มาตรการล็อกดาวน์ หรือ ปิดประเทศ เหมือนที่หลายๆ ประเทศได้ประกาศใช้มาแล้ว ในช่วงที่มีการระบาด COVID-19 นอกจากจะทำให้เกิดความเบื่อหน่าย จนต้องมีกิจกรรมคลายเครียดออกมาไม่เว้นในแต่ละวัน แต่รู้หรือไม่ว่า ในญี่ปุ่นมาตรการนี้กำลังสั่นคลอนความสัมพันธ์ของคู่รักมากขึ้น
มีรายงานว่า ก่อนที่รัฐบาลญี่ปุ่นจะประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์อีกครั้ง เมื่อวันที่ 16 เม.ย.ที่ผ่านมา กระแสในสื่อโซเชียลของญี่ปุ่น ได้เกิดปรากฏการณ์ Hot Issue ขึ้นเรื่องหนึ่ง นั่นก็คือ “หัวข้อเกี่ยวกับการทะเลาะวิวาทกับแฟน” หรือ แฮชแท็กเป็นภาษาญี่ปุ่นว่า #coronarikon ซึ่งหมายถึง “การหย่าร้างในช่วงโคโรนา”
ตัวอย่างจาก ผู้ใช้ทวีตเตอร์รายหนึ่งได้ทวีตข้อความว่า “สามีของฉันเดินทางไปกรุงโตเกียวตอนกลางด้วยรถไฟ แต่เขาไม่ล้างมือ ไม่สวมหน้ากาก ไม่ทำสิ่งที่ควรป้องกันอย่างจริงจัง เหมือนเด็กๆ ที่ไม่รู้จักโต”
ส่วนอีกรายหนึ่งพูดว่า “สามีฉันขาดความรอบคอบและเร่งด่วน ทำอะไรไม่รัดกุม ฉันรู้สึกเบื่อหน่าย และไม่ต้องการอยู่กับคนแบบนี้”
ดังนั้น ลองจินตนาการดูว่าหลังจากที่รัฐบาลประกาศล็อกดาวน์อีกครั้ง ความน่าอึดอัดใจจะมากขึ้นเป็นทวีคูณ เพราะนั่นหมายถึง ต่อจากนี้พวกเขาต้องใช้ชีวิตร่วมกันตลอด 24 ชั่วโมง เป็นเวลานานร่วมเดือน หรืออาจจะมากกว่านั้นจนกว่าสถานการณ์ COVID-19 จะดีขึ้น
นักวิเคราะห์จากบริษัทให้คำปรึกษาเกี่ยวกับสถาบันครอบครัวในญี่ปุ่น กล่าวว่า คู่รักในญี่ปุ่นสมัยใหม่ค่อนข้างมีความสันโดษมากขึ้นกว่าสมัยก่อน อีกทั้งเครียดง่าย และทะเลาะเบาะแว้งสูง ดังนั้น การที่พวกเขาต้องอยู่ด้วยกันตลอดเวลา จึงอาจกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้คู่รักญี่ปุ่น “หย่าร้าง” ได้ในที่สุด
เปิดบริการ ‘บ้านพัก(ใจ)’ แก้ปัญหาทะเลาะ–หย่าร้าง
แม้ว่าญี่ปุ่นจะไม่ใช่ประเทศที่มีอัตราการหย่าร้างสูง เมื่อเทียบกับอีกหลายประเทศทั่วโลก แต่ในสังคมสมัยใหม่ถือว่า ญี่ปุ่นนอกจากจะเข้าสู่ประเทศสูงวัย ยังควบคู่ไปกับประเทศที่มีอัตราการแต่งงานน้อย และ อัตราการเกิดจึงน้อยตาม
ดังนั้น บริการใหม่ที่ว่านี้เข้าใจธรรมชาติของคนญี่ปุ่น Gen ใหม่เป็นอย่างดี โดย Kasoku บริษัทผู้จัดหาที่พักในญี่ปุ่น ได้ออกไอเดียเพื่อแก้ปัญหาการหย่าร้างให้น้อยที่สุด ในช่วงที่มีการระบาดของไวรัสอย่างหนัก จึงทำให้เกิดวลีเด็ดในโลกโซเชียลที่ว่า “corona divorce” ซึ่งมาจากแคมเปญของบริษัท คือ “Please consult with us before thinking about corona divorce” เป็นคำเชิญชวนให้เข้ามาปรึกษาบริษัทก่อนที่จะตัดสินใจดำเนินการหย่าร้างในช่วงนี้
โฆษกของบริษัท ‘Kosuke Amano’ อธิบายว่า ในเมื่อสาเหตุหลักๆ คือคนอยู่ด้วยกันนานเกินไป การหลีกเลี่ยงการหย่าร้างได้ ก็คือ ต้องแยกกันอยู่ชั่วคราว
โดยแคมเปญนี้ เราได้เสนอที่พักพิงชั่วคราว เรียกว่าเป็นบ้านพักใจกันในระยะหนึ่ง ในราคา 4,400 เยนต่อคืน (ราว 1,330 บาท) หรือแบบรายเดือนก็คือในราคา 90,000 เยน (ราว 28,000 บาท)
ทั้งนี้ บริษัทมีบ้านพักใจชั่วคราวทั้งหมด 500 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในกรุงโตเกียว และเมืองอื่น เช่น โอซากา, เกียวโต และฟุกุโอกะ
พูดง่ายๆ ก็คือ บริษัทเห็นโอกาสจากการท่องเที่ยวที่ชะลอตัวลงในช่วงที่เกิดวิกฤตนี้ และหันมาปรับโมเดลธุรกิจ(ชั่วคราว) ดังที่ออกแคมเปญนี้นั่นเอง
สำหรับมุมของการหย่าร้างในญี่ปุ่น ‘Eri Mizutani’ ทนายความประจำบริษัทที่ให้บริการจัดการเรื่องคดีฟ้องหย่า พูดว่า ตั้งแต่ต้นเดือน เม.ย. เห็นได้ชัดว่ามีคนเข้ามาขอคำปรึกษาทางออนไลน์กับเรา เรื่องการหย่าร้าง ส่วนใหญ่สาเหตุเกิดจากความอึดอัดใจเมื่อได้อยู่กับคนรักนานๆ จนไปถึง ทะเลาะกันจนถึงขั้นตบตี
ดังนั้นพูดได้ว่า การระบาดของไวรัสสร้างความเครียดให้กับคนญี่ปุ่นมากขึ้น จึงทำให้ปัญหาการทะเลาะกันของคู่รัก มีความรุนแรงขึ้นตามมาด้วย
ที่มา : japantimes
Related posts:
ส่องไอเดีย ‘บุฟเฟ่ต์ไม่จำกัดเวลา’ ที่ Starbucks Reserve ในญี่ปุ่น ทานไม่อั้นจนกว่าจะพอใจ!
เปิดไอเดีย McDonald’s ญี่ปุ่นกับ ‘เบอร์เกอร์สี่เหลี่ยม’ กับกระดาษห่อลายการ์ตูนอเมริกัน ชวนให้นึกถึงเวลาดีๆ ในนิวยอร์ก
ขยายต่อไม่รอแล้วนะ! Muji Kitchen เปิดบริการครั้งแรกในญี่ปุ่น ทดลองตลาดอาหารพร้อมทาน – ปรุงสุกใหม่
งานเข้า ‘Uniqlo’ เตรียมปิดตัวสาขาใหญ่สุดในเกาหลีใต้ เพราะกระแส boycott เป็นเหตุ แถม COVID-19 ไม่จบสักที!
ล้ำไปอีก! ตามเทรนด์ Contactless ‘7-Eleven’ ในญี่ปุ่น เตรียมขายประกัน 24 ชั่วโมง รับกระแส New Norm!
วิกฤตนี้อีกนาน ‘โบอิ้ง’ เคาะ! เตรียมปลดพนักงานกว่า 12,000 คนปีนี้ พร้อมส่งสัญญาณปลดคนเพิ่มอีกหลายพันรอบ 2
