เปิดเหตุผล ทำไม ‘โรบินสัน’ เมกาบางนา ถึงเปลี่ยนเป็น ‘ห้างเซ็นทรัล’

ปิดฉาก 8 ปีของ ‘โรบินสันเมกาบางนา’ ที่จากนี้จะเดินหน้าต่อภายใต้ชื่อใหม่ ‘ห้างเซ็นทรัลเมกาบางนา’ ซึ่งน่าสนใจว่า การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นเพราะอะไร , นอกจากชื่อ จะมีอะไรเปลี่ยนไปอีก และเมื่อเปลี่ยนแล้วจะสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจได้อย่างไร

การเปลี่ยนชื่อศูนย์การค้าในเครือเซ็นทรัลไม่ใช่เรื่องใหม่ที่เพิ่งเกิดขึ้น เพราะเมื่อไม่นานมานี้ เราได้เห็นกรณีการเปลี่ยนจาก ‘ห้างสรรพสินค้าเซน’ มาเป็น ‘CENTRAL@CentralWorld’ ให้ตอบโจทย์ทั้งทำเลที่ตั้ง กลุ่มเป้าหมาย และไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนอย่างรวดเร็ว

ในกรณีของการเปลี่ยน โรบินสันเมกาบางนา มาสู่ห้างเซ็นทรัลเมกาบางนา ก็มีเหตุผลใกล้เคียงกัน นั่นคือ

1.เปลี่ยนเพื่อตอบโจทย์ New Business Model

ทั้งโรบินสันและเซ็นทรัล มี บริษัท เซ็นทรัลรีเทล จำกัด (มหาชน) หรือ CRC เป็นบริษัทแม่ ที่มีประสบการณ์ในการบริหารค้าปลีกมายาวนาน ซึ่งได้วางโครงสร้างธุรกิจค้าปลีกของกลุ่มเซ็นทรัลใหม่ (New Central New Retail) ทำให้ CRC มีดีพาร์ทเม้นท์สโตร์รวมกันมากถึง 74 สาขา ประกอบด้วย ห้างเซ็นทรัล 23 สาขา และ ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน 51 สาขา

ตามแผนงานในการพัฒนาธุรกิจ CRC ได้มีการปรับ New Business Model ให้สอดรับกับการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจ ด้วยการปรับเปลี่ยนและยกระดับภาพลักษณ์ใหม่ของโรบินสัน และ ห้างเซ็นทรัลในบางสาขา เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคในแต่ละพื้นที่ได้อย่างลงตัว อย่างในปีนี้เริ่มปรับสาขาแรก คือ ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน เมกาบางนา ซึ่งเปิดให้บริการตั้งแต่ เมื่อเดือนพฤษภาคม 2555 มาเป็นเซ็นทรัลเมกาบางนา เริ่มต้นเฟสแรกในวันที่ 2 กรกฎาคม 2563 ไปจนถึงไตรมาส 2 ปี 2565 ด้วยงบ 50 ล้านบาท

โดยลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของห้างเซ็นทรัลเมกาบางนานั้น จะเน้นกลุ่มคนไทยที่เป็นคนทำงาน และครอบครัวคนรุ่นใหม่ รวมถึงชาวต่างชาติที่ทำงานในประเทศไทย และอาศัยในย่านนี้ ซึ่งจะต่างกับ Target ของห้างเซ็นทรัลบางนา ที่จะเน้นกลุ่มครอบครัวใหญ่ที่มีหลายเจนเนอร์เรชั่น ซึ่งนอกจากการเปลี่ยนชื่อแล้วยังเติมเพิ่มแบรนด์ใหม่ยอดนิยมเข้ามาเพิ่มอีกกว่า 400 แบรนด์ ที่จะทยอยเข้ามาเสริมทัพในปีนี้ รวมกว่า 1,000 แบรนด์

2. บางนา คือ ทำเลทองของกรุงเทพฯตะวันออก

ปัจจุบัน พื้นที่ย่านบางนา-ตราด ถือเป็นทำเลทองเพราะเป็นย่านเศรษฐกิจที่มีศักยภาพสูง ทั้งยังเป็นประตูสู่ภาคตะวันออกเชื่อมต่อหลายจังหวัด อาทิ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง และเป็นหน้าด่านก่อนเข้าสู่กรุงเทพมหานคร นอกจากนี้ในอนาคต ยังมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง และรถไฟฟ้ารางคู่ บางนา-สุวรรณภูมิ ที่จะเป็นแรงเสริมการเติบโตของพื้นที่นี้

ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีนิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่จำนวนมาก มีโครงการบ้านจัดสรรมากถึง 18 โครงการ และอยู่ใกล้สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ เดินทางเพียง 25 นาที ทั้งจำนวนประชากรในย่านนี้ มีอัตราเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งจะทำให้พื้นที่ตรงนี้มีการขยายตัวค่อนข้างสูงและกลายเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของเมืองกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก จึงเหมาะสมในการปรับภาพลักษณ์ใหม่ให้โรบินสันเมกาบางนาเป็นเซ็นทรัลเมกาบางนา

สำหรับลูกค้าโรบินสันในย่านดังกล่าว ยังมีสาขาใกล้เคียงที่สามารถใช้บริการได้อีก 3 สาขา คือ ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ศรีนครินทร์, ศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ ลาดกระบัง และศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ สมุทรปราการ

3.Go to online

นอกจากนี้ ห้างเซ็นทรัลยังได้มีการปรับรูปแบบการขายแบบใหม่ มีบริการ ‘CENTRAL ANYTIME ANYWHERE‘ โดยปรับตามพฤติกรรมของลูกค้าที่นิยมใช้โซเชียลเน็ตเวิร์ก ด้วยการสร้าง Omni channel  เชื่อมต่อช่องทางออฟไลน์ และออนไลน์แบบไร้รอยต่อ ผ่านบริการรูปแบบต่าง ๆ เช่น www.central.co.th , ช่องทางขายผ่าน Facebook Live ที่เพจเฟซบุ๊กห้างเซ็นทรัล , Central Chat & Shop ช้อปผ่านแอปพลิเคชั่น Line ที่ @CENTRALOFFICIAL, บริการ Central Call & Shop ให้ช้อปปิ้งทางโทรศัพท์ และบริการใหม่ Drive Thru บริการรับสินค้า และชำระเงินโดยไม่ต้องลงจากรถ รวมถึงบริการ E-Ordering และบริการ Click and Collect บริการสั่งของออนไลน์ ที่สามารถมารับได้ที่หน้าร้าน

ณัฐธีรา จิราธิวัฒน์ บุญศรี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด ในเครือกลุ่มเซ็นทรัลรีเทล กล่าวว่า “การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญนี้ บริษัทฯ ได้ใช้งบประมาณกว่า 50 ล้านบาท โดยจัดสรรเป็นงบประมาณในการตกแต่ง ปรับโฉมใหม่ งบประมาณการตลาด ส่งเสริมการขาย กิจกรรม โฆษณา ประชาสัมพันธ์ ซึ่งคาดว่า หลังจากเปิดให้บริการจะสร้างยอดขายเติบโตขึ้น 20% ภายในปี 2564 นอกจากนี้ในอนาคตยังมีการปรับเปลี่ยนชื่อทั้งปรับจากเซ็นทรัลเป็นโรบินสัน และโรบินสัน เป็นเซ็นทรัลอีก 2 แห่ง”