เรียกได้ว่า Red Ocean ก็ว่าได้ สำหรับตลาดขนส่งพัสดุในไทยที่ตอนนี้มีหลายต่อแบรนด์แข่งขันกันอย่างดุเดือด แต่ด้วยการเติบโตที่น่าสนใจจากแรงหนุนในเรื่องการขยายตัวอย่างรวดเร็วของตลาดอีคอมเมิร์ซ ก็ทำให้มีผู้เล่นอีกหลายรายต้องการเข้ามาขอลองสู้ในสนามนี้ด้วยเช่นกัน
มีการคาดการณ์ว่า การทำธุรกรรมอีคอมเมิร์ซในไทยจะมีมูลค่าถึง 7 แสนล้านบาท (2.3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในปี 2560 และภายในปี 2563 คาดว่า กว่า 50% ของยอดขายปลีกทั้งหมดจะเกิดจากตลาดออนไลน์
นอกจากนี้ รัฐบาลไทยยังมีแผนที่จะยกระดับประเทศสู่ศูนย์กลางของภูมิภาคอาเซียน ด้วยการผลักดันอุตสาหกรรมเทคโนโลยีชั้นสูงและการสนับสนุนระบบอีเพย์เมนต์ ภายใต้นโยบายประเทศไทย 4.0 จะนำไปสู่การเติบโตของตลาดโลจิสติกส์ของสินค้าอุปโภคบริโภค ตลอดจนอุตสาหกรรมการจัดส่งพัสดุ โดยปัจจุบัน ไทยมีความสามารถในการรองรับการจัดการพัสดุทั้งหมดเฉลี่ยประมาณ 3 ล้านชิ้นต่อวัน ซึ่งในตลาดนี้มี เคอรี่ เอ็กซ์เพรส , ไปรษณีย์ไทย และ DHL เป็นผู้เล่นรายหลักในตลาด
ความน่าสนใจดังกล่าว ทำให้ ‘ซีเจ โลจิสติคส์’ บริษัทโลจิสติกส์จากเกาหลีใต้ได้เข้ามาปักหมุดธุรกิจในไทย โดยชูแนวคิด “K-Logistics” และเทคโนโลยีการจัดการพัสดุล้ำสมัย เพื่อตอบสนองตลาดขนส่งพัสดุไทยที่เติบโตอย่างรวดเร็ว และปรับแพลตฟอร์มการขนส่งพัสดุเกาหลีให้เข้ากับไทย
พร้อมกับได้มีการลงทุนศูนย์กระจายสินค้าส่วนกลาง ที่บางนา กรุงเทพฯ ติดตั้งระบบคัดแยกกล่องแบบอัตโนมัติ wheel sorter (ระบบเดียวกับที่ใช้ในเกาหลีใต้) ซึ่งศูนย์กระจายสินค้าส่วนกลางดังกล่าว สามารถจัดการพัสดุได้สูงสุดถึง 400,000 ชิ้นต่อวัน ในพื้นที่กว่า 71,900 ตารางเมตร
ปัจจุบัน ซีเจ โลจิสติคส์ ดำเนินธุรกิจในกว่า 37 ประเทศ 148 เมือง และมีสำนักงานกว่า 266 แห่งทั่วโลก ซึ่งนอกจากการดำเนินธุรกิจในไทย ซีเจ โลจิสติคส์ ยังมุ่งต่อยอดการเติบโตด้วยแนวคิด K-Logistics ในตลาดหลักต่างๆ รวมถึงประเทศมาเลเซียและเวียดนาม