ประเด็น “ความปลอดภัย” และ “ความเป็นส่วนตัว” ถูกหยิบยกมาพูดถึงอยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะในยุคที่ไลฟ์สไตล์ของผู้คนกลายเป็น “มนุษย์ดิจิทัลเต็มตัว” ไม่ว่าจะสั่งอาหาร ชอปปิ้ง ทำงาน ทำธุรกรรมการเงิน หรือแม้แต่การยืนยันตัวตนเมื่อใช้บริการห้าง – ร้าน เพราะทุกอย่างล้วนเกิดขึ้นผ่านออนไลน์
ซึ่งวันนี้มีกระแสข่าวใหญ่เกิดขึ้น… เมื่อสื่อต่างประเทศรายงานว่า พบการข้อมูลการใช้อินเทอร์เน็ตของลูกค้า AIS รั่วไหล! กว่า 8,000 ล้านรายการ
(อ้างอิง จาก TechCrunch)
เรื่องนี้ มาจากนักวิจัยด้านความปลอดภัย “Justin Paine” ได้เล่าผ่านบล็อกของตนเอง ว่าพบฐานข้อมูลการใช้อินเทอร์เน็ตของลูกค้าเครือข่ายมือถือรายใหญ่ที่สุดของไทย ถูกเปิดให้เข้าถึงได้อย่างสาธารณะ ทั้งข้อมูลแบบ DNS (Domain Name System) ที่ทำให้รู้ IP Address ของผู้ใช้งานและปลายทางที่อุปกรณ์ต้องการเชื่อมต่อ ทั้งยังเห็น Netflow ทราฟิกจากการใช้งานแบบได้เรียลไทม์ด้วย ซึ่งเขาอ้างว่าได้แจ้งถึง AIS ให้ทราบเรื่องดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 13 พ.ค. พร้อมกับแจ้งไปยัง ThaiCERT หรือ ศูนย์ประสานการรักษาความมั่นคงปลอดภัยระบบคอมพิวเตอร์ประเทศไทยด้วย ซึ่งท้ายที่สุด…ฐานข้อมูลดังกล่าวก็ถูกปิดการเข้าถึงไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม Marketing Oops! ได้สอบถามไปยัง AIS ถึงประเด็นดังกล่าว และได้รับคำชี้แจงว่า…
“AIS ยืนยัน ไม่มีข้อมูลส่วนบุคคลลูกค้ารั่วไหลตามที่เป็นข่าว
คุณสายชล ทรัพย์มากอุดม หัวหน้าสายงานประชาสัมพันธ์ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “จากการรายงานข่าวในต่างประเทศเกี่ยวกับการรั่วไหลของข้อมูลลูกค้า AIS นั้น บริษัทฯ ขอเรียนว่า ข้อมูลดังกล่าวไม่ใช่ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าแต่เป็นข้อมูลเกี่ยวกับการใช้งานอินเตอร์เน็ตในภาพรวมบางส่วน และไม่ใช่ข้อมูลที่สามารถก่อให้เกิดความเสียหายด้านการเงินหรือด้านอื่น ๆ โดยกรณีนี้เกิดจากการทดสอบเพื่อปรับปรุงคุณภาพเครือข่ายที่มีขึ้นในเดือนพฤษภาคม และภารกิจดังกล่าวได้ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว โดยขอยืนยันอีกครั้งว่า ไม่มีลูกค้ารายใดได้รับผลกระทบทั้งด้านการเงินและด้านอื่น ๆ อย่างแน่นอน”
ทั้งนี้ขอเรียนว่า AIS ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า ที่ผ่านมา เรามีการปฏิบัติตามและทบทวนขั้นตอนการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุดตามมาตรฐานระดับสากล อย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ต้องขออภัยที่อาจทำให้ลูกค้าเป็นกังวลใจจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งขณะนี้ AIS ได้แก้ไขปรับปรุงขั้นตอนการใช้ข้อมูลเพื่อทดสอบบริการเรียบร้อยแล้ว โดยท้ายที่สุดนี้ ขอให้ลูกค้าและประชาชนโปรดมั่นใจและเชื่อมั่นในมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยที่บริษัทฯ ดำเนินการมาโดยตลอด”