หลายคนไม่เคยรู้ว่า แต่ละพื้นที่บนเว็บเพจหน้าหนึ่งๆนั้น ดึงดูดสายตาคนได้ต่างกันอย่างมาก และตัวอย่างที่น่าสนใจศึกษาเว็บหนึ่งก็คือ facebook ที่เพิ่งเปลี่ยนจากแบบเดิมมาเป็นแบบ Timeline มาไม่กี่เดือน
บริษัทวิจัยพฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ของผู้ใช้ ที่ชื่อว่า Eyetrackshop จัดให้ผู้ใช้เฟซบุ๊คกลุ่มตัวอย่าง 30 คน มาลองเปิดดู fanpage เดียวกัน แต่คนละดีไซน์ เทียบระหว่างดีไซน์เดิม และแบบ Timeline ได้ผลลัพธ์ที่คล้ายๆกันในแต่ละหน้าแฟนเพจ …
^ Page แรกในการทดลองนี้เป็นรายการทีวีชื่อดังของอเมริกา “Good Morning America” … จุดสีแดงคือจุดที่สายตาผู้อ่านสนใจจ้องกันมากและมองนาน รองลงมาคือสีเหลือง ส่วนเขียวคือมองกันน้อย มองไม่นาน นอกจากนั้นคือกวาดตาผ่านไป
จะเห็นว่าในแบบ Timeline นั้น ตัวรูป Cover Photo ขนาดใหญ่ ดึงความสนใจไปเกือบหมด และโฆษณาด้านข้างก็ไม่ค่อยได้รับความสนใจเท่าดีไซน์เดิม นอกจากนั้นโพสต์ด่างๆด้านล่างก็ถูกมองถูกอ่านลดน้อยลงมากเมื่อเทียบกับแบบเดิมด้วย
^หลังจากให้ดูหน้าแฟนเพจแล้ว ทีมงานให้ผู้อ่านละสายตามาตอบคำถามถึงการรับรู้และจำส่วนต่างๆในหน้าที่ตัวเองดูไป ผลลัพธ์ที่น่าสนใจคือในดีไซน์เดิมนั้น ผู้ชม 85% รู้และจำได้ว่ามีโฆษณาอยู่ทางขวา แต่ในดีไซน์ใหม่อย่าง Timeline นั้น มีกลุ่มตัวอย่างแค่ 36% ที่รับรู้และจำได้ว่ามีโฆษณาอยู่ทางขวา … เรียกว่าไม่ถึงครึ่งเลย!
^ รูปด้านบนนี้เวลาที่กลุ่มผู้ใช้มองแต่ละส่วน เฉลี่่ยคร่าวๆเป็นวินาที
…
ทีมงานยังทดลองอีกหลายแฟนเพจ แต่ผลที่ออกมาก็ไปในทางเดียวกัน ดังที่ MarketingOops สรุปตัวหนาไว้ด้านบน
หากผลวิจัยนี้เป็นจริงกับผู้ใช้ทั้งหมดของเฟซบุ๊ค ก็นับว่าการ re-design ครั้งนี้อาจส่งผลเสียหายทางธุรกิจกับเฟซบุ๊ค ที่รายได้หลักส่วนใหญ่มาจากการโฆษณา และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลาที่ FB กำลังจะเข้าตลาดหุ้นในเดือนพฤษภาฯนี้ เพราะผู้สนใจลงโฆษณาที่เห็นผลวิจัยนี้หลายรายอาจติดเบรคและกลับไปคิดกันใหม่ก็เป็นได้
แต่สุดท้ายท้ายสุดแล้ว ก็อยู่ที่ผู้ที่ซื้อโฆษณาจริง จ่ายจริง แต่ละราย จะประเมินว่า “คุ้มมั้ย ?” โดยอาจจะเทียบกับการนำเงินก้อนนี้ไปซื้อ Google Ads , ซื้อ banner ในเว็บอื่นๆ หรือโฆษณาในสื่ออื่นๆ ด้วยตัวเอง โดยผลวิจัยนี้เป็นส่วนหนึ่งที่นำมาใช้ประเมินร่วมกันเท่านั้น
และที่สำคัญที่สุด เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า รูป Cover Photo สำคัญมากๆถึงมากที่สุด
ขอบคุณภาพและข่าวจาก mashable.com