‘ประเทศไทย’ ยังเป็นหนึ่งใน destination สำคัญของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกติดต่อกันมาหลายปีซ้อน โดยส่วนใหญ่ประเทศที่เดินทางเข้ามาเยี่ยมเยือนไทยมากที่สุดตลอดช่วง 5 ปีที่ผ่านมา หนึ่งในนั้นก็คือ ‘สหรัฐอเมริกา’ ดังนั้น ผลการสำรวจความคิดเห็นจาก ‘Mower’ ผู้ให้บริการด้านการสื่อสารทางการตลาด ทั้งผู้บริโภค ภาคธุรกิจ และ PR ในนครนิวยอร์ก มีความน่าสนใจเพราะการรับรู้ความคิดเห็นจากผู้บริโภคโดยตรง จะทำให้ภาคธุรกิจสามารถวางแผน และออกแบบกลยุทธ์ทางการตลาดล่วงหน้าได้ง่ายขึ้น
แม้ว่าในวันนี้ (14 พ.ค.63) จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัส COVID-19 ในสหรัฐฯ ยังคงเพิ่มสูงที่สุดในโลกทะลุถึง 1.42 ล้านคน แต่ผู้เชี่ยวชาญกลับมองว่า ประเทศนั้นๆ ที่เผชิญหน้ากับการระบาดในระยะเวลาที่ค่อนข้างนาน และรุนแรงมาก จะยิ่งกระตุ้นดีมานด์ของผู้บริโภคให้สูงปรี๊ดแบบปรอทแตก หลังจากที่ผ่านพ้นช่วงวิกฤตไปได้แบบสมบูรณ์วางใจได้
ไม่ว่าจะเป็นการซื้อสินค้าหลายๆ ประเภทที่ไม่สามารถใช้จ่ายได้ในช่วงที่ต้องรัดเข็มขัดการเงินตัวเอง ซึ่งก็รวมไปถึง ‘ภาคการท่องเที่ยว’ ที่ประเมินว่า ดีมานด์จะพุ่งทะยานแบบฉุดไม่อยู่แน่ๆ
ทั้งนี้ การสำรวจของ Mower ล่าสุด กับชาวอเมริกัน 1,000 คนที่ทำการสอบถาม พบว่า ชาวอเมริกาส่วนใหญ่ยืนยันว่า “จะยังเดินทางท่องเที่ยวแน่นอน แต่อาจรอดูสถานการณ์ช่วง Post COVID ราว 2 เดือนถึงจะวางใจ” และกลับไปทำกิจกรรมตามเดิมที่เคยทำมาก่อนหน้านี้
โดย 73% ของคนอเมริกัน 1,000 คนเลือกที่จะเดินทางท่องเที่ยวโดยรถยนต์ก่อน, เกิน 50% เลือกที่จะบินภายในประเทศเพื่อพักผ่อน และอีก 42% พวกเขาเลือกที่จะเดินทางท่องเที่ยวในต่างประเทศ (ซึ่งเกินครึ่งหนึ่งของคนที่เลือกข้อนี้ สนใจที่จะมาภูมิภาคเอเชีย และบางคนระบุว่าต้องการมา ไทย, เวียดนาม และบาหลี) ทั้งนี้ข้อมูลส่วนหนึ่งมาจาก Airbnb ในการเก็บรวบรวมพฤติกรรมของชาวอเมริกันในการเข้า ‘ค้นหา’ ในช่วงที่เกิดการระบาดนี้
28% ของชาวอเมริกัน พร้อมเดินทางทันทีหลัง COVID-19 สาบสูญ!
ยังมีกลุ่มชาวอเมริกันจำนวนหนึ่งราว 28% ที่ระบุว่า จะเดินทางท่องเที่ยว ‘ทันที’ ที่ปลดล็อกมาตรการล็อกดาวน์ หรือสถานการณ์ COVID-19 ดีขึ้น ขณะที่ 18% จะใช้เวลากับการเปลี่ยนบรรยากาศมานอนที่โรงแรม และ 15% เลือกที่จะไปผ่อนคลายแบบอื่น เช่น เที่ยวสวนสนุก เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ในการสำรวจครั้งนี้ ก็มีชาวอเมริกันถึง 22% ที่ยืนยันว่า ยังไม่พร้อมเดินทางท่องเที่ยวในต่างประเทศภายในปีนี้ ซึ่งคาดว่าเหตุปัจจัยหลักๆ น่าจะมาจากงบประมาณการใช้จ่ายส่วนตัว มากกว่าความเชื่อมั่นของประเทศปลายทางนั้นๆ สำหรับการรับมือกับ COVID-19
ผู้บริหารสายการบินเตือน อุตสาหกรรมการบินฟื้นตัวอีก 3 ปี
นับตั้งแต่เดือน ก.พ.ที่ผ่านมา สายการบินหลายๆ แห่งในสหรัฐฯ และอีกหลายประเทศมองว่า อุตสาหกรรมการบินน่าจะใช้เวลาในการฟื้นตัวที่นานกว่าอุตสาหกรรมอื่น เพราะเจ็บหนักสุด! maximum อาจถึง 3 ปีทีเดียวกว่าที่จะหายใจพ้นน้ำได้
ขณะเดียวกัน ผู้เชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยว และโรงแรม รวมไปถึงภาคธุรกิจบริการอื่นๆ มองว่า ในหลายๆ ประเทศภาคธุรกิจเหล่านี้เริ่มส่งสัญญาณว่าจะฟื้นตัวได้ภายในปีนี้ และย้ำว่าพฤติกรรม New Normal เป็นการคาดคะเนกระแสว่าอาจจะเกิดขึ้น แต่ไม่สามารถฟันธงได้ว่าจะเป็นหรือเปลี่ยนไปอย่างถาวร
ทั้งนี้ แม้ว่าสถานการณ์ในสหรัฐฯ อาจยังต้องใช้เวลาในการพลิกฟื้น และควบคุมที่นานกว่านี้ ด้วยตัวเลขผู้ติดเชื้อยังสูงมาก แต่การสำรวจในครั้งนี้อย่างน้อยๆ ก็ทำให้ผู้ประกอบการหลายๆ อุตสาหกรรมเข้าใจ และรับรู้มุมมองความคิดของผู้บริโภคที่อยากจะทำหลังจากนี้ ดังนั้น กลับมาที่ไทยของเรา พร้อมมั้ย?
ที่มา : adweek
