น แม้ว่าการอ่านสำหรับ เกตส์ จะเปรียบเสมือนเป็นการ explore ประเด็นใหม่ๆ เรื่องราวใหม่ๆ และไขความสงสัยที่เคยอยากรู้อยากเห็นได้ แต่ก็ไม่ใช่คำตอบทั้งหมดของเส้นทางความสำเร็จของ เกตส์ เพราะมัน take action มากกว่านั้น และนี่คือสิ่งที่เราอยากมาสรุปให้อ่านกัน
ในเมื่อ บิล เกตส์ มองว่าอ่านหนังสืออย่างเดียวไม่ได้ช่วยให้ขั้นบันไดความสำเร็จในธุรกิจมันใกล้ความจริง แล้ววิธีของ เกตส์เป็นแบบไหน?
Business Driven Dream เปิดมุมมองของ เกตส์ เกี่ยวกับวิธีที่จะช่วยให้นักธุรกิจประสบความสำเร็จได้ ก็คือ การลงมือปฏิบัติ (ด้วยทฤษฎีหรือความคิดที่มาจากหนังสือ) ฉลาดในการอ่านไม่ใช่แค่การเลือกหนังสือ เพราะทุกเล่มทุกสไตล์การเขียนมีคุณค่าซ่อนอยู่เสมอ แต่อยู่ที่คนอ่านจะรู้จักหยิบมุมคิดเล็กๆ เหล่านั้นมาใช้ในชีวิตจริงได้อย่างไร
ปรับ mindset นิดหน่อย แล้วปรับใช้ให้เป็นคือ วิธีของคนที่ประสบความสำเร็จเขาทำกัน แค่ 5 ขั้นตอนง่ายๆ
-
วางหนังสือลง (ถ้าเจอมุมคิด หรือทฤษฎีน่าลอง)
-
ออกไปข้างนอก ออกไปใช้ชีวิต ไปใช้ความรู้
-
ลงมือทำ (getting your hands dirty)
-
ต้องจริงจังกับการทำงาน หรือการทดสอบนั้นๆ
-
ผลลัพธ์คือ เกิดการเรียนรู้ที่แท้จริง
สรุปคือ การอ่าน เป็นการกระตุ้นความคิด เชิงทดสอบทฤษฎี และการหาไอเดียใหม่ๆ แต่ความสำเร็จในธุรกิจจะต้องอาศัยหลักคิดจากประสบการณ์ตรงด้วย ไม่ว่าจะความล้มเหลว หรือความสำเร็จเล็กๆ น้อยๆ เพราะมันบ่มเพาะ specific skills บางอย่างให้กับนักธุรกิจได้ และสะสมความอดทนในยามที่ธุรกิจเผชิญปัญหาได้ด้วย
ที่มา: inc, Business Driven Dream