เอพี ไทยแลนด์ ได้เป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ มิตซูบิชิ เอสเตท เรสซิเดนซ์ ( MEC – บริษัทในเครือ มิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป , บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านอสังหาฯ TOP3 ของญี่ปุ่น ) มากกว่า 6ปี ได้มีการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ที่ครอบคลุมการพัฒนาที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการพัฒนาเพื่อสร้างให้เกิดความยั่งยืน ไปจนถึงการถ่ายทอดนวัตกรรมและเทคโนโลยี ให้กับทาง เอพี ไทยแลนด์
ซึ่งทาง มิตซูบิชิ เอสเตท ได้ถ่ายทอดความคิดปรัชญา BIODIVERSITY นำมาออกแบบที่อยู่อาศัย พร้อมสร้างความสมดุลของระบบนิเวศให้เกิดขึ้น เพื่อนำมาสู่การใช้ชีวิตที่เกื้อหนุนระหว่างมนุษย์และสิ่งแวดล้อม และทาง ทาง เอพี ไทยแลนด์ ได้นำมาเริ่มการพัฒนาโครงการ LIFE สาทร เซียร์รา ต้นแบบแห่งการอยู่อาศัยแนวตั้ง (Vertical Living) ที่ยั่งยืนและสมดุล แตกต่างด้วย FOREST PARK IN THE CITY คอนเซ็ปต์ ‘การสร้างป่าในเมือง’ บนพื้นที่ส่วนกลางกว่า 8,400 ตารางเมตร ให้เป็นหุบเขาต้นไม้กลางเมืองที่ปกคลุมด้วยพันธ์ไม้นานาชนิด เป็นศูนย์กลางในการเชื่อมต่อทุกเรื่องราวของ มนุษย์ แมลง เมือง สิ่งก่อสร้าง ต้นไม้ใหญ่ และสภาพแวดล้อมโดยรอบ ให้เกี่ยวเนื่องเป็นอันหนึ่งอันเดียวและนำไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคตร่วมกัน และ พร้อมนำ IZUMI PARK TOWN เมืองต้นแบบของการอยู๋อาศัยที่ยั่งยืนไปต่อยอดสู่การพัฒนาที่อยู่อาศัยแนวราบในอนาคต เพื่อส่งมอบคุณภาพชีวิตที่ดีในอุดมคติให้เกิดขึ้น
ปรัชญา BIODIVERSITY ( ความหลากหลายทางชีวภาพ ) หมายถึง การมีสิ่งมีชีวิตนานาชนิด นานาพันธุ์ อาศัยอยู่ในระบบนิเวศวิทยาเดียวกัน สร้างความสมดุลทางธรรมชาติ นำมาสู่การใช้ชีวิตที่เกื้อหนุนระหว่างมนุษย์และสิ่งแวดล้อม
BIODIVERSITY
เป็นปรัชญาความคิดที่ทางคนญี่ปุ่นให้ความสำคัญมาอย่างช้านาน เป็นความคิดที่ละเอียดอ่อนลึกซึ้งที่คนญี่ปุ่นถูกปลูกฝั่งมาตั้งแต่เด็ก ในการรักษาสิ่งแวดล้อม รักษาธรรมชาติ เพื่อความสมดุลของระบบนิเวศวิทยา คนญี่ปุ่นจึงรักสุขภาพ รักธรรมชาติ มีอายุที่ยืนยาว จนเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย
BIO NET INITIATIVE
BIO NET INITIATIVE เป็นคอนเซ็ปต์การพัฒนาที่อยู่อาศัย เพื่อรักษาสมดุลกละการเชื่อมต่อของระบบนิเวศ และนำปรัชญา BIODIVERSITY มาต่อยอด โดยมีเป้าหมายให้ความสำคัญกับการเลือกสรรพันธุ์ไม้ เพื่อสร้างสมดุลให้เกิดขึ้นไปยังพื้นที่โดยรอบ เพื่อส่งเสริมให้ธรรมชาติเจริญเติบโตอย่างสมดุล เป็นแนวคิดที่มีสวน มีป่าเป็นโครงข่ายโยงกัน ทำให้สิ่งมีชีวิตสามารถเชื่อมต่อกันในเมืองได้สมดุล
โครงการใหญ่ที่ได้พัฒนาโดยใช้ปรัชญา BIODIVERSITY และ BIO NET INITIATIVE
DAIMARUYU DISTRICT
ศูนย์กลางธุรกิจใจกลางเมืองโตเกียว เป็นพื้นที่ย่านธุรกิจที่ครอบคลุมตั้งแต่ Marunouchi ถึง Otemachi-Yurakucho ที่รายล้อมไปด้วย ร้านอาหาร แหล่งช้อปปิ้ง พิพิธภัณฑ์ อาคารสำนักงาน มากมาย ผู้ที่มาในย่านนี้จะรับรู้ได้ว่า บรรยากาศของย่านนี้จะมีความเขียวขจี ผ่อนคลาย ด้วยพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ และ ตามถนนหนทาง สวนหย่อม โดยจะมีต้นไม้น้อยใหญ่ ดอกไม้ นก แมลง นานาพันธุ์ ที่ได้อาศัยอยู่รวมกันกับผู้คน สถานที่สีเขียวที่น่าสนใจในย่านนี้ ตัวอย่างเช่น
ตึก Ichigokan Plaza ที่เต็มไปด้วยพืชพรรธรรมชาติหลากหลายชนิด ดูน่ารื่นรมณ์สดชื่น เชื้อเชิญให้ผู้เยี่ยมชมได้เข้าไปนักพักผ่อนกลมกลืนกับธรรมชาติ และ อีกสถานที่น่าสนใจคือ
The Café’ by Aman คาเฟ่ที่ออกแบบ และ ตกแต่งให้เรียบง่ายกระจกใสที่ล้อมรอบทั้งสี่ด้าน ตั้งแต่พื้นจรดเพดานเผยให้เห็นทิวทัศน์ที่เขียวขจีเต็มไปด้วยป่าไม้ขนาด 3,600 ตร.ม ในใจกลางโตเกียว เปรียบเสมือน FOREST PARK IN THE CITY ผืนป่าใจกลางเมืองขนาดย่อม เป็นความหลากหลายทางชีวภาพ ปอดของเมืองที่สามารถเชื่อมคนเมืองเข้ากับธรรมชาติได้อย่างไร้รอยต่อ สะท้อนให้เห็นถึงการอยู่รวมกันเป็นนิเวศวิทยา บริษัทผู้พัฒนาย่านนี้คือ Mitsubishi Estate GROUP บริษัทพัฒนาอสังหาฯรายใหญ่ TOP3 ของญี่ปุ่น
IZUMI PARK TOWN
IZUMI PARK TOWN ตั้งอยู่บนตอนเหนือของโตเกียว อยู๋ในเมืองเซนได สร้างขึ้นในปี 1974 โดย Mitsubishi Estate Group ทางผู้พัฒนาได้ซื้อที่ดินจากชาวนา เป็นพื้นที่ที่ส่วนมากเป็นภูเขาเป็นป่ามาพัฒนา โดยตั้งใจสร้างเมืองในอุดมคติ มีแผนงานพัฒนาเมืองระยะยาว 50ปี ให้เป็นเมืองที่เพียบพร้อมสมบูรณ์ไปด้วยพืชพรรณธรรมชาติ คนคุณภาพ และเป็นเมืองแห่งธุรกิจครบวงจร เป็นเมืองที่สามารถหลอมรวมมนุษย์ และ ธรรมชาติให้เป็นหนึ่งเดียวกัน การบริหารจัดการเมืองเกิดขึ้นภายใต้ความตกลงร่วมกันของผู้ที่เข้าอยู่อาศัย และเป็นพื้นที่ที่ครอบคลุมทุกกิจกรรมของทุกชีวิตในเมือง เริ่มตั้งแต่พื้นที่อยู่อาศัย พื้นที่สำหรับการศึกษา การทำอุตสาหกรรม การทำธุรกิจ การพักผ่อนทั้งสำหรับครอบครัวตั้งแต่วัยหนุ่มสาว ไปจนถึงผู้สูงอายุ นอกจากนี้ ที่นี่ยังเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวจากหลากหลายประเทศทั่วโลก การอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขโดยมีกฎเกณฑ์ต่างๆ ที่ถูกตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริมให้เมืองแห่งนี้สามารถขับเคลื่อน และเจริญเติบโตไปได้ ภายใต้ความเห็นแก่ส่วนรวม นับเป็นความเคารพซึ่งกันและกัน โดยชาวเมืองจะถูกปลูกฝังให้มีระเบียบวินัย และเคารพกฎของการอยู่ร่วมกัน ในสังคมที่มีคุณภาพอย่างแท้จริง
ปัจจุบัน เมืองแห่งนี้มีประชากรราว 25,000 คน ผังเมืองถูกออกแบบอย่างเป็นระบบ และเต็มไปด้วยพื้นที่สีเขียวมากมาย บ้านแต่ละหลังสวยงาม ร่มรื่นด้วยต้นไม้และสวนสาธารณะ สนามกอล์ฟ แต่ยังคงเต็มไปด้วยการอำนวยความสะดวกไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต และยังมีเอาท์เล็ทรองรับนักท่องเที่ยว หลายคนที่มาเยี่ยมเยืยนคงแปลกใจกับพื้นที่ในเมืองที่มีความเป็นระเบียบ แบ่งแยกเป็นสัดส่วนชัดเจน เป็น 4 โซนสำคัญ ได้แก่
(1) พื้นที่สำหรับอยู่อาศัย (Living)
การออกแบบถนนเป็นถนนเส้นยาว คดเคี้ยวน้อย ไม่มีการเชื่อมต่ถนนสายหลักเข้าตรงสู่ตัวบ้าน และสี่แยกจะถูกแทนที่ด้วยสามแยกเป็นส่วนใหญ่ เพื่อหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุ เป็นการออกแบบโดยคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อาศัยเป็นหลัก พื้นที่สีเขียวจะต้องมีอย่างน้อย 30%ของพื้นที่ทั้งหมด ในทุกๆพื้นที่อยู่อาศัย การออกแบบบ้านยังต้องคำนึงถึงชุมชนโดยรวม สีของหลังคาบ้านต้องเป็นโทนสีเย็นเท่านั้น ไม่มีการกั้นรั้วบ้าน
(2) พื้นที่ในเมืองสำหรับเป็นที่ตั้งของโรงเรียน การพบปะสังสรรค์ สถานที่ช้อปปิ้ง (Urbanization)
ในเมืองจะมีทั้งมหาวิทยาลัย, โรงเรียนตั้งแต่อนุบาลถึงมัธยมปลาย, มีห้างสรรพสินค้า, ซุปเปอร์มาร์เก็ต, ร้านอาหาร, ห้าง Outlet, บ้านพักคนชรา, โรงพยาบาล และ โรงแรม เป็นต้น
(3) พื้นที่สำหรับการพักผ่อน เหมาะสำหรับการออกกำลังกาย หรือกิจกรรมสันทนาการต่างๆ (Recreation)
เป็นเมืองเอกชนเมืองเดียวในญี่ปุ่นที่มีสนามกอล์ฟ รวมถึงในเมืองนี้จะมี สนามเทนนิส และ สนามขี่ม้า เป็นต้น
(4) แหล่งธุรกิจสำคัญของเมืองที่รวมไปถึงเขตโรงงาน เขตสำนักงานต่างๆ (Working)
พื้นที่ถูกจัดสรรอย่างเป็นระบบด้วยการแบ่งเขตอุตสาหกรรมหนัก แยกออกจากอุตสาหกรรมเบาอย่างชัดเจน
IZUMI PARK TOWN เป็นเมืองอุดมคติอย่างแท้จริง ด้วยการสร้างโครงสร้างพื้นฐาน และการออกแบบเมืองอย่างเป็นระบบ เอื้อให้เกิดการช่วยเหลือพึ่งพากันของผู้คนในเมือง นำมาซึ่งการอยู่อาศัยที่เต็มไปด้วยคุณภาพ และ สร้างความยั่งยืนให้เกิดขึ้นกับสิ่งแวดล้อมเดิม รวมไปถึงเป็นเมืองที่สามารถสร้างประชากรที่มีคุณภาพให้กับสังคมอย่างต่อเนื่อง ประชากรส่วนใหญ่ที่อาศัยอยู่ในเมืองนี้จะทำงานที่นี่ อาศัยอยู่ที่นี่เลย ราคาบ้านรวมที่ดินก็หลากหลาย ตั้งแต่ 10ล้านเยน ถึง 100ล้านเยน มีการแบ่งโซน บ้านหรู บ้านปานกลาง และ บ้านย่อมเยา มีแบบบ้านให้เลือกถึง 21แบบ จากผู้พัฒนาสร้างบ้านที่เป็นพันธมิตรกับทาง Mitsubishi Estate Group
ข้อมูลเพิ่มเติม
‘LIFE สาทร เซียร์รา’ ไฮเอนด์คอนโดมิเนียมโครงการร่วมทุนระหว่างเอพี และพันธมิตรญี่ปุ่น มิตซูบิชิ เอสเตท เรสซิเดนซ์ โครงการที่ 16 มูลค่า 6,300 ล้านบาท ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 8 ไร่ ทำเลใจกลางเมืองย่าน CBD สาทร ศูนย์กลางธุรกิจสำคัญของกรุงเทพฯ พรั่งพร้อมด้วยความสะดวกสบายในการเดินทาง ใกล้ ICONSIAM แลนด์มาร์คริมแม่น้ำเจ้าพระยา พร้อมเติมเต็มประสบการณ์การใช้ชีวิตเต็มรูปแบบ LIFE สาทร เซียร์รา ประกอบด้วยอาคารที่พักสูง 40 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 1,971 ยูนิต ขนาดพื้นที่ใช้สอยของห้องที่หลากหลายพร้อมเชื่อมทุกไลฟ์สไตล์ให้เป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติที่ร่มรื่นภายในโครงการ ได้แก่ 1) ห้องสตูดิโอ ขนาด 28 ตารางเมตร 2) ห้องชุด 1 ห้องนอน ขนาด 32, 34 ตารางเมตร 3) ห้องชุดพิเศษ 1 ห้องนอน ขนาด 35, 39 ตารางเมตร 4) ห้องชุด 2 ห้องนอน ขนาด 57.5 ตารางเมตร พร้อม THE FOREST PARK เชื่อมจากชั้น 1-5 และพื้นที่ส่วนกลางกว่า 8,400 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 2.49 ล้านบาท (เฉลี่ยเริ่มต้นประมาณ 87,000 บาท/ตร.ม.)