บอกเลยว่า Facebook ยังคงออกแอ็คชั่นอย่างต่อเนื่อง สำหรับความพยายามในการกรองและลดเนื้อหาปลอมบนแพลทฟอร์มของตนเอง ล่าสุด ยังได้ประกาศแผนใหม่ด้วยการจัดตั้ง “ทีมผู้ตรวจสอบชุมชน” ขึ้นมาอีกด้วย
รายละเอียดเรื่องนี้ถูกเปิดเผยว่า ไม่ใช่การแบ่งพนักงานที่ดูแลเรื่องความมั่นคงและความปลอดภัยมาทำงานเหมือนเช่นเคย แต่เป็นการแต่งตั้งทีมขึ้นใหม่ในชื่อ Community Reviewers หรือ ผู้ตรวจสอบชุมชน โดยทีมงานชุดนี้เป็นการทำสัญญาว่าจ้างผ่านพาร์ทเนอร์รายหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม แม้ว่า Facebook จะดำเนินการเช่นนี้แต่กระบวนการพื้นฐานของ Facebook ก็ยังคงมีอยู่ ทั้ง Machine Learning ที่ใช้ยืนยันและคัดกรองเบื้องต้น เพื่อคอยตรวจจับข้อมูลเท็จอยู่แล้ว แต่จากนี้เมื่อพบข้อมูลลักษณะดังกล่าว ระบบจะส่งต่อโพสต์เจ้าปัญหาไปยังทีม Community Reviewers ซึ่งจะทำการตรวจสอบเพิ่มเติมพร้อมทั้งประเมินว่าตกลงแล้วโพสต์นั้นเป็นจริง หรือเท็จ และที่มาของการตรวจสอบแบบหลายขั้นตอนเช่นนี้ ก็เนื่องมาจาก Facebook ต้องการลดข้อกล่าวหาว่าอาจมี “อคติ” ในการดำเนินงานนั่นเอง
แถมไม่ใช่แค่กับ Facebook เพราะมีการขยายการลงทุนเกี่ยวกับโครงการตรวจสอบข้อเท็จจริงไปยัง Instagram อีกด้วย แต่ทั้งหมดทั้งมวลนี้ก็ยังไม่วายทำให้ Facebook ถูกตั้งประเด็นในเรื่องความโปร่งใสและการยอมเป็นเครื่องมือทางการเมืองอยู่ดี ซึ่ง “มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก” ก็ได้ยืนยันความขาวสะอาดของ Facebook ว่า แพลทฟอร์มของเรามีความโปร่งใสเรื่องการโฆษณาทางการเมืองมากกว่าสื่ออื่น เพราะมีการจัดเก็บข้อมูลให้สามารถตรวจสอบได้ ในขณะที่สื่อทีวีหรือสิ่งพิมพ์ไม่สามารถทำได้
ที่มา : Social Media Today