แน่นอนว่ายุคนี้ เราพูดถึง โฆษณา และ การทำตลาด บนแพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อส่งสารไปถึงผู้บริโภค แต่การที่มีแพลตฟอร์มหลากหลาย แถมผู้ใช้งานจำนวนมากกระจายอยู่บนพื้นทีเหล่านั้น นั่นหมายความว่า…ไม่ใช่ทุกช่องทาง จะมีประโยชน์จากการลงโฆษณา
เมื่อโจทย์ของนักการตลาดและแบรนด์คำนึงถึงประสิทธิภาพและความคุ้มค่า ต้องสร้าง Awareness ควบคู่กับปลายทางอย่าง Conversion ดังนั้น ดาต้าและเครื่องมือต่างๆ จึงถูกระดมมาตอบโจทย์ทั้งการขายและเป้าหมายของแบรนด์ ภายใต้ความกดดันในการเข้าถึงฐานลูกค้าแต่ละแพลตฟอร์ม ซึ่งแน่นอนว่าแตกต่างกันทั้งเพศ อายุ ความสนใจ เรื่องนี้ทำให้แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้จำนวนมากและรวมผู้คนเอาไว้หลากหลายกลุ่ม กลายเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ที่นักการตลาดและแบรนด์ยกให้เป็น โอกาส ในการสร้างตัวตน
วิถีชอปออนไลน์ ถูกส่งไม้ต่อจาก E-commerce สู่ ‘Chat Commerce’
ยกตัวอย่างพฤติกรรมชอปออนไลน์ในปัจจุบันที่ต่อยอดจาก E-commerce สู่ ‘Chat Commerce’ ไลฟ์สไตล์ของผู้คนเริ่มอยู่บนแชทมากขึ้น เริ่มใช้เวลาหลายๆ ชั่วโมงต่อวัน โดยเฉพาะบน ‘LINE’ แพลตฟอร์มแห่งการแชทอันดับต้นๆ ของเมืองไทยที่รวมผู้บริโภคทุก Gen เอาไว้ได้อยู่หมัด กลายเป็นแอปพลิเคชันพื้นฐานของคนไทย ตั้งแต่การสื่อสาร การซื้อขาย ล้วนเกิดขึ้นภายในแอปเดียว และเมื่อมีช่องทางเช่นนี้…นักการตลาดและนักโฆษณาจึงให้ความสนใจเป็นพิเศษ ประกอบกับ LINE ขยันพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ เครื่องมือเด็ดออกมาไม่หยุดหย่อน เพื่อต่อยอดการเป็นเจ้าแห่ง Chat Commerce ในไทยอย่างสมบูรณ์ และหนึ่งในเครื่องมือที่มองข้ามไม่ได้ และเชื่อว่าสะดุดตานักโฆษณาหลายคนในตอนนี้ก็คือ ‘Smart Channel Ads’ โฆษณาบนด้านบนของหน้ารายการแชท ยิ่งทำให้ LINE กลายเป็น Prime Location แห่งใหม่ที่ตอบโจทย์งานโฆษณา
รู้จัก ‘Smart Channel Ads’ กับไอเดียพลิก Conversation เป็น ‘Conversion’
วัตถุประสงค์หลักของ Smart Channel Ads ก็คือการเปลี่ยน Conversation ให้กลายเป็น Conversion สู่แบรนด์ ด้วยจุดเด่นที่หลากหลาย อาทิ…
ตำแหน่งโฆษณา: จะปรากฎใน ‘หน้าแชท’ ซึ่งเป็นทำเลทองที่ผู้ใช้ LINE ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 47 ล้านคนทั่วประเทศไทย ทุกเพศ ทุกวัยต้องเปิดเข้าทุกครั้ง โดยไม่จำเป็นต้องดาวน์โหลดแอป-ส่วนเสริม หรือกดติดตาม ก็สามารถเห็นโฆษณาบนพื้นที่ดังกล่าวได้อย่างชัดเจน จึงเป็นโอกาสที่ดีอย่างมากในการสร้างแบรนด์ แนะนำโปรดักส์ หรือแม้แต่สร้างโอกาสจากการขายแก่ผู้บริโภคในวงกว้าง และแน่นอนว่าเมื่อได้ฐานลูกค้าที่กว้าง ก็สามารถต่อยอดไปสู่การเลือกกลุ่มเป้าหมายในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพตามมา
ความเป็นธรรมชาติในการเข้าถึง: เพราะ Smart Channel Ads อยู่ในตำแหน่งบนสุดของรายการแชท โดยมีลักษณะเหมือนหนึ่งห้องแชทเพิ่มขึ้นมาด้านบน ไม่ได้รบกวนหรือบังห้องแชทเดิมใดๆ ของผู้ใช้แต่อย่างใด หากเปิดมาเจอแบนเนอร์หรือวิดีโอโฆษณาบน Smart Channel เป็นเนื้อหาที่สนใจ ก็สามารถกดได้ทันที ไม่ยุ่งยากซับซ้อน
เพิ่มแฟน เพิ่มยอดขาย: การทำโฆษณาบน Smart Channel Ads สามารถนำไปสู่การปิดการขายได้หลากหลายรูปแบบทั้งในระยะสั้นและระยะยาวตามจุดประสงค์ของแบรนด์ หากต้องการปิดการขายอย่างเร่งด่วน เช่น โปรโมชั่น ก็สามารถยิงโฆษณาเพื่อลิงก์ไปยังหน้าปิดการขาย เช่น หน้าแคตตาล็อกสินค้าจาก MyShop ได้ทันที แต่หากต้องการดึงลูกค้าใหม่สู่ฐานลูกค้าประจำระยะยาวในอนาคต ก็สามารถต่อยอดยิงโฆษณาเพื่อลิงก์ไปยังการเพิ่ม LINE OA ของแบรนด์เป็นเพื่อนได้เช่นกัน นอกจากจะสร้างโอกาสให้แบรนด์มีจำนวนผู้ติดตามผ่าน LINE OA มากขึ้นได้แล้ว การใส่ใจ ให้ข้อมูลรายละเอียด ดูแลลูกค้าเราบน LINE OA ให้ตรงจุดโดนใจ ก็สามารถนำไปสู่การปิดการขายได้ง่ายขึ้น แถมสร้าง Brand Love ให้กับแบรนด์คุณได้อีกด้วย
เหมาะกับโฆษณาทุกดีไวซ์: ไม่ใช่แค่การวางแผนเพื่อเป็นโฆษณาที่เหมาะกับดีไวซ์ใดดีไวซ์หนึ่ง เพราะ Smart Channel Ads ถูกออกแบบมาให้เหมาะกับการรับชมผ่านมือถือ รวมถึงผู้ใช้งาน LINE เวอร์ชันเดสก์ท็อป ก็มีการอัพเดทให้รองรับได้แล้วในช่วงต้นปีที่ผ่านมา จึงทำให้ทุกโฆษณาบน Smart Channel หมดปัญหาในการเข้าถึงผู้บริโภคผ่านทุกดีไวซ์
จุดเด่นของแพลตฟอร์ม: ด้วยการเป็นแพลตฟอร์มที่คนไทยใช้งานเป็นอันดับต้นๆ หน้าแชทใน LINE จึงเป็นแหล่ง Touchpoint ที่ผู้บริโภคมากมากหลากหลายกลุ่มทั่วประเทศไทยมองเห็น ซึ่งตำแหน่งโฆษณาบน Smart Channel สามารถเข้าถึงคนได้มากถึง 20 ล้านคนต่อวันผ่านมือถือ (Unique reach on mobile) และมีค่าเฉลี่ยการแสดงผลโฆษณาสู่สายตาผู้บริโภคถึง 15 ล้านครั้งต่อวันบนเดสก์ท็อป (Impression on desktop)
สิ่งเหล่านี้ยิ่งตอกย้ำ ว่าทำไม Smart Channel Ads จึงเป็นช่องทางใหม่ที่นักการตลาดและนักโฆษณาต้องการให้โฆษณาสินค้าหรือแบรนด์ได้ปรากฎอยู่ตรงนั้น เรียกได้ว่า พื้นที่ทำเลทองของ Conversation อย่างบนหน้าแชท LINE สามารถนำมาสู่ Conversion ได้หลากหลายรูปแบบแถมมีประสิทธิภาพอีกด้วย
อธิบายให้เข้าใจต้องมีตัวอย่าง… เลยขอยกกรณีศึกษาของ KFC ประเทศไทย ที่ใช้ Smart Channel Ads ทำโฆษณาในรูปแบบ Short VDO ความยาวเพียง 6 วินาที แต่สามารถส่งสารออกไปถึงผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพพร้อมด้วยโปรโมชันและช่องทางจำหน่าย จนทำให้มียอดขายเพิ่มขึ้นถึง 57% ภายใน 1 สัปดาห์ ทั้งยังมียอดการคลิกมากขึ้น 33% อัตราการรับชม VDO จนจบสูงถึง 57% ซึ่งนับว่าสูงกว่าค่าเฉลี่ยตลาดมาก รวมถึงค่า CTR (Click Through Rate) ก็สูงขึ้นกว่า 170% อีกด้วย ซึ่งกลยุทธ์เด็ดที่ทำให้ KFC ประสบความสำเร็จจากโฆษณาชิ้นนี้ นอกจากการเลือกลงโฆษณาบนตำแหน่งที่ใช่อย่าง Smart Channel แล้ว การออกแบบวิดีโอโฆษณาให้สื่อความหมายชัดเจนและสร้างสรรค์เป็นส่วนสำคัญไม่แพ้กัน
ห้ามลืม ‘Impact’ อย่าลืมว่า “สร้างโอกาสสำคัญพอๆ กับการขาย”
หากพอจะมองเห็นเทรนด์การลงโฆษณาในช่วงนี้ คงต้องบอกว่า…หมดยุคให้ความสำคัญกับ Awareness อย่างเดียวแล้ว เพราะโฆษณาและการตลาดยุคนี้ต้องมองให้ลึกกว่าที่เคย! นอกจากสร้างการรับรู้ได้แล้วยังต้องมองถึง ‘การต่อยอด’ ทั้งการขายสินค้า การเพิ่มฐานแฟนของแบรนด์ การสร้างความผูกพันธ์ระยะยาว ฯลฯ เรื่องเหล่านี้กลายเป็น ‘ความท้าทายใหม่’ ของนักการตลาดและนักโฆษณา ที่ไม่หยุดนิ่งและขยับตัวให้พร้อมกับยุคสมัย ไม่ตกเทรนด์
และสำหรับคนที่ยังไม่รู้ว่าจะเข้าถึงการโฆษณาบน Smart Channel Ads ได้อย่างไร… ก็สามารถติดต่อผ่านเอเยนซี่ได้เลย หรือหากไม่แน่ใจว่ามีเอเยนซี่ที่เชี่ยวชาญอยู่ใกล้ตัวหรือไม่ ก็สามารถค้นหาได้จาก https://lineforbusiness.com/th/partner ได้เช่นกัน
