ต้องยอมรับว่า CBEC หรือ Cross Border E-Commerce ในตลาดประเทศจีนมีการเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่E-Commerceานมา ซึ่งถ้าย้อนกลับไปจีนเองนับเป็นประเทศสำคัญในการส่งออกสินค้าต่าง ๆ ไปทั่วโลกผ่านหลายช่องทาง เช่น Dropshipping, Amazon FBA ฯลฯ แต่ปัจจุบันเทรนด์ใหม่กำลังมาแรงแบบแซงทางโค้ง!!!
จากอดีตสู่ปัจจุบันการค้าของจีน
ย้อนกลับไปปี 2014 ประเทศจีนมีการส่งออกสินค้าด้วยมูลค่ารวมกว่า 2.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่พวกเขาเองมีการนำเข้าสินค้ารวมมูลค่า 1.96 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากสิ่งที่ระบุมาประเทศจีนจึงถูกตั้งชื่ออย่างน่ารักว่า “โรงงานของโลก” กระทั่งเมื่อกลับมาสู่ยุคปัจจุบันปี 2021 เวลานี้มีการส่งออกจากประเทศจีนไปแล้ว 221 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนการนำเข้าอยู่มากกว่า 183 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ซึ่งส่วนหนึ่งของการนำเข้าเป็นรูปแบบ CBEC ที่มีมูลค่าสูงถึง 88.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อปี 2019 ซึ่งถือว่าเพิ่มขึ้น 19% หากเทียบกับปีก่อนหน้า
รูปแบบธุรกิจ CBEC ในประเทศจีน
ในประเทศจีน CBEC จะมีความแตกต่างแบบเฉพาตัวมาก โดยบรรดากลุ่มธุรกิจระหว่างประเทศสามารถขายสินค้าของตนเองให้กับลูกค้าชาวจีนได้ในอัตราภาษีพิเศษ พร้อมทั้งไม่จำเป็นต้องมีใบอนุญาตในการดำเนินธุรกิจภายในประเทศพวกเขา ด้วยเหตุนี้ CBEC ส่วนใหญ่จึงดำเนินการผ่านกลุ่มบริษัทจากต่างประเทศนำโดย ญี่ปุ่น, เกาหลี และสหรัฐฯ
ทั้งนี้ทางกระทรวงการคลังของประเทศจีนยังออกกฎหมายที่เอื้อประโยชน์ต่อวิธี CBEC มากขึ้นมาตั้งแต่เดือนมกราคม ปี 2019 โดยข้อที่น่าสนใจบางเรื่องคือ
- จำนวนการทำธุรกรรมต่อครั้งเพิ่มจาก 2,000 หยวน เป็น 5,000 หยวน
- จำนวนการซื้อแบบข้ามพรมแดนต่อปีเพิ่มขึ้นจาก 20,000 หยวน เป็น 26,000 หยวน
- มีการเพิ่มหมวดหมู่สินค้าใหม่ 63 รายการ รวมถึงบรรดาสปาร์กลิง ไวน์, เบียร์, กลุ่มผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพ และอุปกรณ์ออกกำลังกาย
- บรรดาเมืองที่ได้ภาษีอัตราพิเศษเพิ่มขึ้นจาก 15 เป็น 37 เมือง รวมถึงปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้
- กฎระเบียบใหม่บางประการทำให้กลุ่ม Daigou ซึ่งถือเป็นวิธีนำเข้าสินค้าแบบผิดกฎหมายทำงานได้ยากขึ้น
กลุ่มผลิตภัณฑ์ยอดฮิตในระบบ CBEC
บรรดากลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ร่ำรวยขึ้นมาในประเทศจีนกำลังตามหาสินค้าฟุ่มเฟือยที่มีความพิเศษเฉพาะตัว มีคุณภาพสูง นั่นเท่ากับว่าสินค้าดังกล่าวต้องถูกนำเข้าเพื่อเพิ่มมูลค่าของสินค้าให้ดูหรูหรามากกว่าเดิม ทั้งนี้เมื่อมองถึงภาพรวมแล้วกลุ่มสินค้าที่ได้รับความนิยมและเป็นที่ต้องการของชาวจีนผ่านระบบ CBEC คือ
- เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์เสริมความงาม
- ผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก
- อาหารและเครื่องดื่ม
- สินค้าแฟชั่นและเครื่องประดับแบรนด์หรู
ปัจจุบันการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตกลายเป็นเรื่องง่าย ดังนั้นคนจีนจำนวนมากจึงนิยมซื้อของออนไลน์ในกลุ่มสินค้าที่กล่าวไปข้างต้น แต่สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างคือ กลุ่มลูกค้าชาวจีนจะตัดสินใจซื้อจากรีวิวของคนใกล้ตัว เช่น เพื่อนร่วมงาน กับการรีวิวจากบรรดา Influencer มากกว่าการโฆษณาทั่วไป แม้กระทั่งแบรนด์ดังก็ตาม ดังนั้นเนื้อหาการโฆษณาที่ได้รับความนิยมสูงสุดจะเป็นแนวคนดังมารีวิวด้วยการสตรีมมิ่ง
ช่องทางการซื้อขายยอดนิยมในระบบ CBEC
จีนมีแพลตฟอร์มสำหรับการทำธุรกิจแบบ CBEC อยู่หลายเจ้า นำโดย Tmall Global และ Kaola รวมกันถึง 48% ซึ่งกลุ่มคนมีอายุระหว่าง 25-34 จะใช้ช่องทางเหล่านี้มากที่สุด โดยแบ่งรายละเอียดดังนี้
- Kaola
ปัจจุบันถูกซื้อโดย Alibaba มูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เน้นขายสินค้ากลุ่ม “ตะวันตก” คุณภาพสูงให้กับกลุ่มลูกค้าชาวจีนระดับกลาง
- Alibaba Group
Tmall ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของ Alibaba ถือว่าประสบความสำเร็จมาก ถึงขนาดเป็นเว็บไซต์ที่มีสถิติผู้เข้ามาเยี่ยมชมสูงอันดับ 3 ของโลก โดย Alibaba เป็นเว็บไซต์ขายส่งเบอร์ต้น ๆ ของโลก โดยให้บริการแบบ B2B จากจีนกระจายไปยังประเทศต่าง ๆ แต่ถ้าเป็นกลุ่มธุรกิจ CBEC ของ Alibaba คือ Taobao ส่วน Tmall เป็นแนวการค้าแบบ CBEC ที่นำสินค้าจากทั่วโลกส่งตรงไปยังกลุ่มเป้าหมายในประเทศจีน
- JD Worldwide
JD.com ธุรกิจด้านอิเล็กทรอนิกส์ที่ได้รับความนิยมสูงเช่นกัน โดยสินค้าที่เกี่ยวข้องกับไอที หรือความทันสมัยพวกเขายังคงเป็นลำดับต้น ๆ เสมอ
- VIPShop
VIP.com เป็นเว็บไซต์ด้านให้ส่วนลดออนไลน์ แม้นอกประเทศจีนยังไม่โด่งดัง แต่ถือเป็นกลุ่มธุรกิจค้าปลีกที่เติบโตเร็วมาก
- RED (Xiao Hong Shu)
Little Red Book มีผู้ใช้งานมากกว่า 85 ล้านคน / เดือน ส่วนใหญ่เป็นการโพสต์และแชร์รีวิวผลิตภัณฑ์ บล็อกการท่องเที่ยว และไลฟ์สไตล์อื่น ๆ ผ่านวิดีโอสั้นกับภาพถ่าย
- Pinduoduo
กำลังเป็นช่องทางยอดนิยมในการซื้อดีลแบบกลุ่ม ซึ่งขนาด Amazon ยังเข้ามาขอร่วมทำธุรกิจด้วยในการเปิดร้านค้าแบบ Pop-up
สรุปแนวคิด
จะเห็นว่าธุรกิจแบบ CBEC ในประเทศจีนตอนนี้กำลังมาแรงสุด ๆ และปฏิเสธไม่ได้ว่าพวกเขาคือประเทศใหญ่ มีประชากรเยอะ ความต้องการจึงสูงเป็นเรื่องปกติ ดังนั้นกลุ่มธุรกิจไหนที่บุกตลาดจีน หรือตั้งเป้าหมายเอาไว้ชัดเจนว่าต้องการทำตลาดในจีน ลองหาวิธีและช่องทางต่าง ๆ ผ่านระบบ CBEC นี้ จะช่วยเพิ่มโอกาสให้เป็นดังความคาดหวังนั้นได้จริง แต่เหนือสิ่งอื่นใด สินค้าของธุรกิจก็ต้องมีความแตกต่างและได้คุณภาพ ตรงตามมาตรฐานที่ชาวจีนพึงปรารถนาด้วย
เขียนโดย อิทธิชัย อรรถกระวีสุนทร
Expertise: China Marketing
อ่านบทความ Exclusive เพิ่มเติมได้ที่นี่
Copyright © MarketingOops.com