แม้ประเทศไทยจะผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ลง แต่ต้องไม่ลืมว่าโอกาสที่จะเกิดการแพร่ระบาดระลอก 2 ยังคงมีอยู่ ตราบที่ทั่วโลกยังมีการพบผู้ป่วย COVID-19 รายใหม่เพิ่มขึ้น โดยมาตรการที่พอจะสามารถทำได้คงหนีไม่พ้นการอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ โดยเฉพาะการที่ธุรกิจกลับมาเปิดตามปกติ การปฏิบัติงานของพนักงานจึงมีความเสี่ยง ยิ่งในธุรกิจที่มีระบบคลังสินค้า พนักงานเหล่านั้นยิ่งมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น ทั้งในระบบที่ปิดและการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด
Amazon ผู้ให้บริการด้าน e-Commerce รายใหญ่แห่งหนึ่งของโลก จึงมีการเปิดตัวระบบติดตามพนักงานโดยใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อบังคับใช้มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ทั้งที่สำนักงานและคลังสินค้าเพื่อช่วยลดความเสี่ยงติดเชื้อในกลุ่มคนงาน โดยจะมีจอภาพแสดงสถานะความเสี่ยง หากเป็นวงกลมสีเขียวแสดงว่าพนักงานรักษาระยะห่าง ขณะที่วงกลมสีแดงแสดงว่าพนักงานใกล้ชิดกันเกินไป
เรียกระบบนี้ว่า Distance Assistant ด้วยการใช้กล้องวงจรปิดในอาคารคลังสินค้า เพื่อช่วยระบุพื้นที่ในคลังสินค้าที่มีความหนาแน่นของพนักงาน นอกจากนี้ยังกำลังทดสอบติดตั้งอุปกรณ์ Wearable ที่มีไฟสว่างขึ้นและเสียงเตือน เมื่อพนักงานอยู่ใกล้กันมากเกินไป ในคลังสินค้านอกเมืองซีแอตเทิล รวมถึงจัดทีมดูแลและตรวจสอบจำนวนพนักงานไม่ให้มากเกินกว่าที่กำหนด และจำนวนพนักงานที่นั่งพักผ่อนในพื้นที่ต่างๆ
อย่างไรก็ตามนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนแสดงข้อกังวลเกี่ยวกับการติดตามพนักงานอย่างละเอียด อาจเข้าข่ายละเมิดสิทธิส่วนบุคคล และยังขอให้ธุรกิจจำกัดการใช้ AI ในการสอดส่องพนักงาน ขณะที่ Amazon ชี้ว่า ยังมีการเตรียมแผนติดตั้งระบบติดตามดังกล่าวอีกหลายร้อยแห่งในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
ผู้ประกอบการไทยสามารถนำระบบดังกล่าวมาดัดแปลงเพื่อใช้ในระบบคลังสินค้าของบริษัทได้ เพื่อช่วยให้พนักงานปลอดภัยมากขึ้น และช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อแบรนด์ได้อีกด้วย
Source: SCMP