นับตั้งแต่เดือน ม.ค.ที่ผ่านมา เกิดปรากฏการณ์สายการบินต่างๆ ทั่วโลกต่างพร้อมใจกันประกาศมาตรการ ‘ลดค่าใช้จ่าย’ กันนับไม่ถ้วน เหตุก็เพราะการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ทำให้การเดินทางทั่วโลกเป็นอัมพาต
คราวนี้ถึงครา ‘บริติช แอร์เวย์ส’ (British Airways) สายการบินรายใหญ่ของสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นรายล่าสุดที่ประกาศแผนปรับโครงสร้างบริษัทอย่างเป็นทางการ นั่นก็คือ ‘การปลดพนักงาน’ และอาจเป็นตัวเลขสูงถึง 12,000 คนเลยก็ว่าได้ โดยคิดเป็น 1 ใน 4 ของพนักงานทั้งหมดที่มีอยู่ในปัจจุบัน อยู่ที่ 42,000 คน
ทั้งนี้ ทางบริษัทแม่ของสายการบินนี้ ‘International Airlines Group-IAG’ เปิดเผยผลประกอบการเมื่อวันที่ 28 เม.ย.ที่ผ่านมา ว่าในไตรมาส 1/2020 (เดือน ม.ค. – มี.ค.) บริษัทขาดทุนจากการดำเนินการมากถึง 535 ล้านยูโร (ราว 18,811 ล้านบาท) เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปี 2019 บริษัทมีกำไร 135 ล้านยูโร (ราว 4,746 บาท) ส่วนหนึ่งมาจากราคาน้ำมันที่ปรับลดลงอย่างรุนแรงด้วย
ขณะเดียวกัน IAG ประเมินล่วงหน้าไว้ว่า ผลประกอบการในไตรมาสที่ 2/2020 จะยังคงแย่เหมือนเดิม หรืออาจจะแย่ลงกว่าเดิมด้วยซ้ำ เพราะการระบาดยังไม่มีทีท่าว่าจะยุติได้ หรือหากควบคุมได้ผู้คนก็ยังไม่พร้อมที่จะเดินทาง จนกว่าจะมีวัคซีนที่ช่วยต้านไวรัสอย่างชัดเจน
ในแถลงการณ์ระบุว่าด้วย “ในช่วงเดือน เม.ย. ถึง พ.ค. คาดว่าผู้โดยสารของสายการบินจะหายไปถึง 94% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่มีบางเที่ยวบินที่ยังให้บริการเมื่อจำเป็นเท่านั้น เช่น การขนย้ายคนที่ติดค้าง และ ช่วยรัฐบาลเคลื่อนย้ายสิ่งของจำเป็นเท่านั้น”
ทั้งนี้ ขณะนี้บริษัท IAG อยู่ในระหว่างการแจ้งแผนการลดตำแหน่งงานต่อรัฐบาลอังกฤษ หลังจากนั้น จะเข้าสู่กระบวนการปรึกษากับสหภาพแรงงาน เพราะมีพนักงานที่จะได้รับผลกระทบเป็นจำนวนมาก
ในแถลงการณ์ ยังพูดถึงการฟื้นตัวหลังจากที่การระบาด COVID-19 จบลงว่า ต้องใช่เวลาหลายปีมากกว่าที่สายการบินจะกลับมาแข็งแกร่งได้อีกครั้ง หรือ ดำเนินการได้เท่ากับในปี 2019
ที่มา : nhk