หลังมีข่าวสายการบิน “นกสกู๊ต” เลิกกิจการไปเมื่อช่วงปลายเดือนมิถุนายน และทาง “นกแอร์” ในฐานะผู้ถือหุ้น (ถือหุ้น 49.65% ผ่านบริษัทย่อยในชื่อ นกมั่งคั่ง) ได้ออกมายืนยันว่า เรื่องดังกล่าวไม่กระทบต่อธุรกิจของนกแอร์ แต่ล่าสุด มีรายงานข่าวว่า วันนี้ (30 ก.ค. 2563) นกแอร์ ก็ได้เข้ายื่นฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลาง ซึ่งศาลฯ รับคำร้องและได้สิทธิ์พักชำระหนี้ทันที พร้อมทั้งนัดไต่สวนในวันที่ 27 ต.ค.นี้
รายละเอียดของเรื่องดังกล่าว ได้รับการเปิดเผยว่า… บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) ในฐานะลูกหนี้ เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ด้วยวัตถุประสงค์ดำเนินธุรกิจสายการบินขนส่ง ทั้งคน สิ่งของ และไปรษณียภัณฑ์ทางอากาศ โดย ณ วันที่ 31 มี.ค. 2553 ลูกหนี้หนี้มีหนี้สินต่อเจ้าหนี้หลายราย รวมเป็นจำนวน 26,522,203,418 บาท ดังนี้…
หนี้สินหมุนเวียน เป็นเงินกู้ยืมระยะสั้น 2,720,000,000 บาท
เจ้าหนี้การค้าและเจ้าหนี้หมุนเวียนอื่น 2,679,065,008 บาท
รายได้รอตัดบัญชีจากโปรแกรมสิทธิพิเศษแก่ลูกค้า 41,812,871 บาท
ประมาณการหนี้สินค่าปรับสภาพเครื่องบินและค่าซ่อมบำรุงเครื่องบินระยะสั้น 58,858,927 บาท
ส่วนของหนี้สินตามสัญญาเช่าที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปี1,907,589,409 บาท
หนี้สินหมุนเวียนอื่น 98,591,347 บาท
รวมหนี้สินหมุนเวียน 7,505,917,562 บาท
หนี้สินไม่หมุนเวียนประมาณการหนี้สินค่าซ่อมบำรุงเครื่องบินตามแผนการซ่อมบำรุงประมาณการหนี้สินค่าปรับสภาพเครื่องบิน 6,460,359,841 บาท
ทั้งนี้ศาลล้มละลายกลาง มีคำสั่งรับคำร้องขอฟื้นฟูกิจการเป็นคดีดำ ฟฟ 21/2563 นัดไต่สวนคำร้องวันที่ 27 ต.ค. 2563 เวลา 9.00น. โดยหลังจากรับคำร้องก่อให้เกิดสภาวะพักการชำระหนี้ (Automatic Stay) ตามมาตรา 90/12 โดยในบัญชีเจ้าหนี้ที่นกเเอร์ได้ยื่นต่อศาลในวันนี้มีจำนวน 312 ราย
อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลย้อนหลังผลประกอบการของสายการบินนกแอร์ตามที่แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในปี 2559 – 2562 พบว่า…นกแอร์ มีรายได้รวมในหลักหมื่นล้านบาททุกปี แต่หนี้สินรวมก็เพิ่มขึ้นทุกปี โดยมีรายละเอียด คือ…
– รายได้รวม
ปี 2559 อยู่ที่ 16,938.32 ล้านบาท
ปี 2560 อยู่ที่ 20,376.71 ล้านบาท
ปี 2561 อยู่ที่ 19,740.23 ล้านบาท
ปี 2562 อยู่ที่ 19,969.12 ล้านบาท
– กำไรสุทธิ
ปี 2559 อยู่ที่ -2,795.09 ล้านบาท
ปี 2560 อยู่ที่ -1,854.30 ล้านบาท
ปี 2561 อยู่ที่ -2,786.76 ล้านบาท
ปี 2562 อยู่ที่ -2,051.39 ล้านบาท
– หนี้สินรวม
ปี 2559 อยู่ที่ 6,340.58 ล้านบาท
ปี 2560 อยู่ที่ 6,639.14 ล้านบาท
ปี 2561 อยู่ที่ 17,105.69 ล้านบาท
ปี 2562 อยู่ที่ 18,639.17 ล้านบาท
ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ