ในสภาวะของการระบาดของ Coronavirus ยังรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะที่สหรัฐอเมริกา จนขณะนี้ยอดผู้ติดเชื้อพุ่งสูงที่สุดในโลกที่ 399,667 คน (วันที่ 8 เม.ย. 63) ขณะที่หลายๆ เมืองในรัฐต่างๆ แทบจะไม่มีใครออกมานอกบ้าน หรือขับรถออกไปไหนต่อไหน ดังนั้น 2 บริษัทประกันภัยรถยนต์ของสหรัฐฯ มีประกาศความช่วยเหลือล่าสุดเกี่ยวกับนโยบาย ‘คืนค่าเบี้ยประกัน’ บางส่วนให้กับลูกค้าในช่วง 2 เดือนข้างหน้านี้ (เม.ย. กับ พ.ค.)
‘Allstate’ บริษัทประกันรถยนต์ชื่อดังของสหรัฐฯ ประกาศโปรแกรม ‘Shelter-in-Place Payback’ ซึ่งเป็นการคืนค่าเบี้ยประกันให้ลูกค้า 15% จากค่าเบี้ยทั้งหมด โดยคิดเป็นมูลค่ารวมทั้งหมด 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 19,704 ล้านบาท) โดยลูกค้าจะสามารถเลือกที่จะรับเงินผ่านช่องทางที่สะดวก ทั้งผ่านทางบัตรเครดิต, บัญชีธนาคาร และ บัญชี Allstate ขณะที่โปรแกรมดังกล่าวนี้ จะครอบคลุมลูกค้าที่อยู่ในสหรัฐฯ และแคนาดา*
ทอม วิลสัน (Tom Wilson) ประธานและซีอีโอ ของ การAllstate พูดว่า “โปรแกรมดังกล่าวนี้ถือว่าเป็นความช่วยเหลืออย่างหนึ่งให้แก่ลูกค้า เป็นความยุติธรรมสำหรับลูกค้า เพราะช่วงที่มีการแพร่ระบาด COVID-19 แทบไม่มีใครขับรถหรือเดินทางออกนอกบ้าน ดังนั้น อุบัติเหตุก็น้อยลงตามมาด้วย”
และอีกบริษัทประกันรถยนต์ ‘American Family Insurance’ ซึ่งในบริการทั้งหมดใน 19 รัฐในสหรัฐฯ เท่านั้น ได้ประกาศนโยบายคืนค่าเบี้ยประกันให้กับลูกค้าเช่นเดียวกัน โดยบริษัทจะจ่ายค่าเบี้ยประกันคืนให้กับลูกค้า มูลค่า 50 ดอลลาร์สหรัฐ/คัน (ราว 1,641 บาท) คิดเป็นมูลค่าทั้งหมด 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 6,564 ล้านบาท)
มาตรการเยียวยาจากทั้ง 2 บริษัทประกันภัยรถยนต์ เรียกว่าเป็นการช่วยเหลือชาวอเมริกัน ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ยังตึงตัว จากการระบาดของ COVID-19 จนกระทบต่อชีวิตการทำงาน โดยสำนักสถิติของสหรัฐฯ ยืนยันว่า ขณะนี้มีชาวอเมริกันกว่า 10 ล้านคนที่ยื่นขอประกันว่างงานในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา