Insights “ร้านทำผม” สำคัญกับคนไทยอย่างไร ? และ Now Normal ธุรกิจซาลอนนับจากนี้

ซาลอน หรือ ร้านเสริมสวย เป็นบริการที่อยู่คู่กับคนทั่วโลกมายาวนานหลายร้อยปี เรียกได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตของคนทุกวัยไปแล้ว ไม่ว่าจะบริการสระผม ตัด ดัด ย้อมสีผม ไปจนถึงบำรุงผม และจัดแต่งทรงผม

แต่แล้วใครเลยจะคิดว่าวันหนึ่ง ธุรกิจซาลอนในหลายประเทศทั่วโลก รวมทั้งไทยด้วยนั้น จะต้องปิดให้บริการชั่วคราว เนื่องจากอยู่ภายใต้มาตรการ Lockdown อันเป็นผลมาจากการแพร่ระบาดของ “COVID-19”

สิ่งที่ตามมาคือ การทำผมที่ไม่ยาก หรือไม่ซับซ้อนมากนัก เช่น ย้อมสีผม ปิดผมขาว หรือตัดแต่งผมให้สั้นลง หลายคนต้องให้คนใกล้ตัวช่วยทำให้ หรือตัวเองฝึกสกิลทำผมเอง หรือบางคนหันไปใช้บริการเรียกช่างทำผม มาทำให้ถึงบ้าน แต่ที่สุดแล้ว Insight ของผู้บริโภคอยากกลับไปใช้บริการที่ร้านซาลอนมากกว่า

วันนี้หลายประเทศเริ่มผ่อนคลายมาตรการ Lockdown ทำให้หลายธุรกิจกลับมาให้บริการแล้ว หนึ่งในนั้นคือ “ร้านทำผม” รวมทั้งประเทศไทยเช่นกัน ซึ่งมาตรการภาครัฐของไทย กำหนดให้ร้านทำผมให้บริการเฉพาะบางรายการเท่านั้น เช่น ตัด สระ ไดร์ แต่ยังไม่อนุญาตให้บริการทำสีผม – ดัดผม

ตลอดระยะเวลากว่า 1 เดือนที่ร้านทำผมในไทยต้องปิดให้บริการชั่วคราว ทำให้ผู้บริโภคห่างหายไปจากการใช้บริการที่ร้าน ผู้บริโภครู้สึกขาดความมั่นใจในตัวเอง และเห็นถึงความสำคัญของร้านทำผม และช่างทำผมมากขึ้นว่าการไปทำผมที่ร้าน จากช่างทำผมจริงๆ นั้น ช่วยส่งเสริมบุคลิก และความมั่นใจในการดำเนินชีวิตประจำวัน

คนไทย เห็นถึงความจำเป็นของ “ร้านทำผม” เพราะช่วยสร้างความมั่นใจ!

ข้อมูลจาก “สำนักงานสถิติแห่งชาติ” ระบุว่า ประเทศไทยมีร้านเสริมสวย หรือร้านทำผม (Salon) กว่า 120,000 ร้านทั่วประเทศ คิดเป็นมูลค่าตลาดกว่า 60,000 ล้านบาท ในขณะที่บริการที่ทำรายได้หลักให้กับร้านเสริมสวย 70% มาจากบริการทำสี – ดัดผม

ขณะเดียวกัน “ลอรีอัล ประเทศไทย” (L’Oréal Thailand) ทำสำรวจความต้องการและความมั่นใจในการใช้บริการร้านตัดผมเสริมสวยในช่วงสถานการณ์ COVID-19 จำนวนผู้ตอบแบบสอบถาม 1,060 คน (สำรวจระหว่างวันที่ 30 เมษายน – 4 พฤษภาคม 2563) พบข้อมูลที่น่าสนใจดังนี้

85% ของผู้เข้าร่วมตอบแบบสำรวจรู้สึกถึงความจำเป็นในการใช้บริการทำผมที่ร้านในช่วง Lockdown

70% รู้สึกว่าการที่ไม่สามารถรับบริการจากช่างผมได้นั้น ส่งผลกระทบต่อทั้งทางสุขภาวะและความมั่นใจของตนเอง

40% ของผู้ชาย รู้สึกว่าการที่ไม่สามารถรับบริการจากช่างผมได้นั้น ส่งผลกระทบต่อทั้งทางสุขภาวะและความมั่นใจของตนเองอย่างมาก

38% ต้องการทำสี และไฮไลท์ผมมากที่สุด

27% ต้องการดัดผม หลังร้านเปิดให้บริการเต็มรูปแบบ

41% รู้สึกมั่นใจที่จะใช้บริการตัดผมเสริมสวยอีกครั้ง

78% จะกลับไปใช้บริการภายในสัปดาห์แรกทันที ในขณะที่อีกส่วนยังคงรอการเปิดบริการเต็มรูปแบบ

44% จะไปใช้บริการพิเศษทันทีที่ร้านเปิดให้บริการเต็มรูปแบบ

2 ใน 3 เชื่อว่าร้านที่ใช้บริการเป็นประจำจะสามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดได้อย่างถูกต้อง แต่ในขณะเดียวกันก็ยังมีผู้ที่แสดงความไม่มั่นใจ และต้องการการสื่อสารถึงมาตรการที่ชัดเจน

“จาก Data ในอินเทอรเน็ตพบว่า มีการพูดถึงความต้องการใช้บริการกับช่างผมมืออาชีพเยอะมาก ถึงแม้ในช่วงที่ร้านทำผมปิดชั่วคราว หลายคนต้องทำสีผมเองที่บ้าน แต่ส่วนใหญ่บอกว่าอยากกลับไปใช้บริการที่ซาลอนมากกว่า เพราะความรู้สึกเวลาที่ตัวเราเองได้เปลี่ยนทรงผม ทำสีผม เปลี่ยนลุคจากช่างทำผมมืออาชีพ ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจ และทำให้รู้สึกดีกับตัวเอง”

Now Normal ธุรกิจซาลอน

ไม่ใช่ New Normal แต่จะเป็น “Now Normal” ที่ปัจจุบันได้กลายเป็นสิ่งปกติที่ผู้ประกอบการร้านทำผม และลูกค้าต้องทำ นั่นคือ

1. “สุขอนามัย” และ “Social Distancing” สิ่งสำคัญลำดับแรกของ “ธุรกิจซาลอน”

ที่ผ่านมาก่อนเกิด COVID-19 ร้านทำผมให้ความสำคัญกับความสะอาดอยู่แล้ว แต่การเกิดขึ้นของ COVID-19 การดูแลความสะอาด และสุขอนามัย ของทั้งพนักงาน และลูกค้าจะยิ่งเข้มข้นขึ้น

เช่น พนักงานต้องใส่หน้ากากอนามัย และ Face Shield ตลอดเวลา รวมทั้งลูกค้าต้องใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาเช่นกัน, ทางร้านควบคุมจำนวนผู้ใช้บริการภายในร้าน, เว้นระยะห่างระหว่างเก้าอี้ตัดผม, หมั่นทำความสะอาดอุปกรณ์ต่างๆ

2. เทคโนโลยีจะมีบทบาทในธุรกิจซาลอนมากขึ้น

ต่อไปจะเห็นธุรกิจซาลอน นำเทคโนโลยี Integrate กับการให้บริการลูกค้ามากขึ้น เช่น

– จองคิวใช้บริการ และช่างทำผม ด้วย Online Booking จากเดิมส่วนใหญ่ใช้วิธีโทรจอง หรือจองผ่านแอปฯ แชทของทางร้าน

– e-Payment จะมีบทบาทมากขึ้น

– เพิ่มทักษะอาชีพ ผ่าน Live Streaming สร้างโอกาสร้านทำผมทั่วประเทศเข้าถึงความรู้ และ Upskill

เช่น ลอรีอัล ประเทศไทยได้ปรับรูปแบบช่องทางการให้ความรู้ช่างเสริมสวย หรือช่างทำผม ผ่านทาง Live Streaming ไม่ว่าจะเป็นสอนเทคนิคการทำสีผม ฟอกผม หรือความรู้ด้านธุรกิจ ด้วยการใช้ Digital Marketing และ Digital Channel ในการโปรโมทธุรกิจร้านของตัวเอง

การใช้ช่องทางออนไลน์ ในการ Upskill ผู้ประกอบการ และช่างทำผม ช่วยเพิ่มการเข้าถึงร้านเสริมสวยทั่วประเทศ ได้ทั้งร้านใหญ่ จนถึงร้านขนาดเล็ก