เรื่องต้องรู้!!! เทคนิคการใช้ Self-Serve Platform จาก TikTok for Business เพื่อเพิ่มยอดขายและต่อยอดโอกาสทางธุรกิจได้ง่าย ๆ ด้วยตนเอง

ในยุคนี้ที่มีแพลตฟอร์มสำหรับทำมาร์เก็ตติ้งและโฆษณาให้เลือกมากมาย แต่ด้วยจุดเด่นหลาย ๆ อย่างของ Self-Serve Platform (แพลตฟอร์มแบบบริการตัวเอง) จาก TikTok for Business ที่เอื้อต่อการเพิ่มยอดขายและสร้างโอกาสเติบโตให้กับธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก ทำให้แพลตฟอร์มนี้กลายเป็นเครื่องมือทางการตลาดยุคใหม่ที่ทรงประสิทธิภาพและอยู่ในกระแสความสนใจของแบรนด์และธุรกิจทุกๆขนาดในปัจจุบัน

TikTok for Business ได้เปิดตัว Self-Serve Platform หรือ แพลตฟอร์มแบบบริการตัวเอง โซลูชั่นที่เจ้าของธุรกิจสามารถจัดการโฆษณาได้ด้วยตนเอง สำหรับตอบโจทย์ด้านการทำการตลาดและช่วยให้แบรนด์ในทุกธุรกิจสามารถสร้างสรรค์โฆษณาได้หลากหลายบน TikTok เพื่อเชื่อมต่อกับชุมชนขนาดใหญ่ของผู้ใช้งาน TikTok ได้ง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก หรือ SME ที่อาจมีข้อจำกัดในเรื่องของทีมงานและงบประมาณ

TikTok for Business ช่วยเหลือ SME อย่างไร

อย่างที่บอก TikTok for Business มี Self-Serve Platform โซลูชั่นที่สามารถจัดการโฆษณาได้ด้วยตนเองตามความต้องการ ซึ่งเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้แม่นยำ เพราะสามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายชัดเจน ตามเพศ , อายุ , ความสนใจ ฯลฯ และมีเครื่องมือในการสร้างสรรค์ (Creative Tool ) ที่ช่วยให้แบรนด์และธุรกิจต่าง ๆ บอกเล่าเรื่องราวและข้อมูลต่าง ๆ ได้ เช่น TikTok AdStudio ให้แบรนด์ต่าง ๆ สามารถนำเสนอเรื่องราวของแบรนด์ได้อย่างน่าเชื่อถือที่สุด

งบประมาณที่ใช้มีความยืดหยุ่น (Flexible budgets) ทำให้ธุรกิจสามารถปรับเปลี่ยนการใช้จ่ายได้ตลอดเวลา ผ่านการทำงานของ TikTok Ad Manager ที่ทำให้เราสามารถควบคุมเกี่ยวกับโฆษณาได้ทั้งหมด โดย TikTok Ad Manager  ถูกออกแบบมาให้ติดตั้งได้รวดเร็วและใช้งานง่าย  หากสนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากวิดีโอด้านล่างนี้

นอกจากนี้ TikTok for Business ยังมีการติดตามผลอย่างมีประสิทธิภาพ (Performance tracking) การกำหนดกลุ่มเป้าหมาย จะช่วยให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้เป้าหมายใหม่ที่มีส่วนร่วมได้อย่างเหมาะสม ที่สำคัญ TikTok มีการแนะนำบัญชีธุรกิจ (Business account) ที่จะให้เครื่องมือเพิ่มเติมสำหรับวิเคราะห์ถึงประสิทธิภาพและการมีส่วนร่วมของกลุ่มเป้าหมายตามความต้องการของธุรกิจต่าง ๆ ดังนั้นจึงเหมาะกับทุกธุรกิจ

จะเริ่มต้นใช้งาน Self-Serve platform (แพลตฟอร์มแบบบริการตัวเอง) อย่างไร ?

ขั้นแรก เริ่มต้นสร้างบัญชีบน www.tiktok.com/business/th ด้วยการกรอกข้อมูลต่าง ๆ ให้เรียบร้อย จากนั้นจะเข้าสู่หน้าจอของ TikTok Ad Manager ให้สามารถใช้งานโซลูชั่นการโฆษณาแพลตฟอร์มแบบบริการตัวเอง หรือ Self-Serve ได้ ซึ่งโครงสร้างแคมเปญของ TikTok จะมีแพลตฟอร์มโฆษณาอยู่ 3 ระดับ ประกอบด้วย

• แคมเปญ (Campaign) โดยการตั้งค่าแคมเปญ ให้เลือกวัตถุประสงค์ของแคมเปญว่า ต้องการ Reach, App Install หรือ Conversion จากนั้นให้กำหนดงบประมาณที่จะใช้โฆษณาเพื่อควบคุมจำนวนเงินตามที่ต้องการ
• กลุ่มโฆษณา (Ad group) แหล่งเก็บรวมโฆษณาแต่ละประเภทที่เจ้าของแบรนด์สามารถเลือกใช้ได้ในแคมเปญเดียวกัน ซึ่งโฆษณาที่ออกมาทั้งหมดจะเหมือนกันทั้งตำแหน่งการวางโฆษณา, กลุ่มเป้าหมาย, ตารางเวลา, เป้าหมายของผลลัพธ์ และตัวเลือกราคาประมูลโฆษณา หรือ Bid option สุดท้าย คือ การตั้งเป้าหมายผลลัพธ์ (Optimisation Goal) เช่น จำนวนครั้งที่ต้องการให้แสดงโฆษณา เป็นต้น
• โฆษณา (Ad) เป็นชิ้นงานโฆษณาที่มีทั้งวิดีโอ รูปภาพ และข้อความ โดยเราสามารถเลือกให้มีหลายโฆษณาได้ในแต่ละกลุ่มโฆษณา

เมื่อกำหนดแคมเปญตามแพลตฟอร์มโฆษณาของ TikTok เรียบร้อยแล้ว ก็มาถึงการวางรูปแบบของโฆษณาวิดีโอในฟีดให้เหมาะสม ซึ่งโฆษณาวิดีโอเหล่านี้จะถูกแทรกเข้าไปในฟีดของกลุ่มเป้าหมายและไม่ไปปรากฏบนส่วนอื่น ๆ ของแอป โดยเราสามารถกำหนดได้ ดังต่อไปนี้

1. เลือกรูปแบบโฆษณาวิดีโอในฟีดระหว่างการประมูล หรือ Bid option
2. เลือกวัตถุประสงค์ของโฆษณา ได้แก่ การติดตั้งแอป (App Install) เป็นการปรับตั้งแคมเปญให้เหมาะสำหรับการติดตั้งแอป, จำนวนผู้เข้าชม (Traffic) ปรับแอปเพื่อเพิ่มจำนวนคนที่เข้าถึงหน้าเพจหรือโฆษณา
3. เลือกวิธีประมูลราคา (Bidding Method) สามารถเลือกได้แบบ CPM (Cost Per Thousand Impressions) ราคาตามจำนวนครั้งที่แสดงโฆษณาต่อ 1,000 ครั้ง, CPC (Cost Per Click) การจ่ายเงินคลิกต่อคลิกราคาต่อคลิกจากแต่ละบัญชีที่คลิกบนโฆษณา CPV (Cost Per View) ราคาต่อยอดวิวตามการรับชมต่อ 1 ครั้งหรือตามรูปแบบการมีส่วนร่วมที่ถูกกำหนดไว้ล่วงหน้า

องค์ประกอบ การสร้างชิ้นงานโฆษณาให้ปัง

เมื่อเลือกรูปแบบและวัตถุประสงค์ของโฆษณา รวมไปวิธีประมูลราคาเรียบร้อยแล้ว ประเด็นต่อมาที่แบรนด์ต้องรู้เพื่อให้ชิ้นงานโฆษณาออกมาปังและประสบความสำเร็จ นั่นคือ สเปคของชิ้นงานโฆษณา

• ต้องเป็นไฟล์ที่มีขนาด 500 mb หรือน้อยกว่า
• บิตเรตวิดีโอ น้อยกว่า 512 KBPS
• ความยาวของวิดีโอ 5-60 วินาที (ความยาวที่เหมาะสมควรอยู่ที่ 9-15 วินาที)
• งานโฆษณาควรมีส่วนประกอบทั้ง ‘วิดีโอ’ และ ‘รูปภาพ’ รวมถึง ‘ชื่อแบรนด์’
• ในกรณีที่มีการตั้งวัตถุประสงค์ ควรมีทั้ง ‘ชื่อแอป’ และ ‘คำอธิบาย’ (หากวัตถุประสงค์ของแคมเปญ ต้องการติดตั้ง App Install ชื่อโฆษณาต้องตรงกับชื่อแอปของแบรนด์)

หากแบรนด์ยังไม่มีไอเดียว่า จะดีไซน์งานโฆษณาออกมาอย่างไรให้น่าสนใจและตอบโจทย์ธุรกิจที่วางไว้ ทาง TikTok ก็มีคำแนะนำถึงการออกแบบชิ้นงานที่ดี ผ่านหลัก ABCDE ได้แก่

A- Active เปิดการใช้งานการมีส่วนร่วมของผู้ใช้งานพร้อมด้วยปุ่ม Call-to-Action (CTA) ที่น่าดึงดูดและชัดเจนบน TikTok

B-Bridge การสร้างความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับผู้ใช้ ด้วยการใช้เนื้อหาในโฆษณาให้กลมกลืนกับวิดีโออื่น ๆ บนแพลตฟอร์ม

C-Collaborate ทำงานร่วมกับครีเอเตอร์ พาร์ทเนอร์ และผู้ใช้งาน TikTok เพื่อกระตุ้นกระแสการพูดถึงแบรนด์

D-Draw ดึงดูดความสนใจของผู้ใช้ด้วยการสร้างเนื้อหาแบบตรงไปตรงมา น่าจดจำ และน่าสนใจ

E-Evolve พัฒนาแบรนด์อยู่เสมอเพื่อให้เข้ากับช่วงเวลาต่าง ๆ ที่เปลี่ยนแปลง

ธุรกิจและกลุ่ม SME ก็สามารถใช้ TikTok for Business ผ่าน Self-Serve Platform เพื่อเพิ่มยอดขายและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายบน TiKTok ได้ง่าย ๆ แถมแม่นยำ ที่สำคัญ คือ สามารถทำได้ด้วยตนเอง ซึ่งผู้สนใจสามารถเข้าไปศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.tiktok.com/business/th หรือเริ่มใช้งาน TikTok for Business ผ่าน Self-Serve Platform ได้เลย https://getstarted.tiktok.com