เมื่อพูดถึงช่องทางสื่อสารทางการตลาดที่มาแรงในปัจจุบัน หลายคนมักจะให้ความสนใจกับช่องทางใหม่ ๆ อย่าง โซเชียล มีเดีย , AI และ AR เพราะมองว่า สามารถเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ได้ดีกว่า และมักจะมองข้ามช่องทางการตลาดรูปแบบเดิมอย่างอีเมล (Email) ซึ่งความจริงแล้วอาจไม่เป็นเช่นนั้นก็ได้
อะโดบี ได้รายงานถึงผลการศึกษาเกี่ยวกับการใช้อีเมล (มิลเลนเนียล (Millennials Email Usage Study) ประจำปี 2562 จากการสำรวจความคิดเห็น 1,002 คนในสหรัฐฯ ช่วงเดือนกรกฎาคม 2562 ระบุว่า ผู้บริโภคใช้เวลาราว 5 ชั่วโมงต่อวัน แบ่งเป็น ใช้เวลาราว ๆ 3 ชั่วโมงเพื่อเช็คอีเมลบริษัท และประมาณ 2 ชั่วโมงเพื่อเช็คอีเมลส่วนตัว
นอกจากนี้ ผู้ตอบแบบสอบถามยังระบุว่า ตนเองชอบที่จะรับข้อเสนอผ่านทางอีเมลมากที่สุด (56% สำหรับอีเมลที่ทำงาน, 60% สำหรับอีเมลส่วนตัว) ซึ่งมากกว่าไดเร็คเมล โซเชียล และช่องทางการตลาดอื่นๆ อย่างมาก
อย่างไรก็ตาม ในบรรดาข้อเสนอทางอีเมลจากแบรนด์ต่างๆ มีเพียง 1 ใน 4 เท่านั้นที่น่าสนใจหรือน่าดึงดูดมากพอที่จะเปิดอ่าน แล้วเพราะเหตุใดผู้บริโภคถึงไม่เปิดดูอีเมล? ผู้ตอบแบบสอบถามชี้ว่า การที่แบรนด์ต่างๆ ส่งอีเมลมาบ่อยครั้งเกินไปทำให้พวกเขารู้สึกรำคาญใจ ทั้งในส่วนของอีเมลที่ทำงานและอีเมลส่วนตัว
ส่วนปัญหาอื่นๆ ที่ถูกกล่าวถึงได้แก่ ข้อมูลการตลาดเกี่ยวกับผู้รับอีเมลไม่ถูกต้อง ข้อเสนอที่ส่งมาใช้สำหรับสินค้าที่เคยซื้อไปแล้ว และข้อความที่ส่งมาใช้ถ้อยคำฟุ่มเฟือยหรือไม่เหมาะสม นอกจากนี้ การปรับแต่งแบบเฉพาะบุคคล (Personalization) ในการทำตลาดผ่านอีเมลมีความสำคัญต่อผู้บริโภค โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับอีเมลส่วนตัว
กลุ่มมิลเลนเนียล ยังต้องการ ‘อีเมล มาร์เก็ตติ้ง’
เมื่อแยกกลุ่มตามช่วงอายุ พบว่าเกือบครึ่งหนึ่งของคนรุ่นมิลเลนเนียล (Millennials) (46%) ระบุว่า ตนเองต้องการอีเมลสื่อสารแบบเฉพาะบุคคลจากแบรนด์ต่างๆ ตามมาด้วย 43% ของคนกลุ่ม Gen X และ 30% ของคนรุ่นเบบี้บูม ในส่วนของอีเมลที่ทำงาน 37% ของคนรุ่นมิลเลนเนียลต้องการให้มีลักษณะเป็นแบบเฉพาะบุคคล เช่นเดียวกับ 26% ของคนรุ่น Gen X และ 23% ของคนรุ่นเบบี้บูม
ผู้บริโภคยังระบุว่า ตนเองรู้สึกหงุดหงิดมากที่สุดกับอีเมลแนะนำสินค้าหรือบริการที่ไม่ตรงกับความสนใจของเขา โดยอยู่ที่ 33% สำหรับอีเมลที่ทำงาน และ 31% สำหรับอีเมลส่วนตัว
อีเมลยังสำคัญในชีวิตประจำวันของลูกค้า
ผลการศึกษายังชี้ว่า ผู้ตอบแบบสอบถามในทุกกลุ่มอายุเช็คอีเมลที่ทำงานขณะที่อยู่นอกออฟฟิศเป็นประจำ แต่ก็มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นที่จะต้านทานต่อพฤติกรรมดังกล่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มคนรุ่นมิลเลนเนียล โดยผู้บริโภคเกือบครึ่งหนึ่ง (48%) ระบุว่าตนเองไม่ได้เช็คอีเมลที่ทำงานจนกว่าจะเริ่มต้นการทำงาน และในบรรดาส่วนที่เหลือ มีเพียง 13% เท่านั้นที่เช็คอีเมลขณะที่ยังไม่ได้ลุกจากที่นอน, 15% ขณะที่เดินทางไปทำงาน และ 25% ขณะที่รับประทานอาหารเช้า
สำหรับอีเมลส่วนตัว ผู้บริโภค 25% เช็คอีเมลส่วนตัวเป็นอันดับแรกขณะที่ยังไม่ได้ลุกจากที่นอน และ 42% เช็คอีเมลขณะแต่งตัวหรือรับประทานอาหารเช้า, 16% เช็คอีเมลขณะที่เดินทางไปยังที่ทำงาน และ 17% เช็คอีเมลเมื่อไปถึงที่ทำงาน
เมื่อเปรียบเทียบกับโซเชียลมีเดียที่ดูเหมือนจะครอบงำคนเรา พบว่า จะมีการเช็คเป็นครั้งแรกระหว่างพักเบรกในที่ทำงาน (30%) และที่ตามมาติดๆ คือ 26% เช็คโซเชียลมีเดียครั้งแรกขณะที่ยังไม่ได้ลุกจากที่นอน, 25% ขณะที่แต่งตัวในตอนเช้าหรือรับประทานอาหารเช้า, 11% ระหว่างเดินทางในตอนเช้า และ 8% เช็คโซเชียลมีเดียในที่ทำงาน
“เห็นได้ชัดว่าเราทุกคนรู้สึกสบายใจกับการใช้อีเมล และอีเมลได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเราในเกือบทุกแง่มุม แม้ว่าเวลาที่เราใช้ในการเช็คอีเมลโดยรวมมีแนวโน้มลดลงตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นมา แต่ความถี่ในการเช็คอีเมลก็ยังคงอยู่ในระดับที่สูง ผลการสำรวจของอะโดบีตอกย้ำว่าอีเมลยังคงมีความสำคัญในชีวิตประจำวันของลูกค้า และนั่นหมายความว่ายังคงมีโอกาสที่สูงมากสำหรับนักการตลาดในการใช้ประโยชน์จากอีเมลเพื่อติดต่อสื่อสารกับผู้บริโภคอย่างมีประสิทธิภาพและเห็นผลเป็นรูปธรรม” ซาราห์ เคนเนดี้ รองประธานฝ่ายการตลาดและประสบการณ์ดิจิทัลของอะโดบี กล่าวสรุปถึงผลของรายงานชิ้นนี้