สถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ยังคงปั่นป่วนไปทั่วโลกกว่า 210 ประเทศ ระดับความรุนแรงที่ไร้ขอบเขตชัดเจน ส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลกอยู่ในระดับวิกฤต ขณะที่ตัวเลข ณ วันที่ 15 เม.ย. 63 จำนวนผู้ติดเชื้อได้ทะลุเกิน 2 ล้านคนเป็นครั้งแรก
ในวินาทีนี้ ท่ามกลางสถานการณ์แบบนี้ สิ่งที่ทำได้ดีที่สุดก็คือ การช่วยเหลือซึ่งกันและกัน อย่างที่เราเห็นมาตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา เพื่อนร่วมโลกที่ร่วมชะตาเดียวกันต่างหยิบยื่นความช่วยเหลือให้กัน อย่างภาคเอกชนของไทยและต่างประเทศหลายๆ แห่ง ที่ร่วมสนับสนุนทั้งเครื่องมือแพทย์ สิ่งของจำเป็นต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น หน้ากากอนามัย, แอลกอฮอล์, ชุด PPE และ หน้ากากป้องกันใบหน้า (Face Shield) ก็เพื่อช่วยกันให้ผ่านพ้นเรื่องนี้โดยเร็วที่สุด
อย่าง ‘ไทยยูเนี่ยน’ ที่เป็นอีกหนึ่งกระบอกเสียงที่ตระหนักถึงความสำคัญในเรื่องนี้เช่นกัน ในฐานะที่เป็นบริษัทที่ใส่ใจ และให้ความสำคัญกับความยั่งยืนมาตลอด โดยเชื่อมั่นว่าความยั่งยืนที่ก่อเกิดประโยชน์นั้นจะต้องมี Sustainability ในทุกๆ กระบวนการตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ
ด้วยความที่ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ร่วมก่อตั้งมูลนิธิเพื่อความยั่งยืนของอาหารทะเลสากล (International Seafood Sustainability Foundation: ISSF) และยังได้รับการยกย่องให้เป็นผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ปลาทูน่ารายใหญ่ที่สุดของโลก ทั้งหมดนี้ก็เพราะการยึดหลักแนวคิดและกลยุทธ์ด้านความยั่งยืน SeaChange® ที่เป็นหัวใจสำคัญของบริษัท ซึ่งเป็นผู้นำธุรกิจอาหารทะเลของโลกที่ส่งมอบผลิตภัณฑ์อาหารทะเลที่มีนวัตกรรม รสชาติดี มีประโยชน์ต่อสุขภาพ และมีคุณภาพสูงให้กับผู้บริโภคทั่วโลกมาเป็นเวลากว่า 40 ปี ควบคู่ไปกับความใส่ใจด้านความยั่งยืนของท้องทะเลด้วย
นอกจากนี้ ยังสนับสนุน และเคารพกฎการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนสากล (International Bill of Human Rights) ทั้งยังเคยคว้ารางวัลการจัดหาแรงงานข้ามชาติอย่างมีจริยธรรม และสิทธิของแรงงานข้ามชาติ รวมถึงได้รับคำชื่นชมถึงแนวคิดการต่อต้านแรงงานทาสยุคใหม่ จากการตัดสินรางวัล Stop Slavery Award ของมูลนิธิ ธอมป์สัน รอยเตอร์ส
ดังนั้น ด้วยสถานการณ์การระบาดนี้ ไทย เองก็เป็นหนึ่งในประเทศกลุ่มเสี่ยงที่กำลังเผชิญหน้า ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ความพยายามทั้งจากภาครัฐ เอกชน และระดับประชาชน ยังคงดำเนินต่อไปอย่างไร้คำตอบชัดเจนว่า วิกฤตนี้จะยืดเยื้อนานแค่ไหน จบลงเมื่อไหร่ และฟ้าหลังฝนนั้นจะสดใสเหมือนเดิมหรือไม่ ไทยยูเนี่ยน จึงเชื่อว่า คำตอบบนความสงสัยเหล่านี้จะเกิดได้เร็วขึ้น หากเราทุกคนช่วยกันคนละม้ายคนละมือ
ทั้งนี้ ไทยยูเนี่ยนได้ร่วมมือกับ ครีเอทีฟรุ่นใหม่ Youngster Bangkok เชิญชวนให้คนไทยทั้ง 66 ล้านคนผนึกกำลังกัน ช่วยกันติดตามข่าวสาร และสถานการณ์ต่างๆ อย่างมีสติ พร้อมหยิบยื่นน้ำใจให้กัน คนที่มีแบ่งปันให้คนที่ขาด
ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม ทั้งร่วมด้วยช่วยกันอยู่แต่บ้าน #stayhometogether หรืออยู่บ้านแบบคูลๆ ‘stay home stay health’ ทั้งพร้อมใจกันส่งแรงสนับสนุนและให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกคน ที่เป็นด่านแรกที่รับมือต่อสู้กับ COVID-19 แทนเราทุกคน
หรือแม้แต่การช่วยกันให้กำลังใจคนที่หายป่วยให้หายดีทั้งกายและสภาพจิตใจ รวมถึงการแบ่งปันให้คนอื่นที่เดือดร้อนกว่า เพราะนั้นก็คือ หนทางรอดที่ยั่งยืนอีกอย่างหนึ่ง ไม่ว่าใครจะตกอยู่ในสถานการณ์ใดก็ตาม การหยิบยื่นน้ำใจให้กัน นั่นถือว่าเป็น ‘ภูมิต้านทานที่ดีที่สุดของคนไทย’ และเชื่อว่า น้ำใจ คือ เสน่ห์ของคนไทยที่มีอยู่แล้ว
ดังนั้น ความกลัวที่เกิดจากความไม่รู้ สามารถลดทอนลงได้ แค่เราช่วยกัน เพื่ออนาคตของประเทศที่ดีขึ้นกว่าเดิม
รายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Thai Union Global
