เหตุใด 5G จึงสำคัญสำหรับ Apple ในการบุกตลาดจีน

  • 60
  •  
  •  
  •  
  •  

เมื่อจีนเป็นตลาด 5G ที่ใหญ่ที่สุดในโลก นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไม iPhone รุ่นล่าสุด รองรับ 5G จึงสำคัญสำหรับ Apple

 

รายละเอียดและความน่าสนใจของ iPhone 12 เราคงไม่จำเป็นต้องพูดถึงในบทความนี้ แต่สิ่งที่น่าสนใจคือทำไมไยจึงสำคัญนักสำหรับการบุกตลาดเมืองจีนของ Apple

 

 

5G สามารถอ้างอิงไปถึงการเป็น Next-generation ของเครือข่ายมือถือที่ให้บริการด้วยสปีดที่ไวที่สุด ซึ่งเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา Apple เปิดตัว iPhone 12 ที่สามารถรองรับ 5G ได้

 

ต้องยอมรับว่าประเทศจีนเป็นตลาดที่ผลักดันการใช้เครือข่าย 5G ก่อนใครและค่อนข้างที่จะครอบคลุมด้วย ซึ่งที่ผ่านมาปล่อยให้คู่แข่งอย่าง Huawei ค่ายมือถือในประเทศที่ทำตลาดรองรับ 5G มานานแล้ว และงานนี้ Apple ตัดสินใจที่จอยตลาดบ้าง เพื่อที่จะขยับทำตลาดให้เพิ่มขึ้น

 

“หากมองกลับไปในไตรมาสที่ 2 ของปี จะเห็นได้ว่าบริษัทมือถือเกินครึ่งหนึ่งมุ่งสู่การทำตลาด 5G ที่จีน ท่ามกลางท็อป 5 ของผู้ผลิตมือถือในจีนล้วนแต่ทำ 5G กันหมด มีเพียง Apple เจ้าเดียวเท่านั้นที่ยังไม่ได้ทำ ดังนั้น การอัปเกรด 5G จึงเป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับ Apple ที่จะเดินหน้าต่อ และเรียกความสนใจจากตลาดจีนได้” Will Wong ผู้จัดการฝ่ายวิจัยที่ IDC กล่าว

 

จีนคือตลาด 5G ที่ใหญ่ที่สุดในตลาดสมาร์ทโฟน และเป็นประเทศที่ใช้เครือข่าย 5G ในการสื่อสารติดต่อกันแล้ว แต่ก็เป็นประเทศใหญ่ที่เศรษฐกิจได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19

 

“ในยุคของไวรัส โดยที่ตอนนี้อยู่ในช่วงเวลาของการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ซึ่งจีนก้าวขึ้นเป็นผู้นำของภูมิภาคดังนั้น จึงสำคัญอย่างยิ่งสำหรับ Apple ที่จะต้องมุ่งอัปเกรดการเชื่อมต่อ 5G Wong กล่าว

 

อีกหนึ่งมุมมองหนึ่งจาก Daniel Ives นักวิเคราะห์ Wedbush Securities กล่าวว่า จีนยังคงเป็นวัตถุดิบหลักในการก้าวสู่ความสำเร็จของ Apple ซึ่งถ้าวิเคราะห์อย่างหยาบๆ การเพิ่มขึ้นของยอดขายราว 20% หลังการอัปเกรด iPhone จะมาจากภูมิภาคนี้ในปีหน้า

 

ยกตัวอย่างความสำเร็จของซีรี่ส์ iPhone 11 และ iPhone SE ที่ได้รับความนิยมจากกลุ่มลูกค้าชาวจีน ซึ่งช่วยกระตุ้นยอดขายของบริษัทได้ในไตรมาสที่ 2 หลังจากที่ไตรมาส 1 ตกลงไปอย่างมาก

 

สิ่งที่จะทำให้คนจีนซื้อ iPhone ได้คือออะไรบ้าง?

  • จอจะต้องใหญ่คนจีนชอบ กลุ่มผู้บริโภคชาวจีนรักในจอใหญ่ๆ ดังนั้น iPhone 12 และ iPhone 12 Pro จึงจัดมาให้ขนาดหน้าจอ 6.1 นิ้ว โดยที่การแสดงผล ของรุ่น Pro นั้นจะสูงกว่า จึงทำให้ราคาแพงกว่า ในขณะที่หน้าจอของ iPhone 12 Pro Max ไปสุดถึง 6.7 นิ้ว ซึ่งแน่นอนว่าแพงที่สุด
  • ราคาที่เอื้อมถึง ทั้งนี้ พบว่าทั้ง iPhone 12 และ iPhone 12 Pro มีราคาที่ถูกกว่า ทั้ง iPhone 11 และ iPhone 11 Pro เมื่อเทียบกันแบบรุ่นต่อรุ่น

 

“เชื่อว่าทั้งเรื่องการตั้งราคาและเรื่องหน้าขนาดหน้าจอ จะเป็นตัวดึงดูดลูกค้าชาวจีนได้ โดยที่ 12 Pro Max มีจุดดึงดูดที่น่าสนใจมากสุดเพราะว่าทั้งหน้าจอใหญ่สุด และราคาที่ไม่แรงจนเกินไป” นักวิเคราะห์กล่าว

 

จากนี้คงต้องรอดูความคืบหน้าว่า Apple จะสามารถบุกตลาดจีนได้สำเร็จหรือไม่ หลังมีความพยายามอย่างหนักในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และจะกลายเป็นช่วยดึงรายได้ให้ Apple เพิ่มขึ้นจริงหรือไม่ คงต้องติดตามต่อไป.

 

Source : CNBC

 


  • 60
  •  
  •  
  •  
  •  
pigabyte
การเรียนรู้ไม่มีวันจบสิ้น มาเรียนรู้และสนุกไปกับบทความ จาก MarketingOops! กันนะคะ แล้วเราจะได้ค้นพบว่าโลกของ Marketing นั้น So Sexy and Cool!