ทุกวันนี้มีสถานการณ์มากมายเกิดขึ้นทั่วโลกไม่ว่าจะเป็นการระบาดของไวรัส COVID-19, ปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง, ปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัว แม้แต่การเลือกตั้งของประเทศมหาอำนาจที่มีผลต่อการกำหนดสิ่งต่างๆ ไปทั่วโลก ปัจจัยความไม่แน่นอนเหล่านี้ยิ่งนับวันก็มากขึ้นเรื่อยๆ คำถามก็คือแล้ว mindset แบบไหนที่ถูกที่ควรสำหรับยุคนี้ล่ะ? โดยเฉพาะยุคที่ ‘นักการตลาด’ มีบทบาทมากพอๆ กับตำแหน่งอื่นในภาคธุรกิจ
‘Econsultancy’ ได้ออกโมเดลกรอบความคิดสำหรับการเป็นนักการตลาดที่มีไอเดียแบบ ‘Modern Mindset’ ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ดีของ modern marketer ที่ธุรกิจต้องการ โดยตัวกำหนดทั้งหมด 10 ข้อสามารถนำไปสู่เส้นทางความสำเร็จให้กับบุคคล – ทีม – องค์กร ได้ เป็นเสียงยืนยันจากการพูดคุยเชิงลึกกับนักการตลาดชั้นนำของโลกกว่า 800 คน
แต่ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ทั้ง 10 คุณสมบัตินี้ไม่ควรพูดว่าเป็น ‘skills’ เพราะมันเป็นสิ่งที่ปลูกฝังพัฒนาให้เราเป็นแบบนั้นได้ถ้าตั้งใจเปลี่ยน mindset ตัวเอง ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการเคลียร์ตัวเองก่อนฝึกให้เรามี ‘modern marketing mindset’ โดยสามารถแบ่งได้ 3 ด้านหลักๆ แบบกว้างๆ
-
Self: Mindset ที่จำเป็นสำหรับรายบุคคล
-
Team: Mindset ที่จำเป็นสำหรับทีม
-
Company: Mindset ที่จำเป็นสำหรับบริษัท
โดยรายละเอียดของทั้ง 10 คุณสมบัติมีอะไรบ้างที่จะทำให้คุณกลายเป็นคนที่มี Modern Marketing Mindset
1&2. Customer-centric และ commercially focused
คุณสมบัติ 2 สิ่งนี้เรานำมารวมกันเพราะว่า นักการตลาดที่ดีที่มี mindset แบบโมเดิร์น สิ่งสำคัญแรกๆ ที่ต้องคิดและทำให้ได้ก็คือ ให้ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง แต่ขณะเดียวกันก็ต้องบาล๊านซ์การโฟกัสไปที่การค้าด้วย เพื่อไม่ให้หลุดโฟกัสจนทำให้เสียหาย กระทบไปถึงธุรกิจ หรือสร้างความไม่พอใจให้กับลูกค้าได้
3.Capable
ต่อเนื่องจากข้อที่ 1 และ 2 การที่นักการตลาดจะสามารถบาล๊านซ์ระหว่าง ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง กับ การมุ่งทำผลทางการค้า จำเป็นต้องมีความสามารถ เหมือนกับเป็นการ blend บางสิ่งบางอย่างให้ไปด้วยกันโดยที่ไม่รู้สึกสะดุดอะไร ทั้งลูกค้าและการค้าควรต้อง flow ไปพร้อมๆ กัน
4.Committed
การปรับให้เรามี mindset ที่โมเดิร์นในการทำการตลาดในแต่ละรูปแบบ จำเป็นต้องเต็มไปด้วย ‘ความมุ่งมั่น’ อย่างเช่นการมุ่งมั่นไปที่ความพึงพอใจของลูกค้า โดยที่ไม่ทำให้เรารู้สึกถึงความได้เปรียบเสียเปรียบทางการค้า หรือจะเป็นความมุ่งมั่นที่จะบรรลุวัตถุประสงค์ในเชิงกลยุทธ์ และไม่ลืมที่จะสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับลูกค้าอยู่เสมอ
5.Confident
คนที่ประสบความสำเร็จทั้งส่วนตัว หรือเพื่อทีมก็ตาม นอกจากต้องมีความมุ่งมั่นแล้ว ยังต้องมี ‘ความมั่นใจ’ ที่จะทำในสิ่งนั้นๆ ด้วย เพราะบางอย่างก็จำเป็นต้องใช้การตัดสินใจที่เด็ดขาดเพื่อทดสอบกลยุทธ์ว่ามันจะ work หรือไม่
6.Curious
นักการตลาดที่ดีและทันสมัยทางความคิด จำเป็นต้องมีคุณสมบัติอีกอย่างหนึ่งที่น่าสนใจทีเดียว ‘ความอยากรู้อยากเห็น’ ที่จริงถ้ามองผ่านๆ อาจดูว่าไม่จำเป็น แต่หากลองคิดให้ดีจะรู้ว่า การช่างสังเกต หรืออยากรู้อยากเห็นอยากลองมีส่วนช่วยให้เราเปิดกว้างทางความคิด เข้าใจ และทันต่อเหตุการณ์รอบตัว ทำให้กลยุทธ์ทางการตลาดสามารถอัพเดทได้ตลอดเวลา
7.Creative
อ่านมาจนถึงเรื่อง ‘ความสร้างสรรค์’ ถือว่าเป็นการเก็บเกี่ยวประสบการณ์และความเข้าใจจากทั้งหมดผ่านกระบวนการทางความคิดอย่างโมเดิร์น เพราะข้อมูลใหม่ๆ ช่วยให้เราจุดประกายความครีเอทได้หลายอย่าง ที่สำคัญเราจะฉลาดในการเอาชนะกับความท้าทายที่เข้ามาด้วย ไม่ว่าจะเป็นวิธีการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย หรือจะเป็นความสำเร็จในด้าการค้าก็ตาม
8.Challenging
การปลูกฝังความอยากรู้อยากเห็นและเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ อีกแง่หนึ่งก็เพื่อให้นักการตลาดหาความท้าทายใหม่ๆ เพื่อทำให้ตัวเองดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นความท้าทายทางไอเดีย ความเชื่อ รวมไปถึงโครงสร้างอื่นๆ ที่อยู่รอบตัว เพื่อให้วันนี้เราจะเป็น leader ที่สามารถทำให้ทีม และองค์กรขึ้นดี
9.Collaborative
หัวใจสำคัญอย่างหนึ่งของการสร้างสรรค์ หรือการตกผลึกมาจากคุณสมบัติอื่นๆ ที่พยายามช่วยให้เราเป็นนักการตลาดที่มี mindset แบบโมเดิร์น ก็คือ ‘ความร่วมมือ’ โดยเฉพาะการร่วมมือจากนักการตลาดที่มีความสามารถที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นด้าน IT, Data, customer service เป็นต้น
10.Connected
สิ่งที่สำคัญที่สุดของทั้ง 10 คุณสมบัติ ก็คงต้องยกให้เป็น ‘การเชื่อมต่อ’ เพราะหากเราได้รับข้อมูล หรือความรู้ใหม่ๆ มา แต่กลับนำมาใช้ประโยชน์ต่อไม่ได้ อันนี้ก็ไม่ถือว่า success ดังนั้น modern marketer จะต้องแยกแยะข้อมูล และนำมาเชื่อมโยงกับความสามารถของตัวเองได้ อีกอย่างต้องนำมาใช้ประโยชน์กับทีม และบริษัทนั้นๆ ได้ใน gap ที่ถูกต้องด้วย
ที่จริงแล้ว ‘Marketing Mindset’ จะแบบโมเดิร์นหรือไม่โมเดิร์น ทุกอย่างล้วนมีพื้นฐานมาจากแนวคิด ‘Growth Mindset’ ซึ่งตั้งอยู่บนความเชื่อของคุณสมบัติของบุคคล (หรือองค์กร) เป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาทั้งหมด ซึ่งเท่าที่อ่านมาทั้ง 10 ข้อนี้ ไม่มีอะไรที่ยากเกินไปเลยนะ เพียงแต่มันต้องใช้เวลาในการพัฒนา จนกว่าเราจะเห็นเป็นภาพใหญ่ในรูปแบบของ ‘วัฒนธรรมองค์กร’ (corporate culture)
ที่มา: econsultancy
