ถอดกรณีศึกษา “Circle of Love” ของ “Michelin”
แบรนด์มิชลิน เปิดตัวเพลง “มีเธอตลอดไป (Circle of Love)” เพื่อสร้างการจดจำแบรนด์และเชื่อมโยงความรู้สึกผูกพันระหว่างกลุ่มเป้าหมายกับมิชลิน ที่มีจุดยืนในการอยู่เคียงข้างและดูแลกันตลอดไปในทุกช่วงชีวิต ตามคำมั่นสัญญาของแบรนด์ที่ว่า “แม้เวลาจะเปลี่ยนไป…ความมั่นใจไม่เปลี่ยนแปลง” สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการนำเสนอและพัฒนาผลิตภัณฑ์ยางที่ให้สมรรถนะที่ดียาวนานตลอดอายุการใช้งาน
ครั้งแรกกับการสื่อสารผ่าน “มิวสิค” และการร่วมงานของ 2 ศิลปินระดับประเทศ
ความโดดเด่นของแคมเปญเพลงมีเธอตลอดไป (Circle of Love) เริ่มตั้งแต่ศิลปินผู้ขับร้อง ผู้แต่งเนื้อร้อง – ทำนอง และยังแทรก Key Message ของแบรนด์ลงในบทเพลง เพื่อสื่อสารจุดเด่นของยางมิชลินที่มาพร้อมนวัตกรรมใหม่ ทำให้ยางมีสมรรถนะดีตั้งแต่วันแรกที่ใช้จนถึงวันที่ต้องเปลี่ยนยางรอบต่อไป พร้อมตอกย้ำเรื่องการอยู่เคียงข้างและดูแลกันตลอดไป โดยการสื่อสารผ่านบทเพลงดังกล่าวช่วยให้ผู้บริโภคเกิดการจดจำและเห็นภาพสิ่งที่แบรนด์ต้องการสื่อสารได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ถือเป็นการเพิ่มประสบการณ์เชิงบวกทางด้าน Emotional ให้กับผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย
นอกจากเป็นครั้งแรกที่มิชลินปล่อยแคมเปญมิวสิค ก็ยังเป็นครั้งแรกของการร่วมงานระหว่าง 2 ศิลปิน “ป๊อด โมเดิร์นด็อก” และ “อิงค์ วรันธร” รวมถึงนักแต่งเนื้อร้องและทำนองชื่อดังอย่าง “ฟองเบียร์” ซึ่งศิลปินทั้ง 2 คน ถือเป็นศิลปินคุณภาพที่ได้รับความนิยมและยอมรับในระดับประเทศ ทั้งยังสามารถร่วมงานและถ่ายทอดเป็นบทเพลงที่สื่อถึงอารมณ์ได้เป็นอย่างดี ทำให้ผู้ฟังสามารถเข้าถึงเนื้อเพลงและอารมณ์เพลง โดยเฉพาะท่อนที่ว่า “ไม่ว่าจะนานเท่าไร..จะทำให้เธอสุข และยิ้มได้ทุกวัน” ซึ่งเป็นวัตถุประสงค์ที่แบรนด์ต้องการสื่อสารถึงการดูแลความปลอดภัย ทำให้ผู้ใช้งานได้มั่นใจในทุกการเดินทางตลอดอายุการใช้งาน สอดคล้องกับคำมั่นสัญญาของแบรนด์ที่ว่า “แม้เวลาจะเปลี่ยนไป…ความมั่นใจไม่เปลี่ยนแปลง”
เนื้อหาของเพลงมีเธอตลอดไป (Circle of Love) ถูกถ่ายทอดผ่านปรัชญา “การผลิตยาง” ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงจากมิชลิน ที่ผ่านการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่องทำให้สามารถสร้างประสบการณ์เหนือชั้นในการขับขี่ ทั้งความนุ่มเงียบ การยึดเกาะถนนอย่างมีประสิทธิภาพทั้งบนถนนเปียกและแห้ง และนวัตกรรมล่าสุดเนื้อยางสูตรใหม่ที่ใส่เข้าไปในยางรุ่นต่าง ๆ ของมิชลิน อาทิ MICHELIN PRIMACY4, MICHELIN ENERGY XM2+, MICHELIN PILOT SPORT4 เป็นต้น ช่วยให้ยางมีสมรรถนะดียาวนานตลอดอายุการใช้งาน มั่นใจได้ตั้งแต่วันแรกที่ใช้จนถึงรอบเปลี่ยนยางครั้งต่อไป ตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ต้องการความความปลอดภัยและคุ้มค่าสูงสุด ซึ่งเรื่องดังกล่าวถือเป็นสิ่งหนึ่งที่ผู้บริโภคไม่ค่อยรับรู้ถึงสมรรถนะของยางที่ใช้ไปแล้ว มิชลินจึงเพิ่มนวัตกรรมดังกล่าวและสร้างการรับรู้ผ่านบทเพลง เพื่อทำให้ง่ายทั้งต่อการจดจำ เข้าใจและเข้าถึงผู้บริโภคในวงกว้าง ถือเป็นสีสันใหม่ในธุรกิจยางรถก็ว่าได้
อย่างไรก็ตาม ผู้สนใจติดตามรายละเอียดผลิตภัณฑ์และสิทธิพิเศษเพิ่มเติม ได้ที่ www.michelin.co.th