WPP บริษัทโฆษณาการตลาดใหญ่ที่สุดในโลก เป็นบริษัทแม่ของ บริษัทเอเจนซี่โฆษณา, บริษัทพีอาร์ เอเจนซี่, บริษัทมีเดีย เอเจนซี่ และบริษัทรีเสิร์ช ชื่อดังทั้งในไทยและทั่วโลก ถ้าเอ่ยชื่อมาทุกคนต้องเคยได้ยินชื่อมาบ้าง อาทิเช่น Ogilvy, J. Walter Thompson ( JWT ), Young & Rubicam (Y&R), Grey, Millward Brown, Hill & Knowlton, TNS, GroupM และ Kantar เป็นต้น และ เมื่อเปรียบเทียบด้วยรายได้จากทั่วโลก WPP เป็นอันดับ 1 ใน 5 ของ “Big Five Agency companies” ของโลก อีก4เจ้ายักษ์ใหญ่ของโลกคือ Omnicom Group, Interpublic Group, Publicis Group และ Dentsu
Sir. Martin Sorrell ผู้ก่อตั้ง WPP – ภาพจาก telegraph.co.uk
จากโรงงานผลิตตระกร้าช้อปปิ้ง แปลงร่างเป็น บริษัทการตลาดใหญ่ที่สุดในโลก
แต่เดิมบริษัท Wire and Plastic Products plc เป็นโรงงานผลิตตระกร้าลวดช้อปปิ้ง (ตระกร้าช้อปปิ้งใส่สิ้นค้าในซุปเปอร์มาร์เก็ต) ซึ่งเป็นบริษัทมหาชนสัญชาติอังกฤษ อยู่ในตลาด London Stock Exchage ตั้งขึ้นเมื่อปี 1971 จนกระทั่ง ปี 1985 ท่าน Sir. Martin Sorrell (ผู้ก่อตั้ง WPP และเป็น CEO ของ WPP จนถึงปี 2018) ตอนนั้นทำงานเป็น Finance Director ของบริษัทโฆษณาชื่อ Saatchi & Saatchi ( ปัจจุบัน Saatchi & Saatchi กลายเป็นส่วนหนึ่งของ Publicis คู่แข่งของ WPP ) รับผิดชอบทำดีลเรื่องซื้อบริษัทมานานทั้งใน อังกฤษ และ อเมริกา มีความคิดที่จะทำบริษัทโฆษณาการตลาดของตัวเอง จึงได้ค้นหาบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์เพื่อเข้าซื้อเพื่อเป็นทางลัดในการเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ จึงได้ค้นพบ Wire and Plastic Products plc และเข้าซื้อด้วยเงินทุนส่วนตัวจำนวน $676,000 และได้เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น WPP Group ในปี 1986 ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
เติบโตอย่างก้าวกระโดดด้วยการซื้อกิจการ
เนื่องจาก Sir. Martin Sorrell ทำงานอยู๋ในวงการโฆษณามานาน จึงทำให้เริ่มมองเห็นโอกาสในการทำธุรกิจ ก็เริ่มใช้กลยุทธ์เทคโอเวอร์กิจการที่ตัวเองชำนาญ เป็นกลยุทธ์สำคัญที่ทำให้ WPP เติบโตได้อย่างก้าวกระโดด นับตั้งแต่ปี 1986 เพียงแค่ 3ปี ทาง WPP ได้เข้าซื้อกิจการไปถึง 18บริษัท และใช้กลยุทธ์ซื้อเข้ามาในเครือมาตลอด จนถึงปัจจุบัน WPP มีบริษัทมากมาย ถึงขนาดที่ Sir. Martin Sorrell เคยพูดเป็นมุขว่า วันๆ งานของผมคือ คิดว่าจะซื้อบริษัทอะไรเพิ่ม และ จะทำยังไงให้บริษัทที่ผมซื้อมาแล้ว ทำกำไรได้ตามแผนงานที่ตกลงกันไว้
ไทม์ไลน์ที่น่าสนใจบางส่วนของ WPP ที่ใช้วิธีการซื้อและควบกิจการ บริษัทเก่งๆเข้ามาในเครือ เป็นเส้นทางลัด สู่การเป็นบริษัทโฆษณาการตลาดอันดับหนึ่งของโลก
โลกการตลาดยุคดิจิทัลที่เกิดการเปลี่ยนแปลงและมีเทคโนโลยีทันสมัยเกิดขึ้นมากมาย การควบคุมต้นทุนและกลยุทธ์ที่เปลี่ยนแปลงให้ทันคู่แข่ง เราจึงได้เห็น WPP ขายหุ้นในบริษัทที่เคยซื้อเข้ามา และ มีการควบรวมบริษัทเครือญาติที่มีการซ้ำซ้อนกันเข้าด้วยกัน และรีแบรนด์เปลี่ยนชื่อใหม่ เพื่อสามารถแข่งขันได้ในตลาดปัจจุบัน จนตอนนี้ทาง WPP มีบริษัทโฆษณาการตลาดระดับโลกที่เป็นแบรนด์หลัก 20แบรนด์ และในแต่ละแบรนด์หลัก ยังมีเน็ตเวิร์คเครือข่ายบริษัทลูกของตัวเองอีกมากมาย
ปัจจุบัน WPP มีพนักงาน 130,000คน จาก 112 ประเทศทั่วโลก มีลูกค้า 369 บริษัทที่อยู่ Fortune Global 500, 30 บริษัทที่อยู่ใน Dow Jones 30 และ 71 บริษัท อยู่ใน NASDAQ 100 มีรายได้รวมถึง $18,900ล้าน และ เป็นบริษัทมหาชนที่อยู๋ในตลาดหลักทรัพย์ที่ ลอนดอน และ นิวยอร์ค
WPP ได้รับรางวัล Most Creative Group จากงาน Cannes Lions ตั้งแต่ปี 2011 – 2017 , รางวัล Most Effective Group จาก Effie Global Effectiveness Index ตั้งแต่ปี 2012-2019
Mark Read – CEO คนปัจจุบันของ WPP – ภาพจาก wpp.com
Sir. Martin Sorrell ลาออกจากตำแหน่ง CEO เมื่อเดือนเมษายน 2018 แต่ยังคงเป็นผู้ถือหุ้นอยู่ และ ทาง WPP ได้แต่งตั้ง Mark Read มาดำรงตำแหน่งแทนเป็น CEO คนปัจจุบัน ซึ่งทาง Mark Read ทำงานกับ WPP มายาวนานกว่า 12ปี เคยเป็นทั้ง Head Of Strategy , CEO ของ WPP Digital และ Global CEO ของ Wunderman เอเจนซี่โฆษณาที่อยู๋ในเครือ WPP
ปัจจุบันใน WPP ที่เป็นยักษ์ใหญ่ของวงการโฆษณาการตลาด กำลังโดนท้าทายโดยบริษัทที่ปรึกษาชั้นนำของโลกอย่าง ACCENTURE ที่เริ่มเข้ามาซื้อบริษัทโฆษณาการตลาดเข้าไปอยู่ในเครือ ACCENTURE Interactive โดยเฉพาะที่ซื้อ DROGA5 บริษัทครีเอทีพโฆษณาชั้นนำของโลก คาดเดากันว่ามูลค่าประมาณ $400ล้าน และ ซื้อบริษัทโฆษณาการตลาดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งบริษัทที่ปรึกษาชั้นนำของโลกเริ่มขยายตลาดเข้าสู่วงการโฆษณาการตลาดมากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะโลกของดิจิทัลออนไลน์
เราต้องมาติดตามดูกันต่อไปว่า WPP จะรักษาตำแหน่งแชมป์บริษัทโฆษณาการตลาดใหญ่ที่สุดในโลกต่อไปอย่างไรในปีนี้และปีต่อๆไป