5G เทคโนโลยีที่หลายคนตั้งหน้าตั้งตารอคอยมาอย่างยาวนาน แต่ดูเหมือน 5G จะยังไม่สามารถออกมาใช้งานได้ง่ายๆ อันเนื่องมาจากข้อกำหนดทางด้านกฎหมายคลื่นความถี่และเทคโนโลยีที่จะนำมาใช้ แม้ว่าหลายคนจะตั้งเป้าความหวังไว้กับเทคโนโลยี 5G ที่จะช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้น ผ่านอุปกรณ์ล้ำสมัยที่รองรับ 5G ขณะที่ภาคอุตสาหกรรมเองก็รอคอยเทคโนโลยี 5G เพื่อตอบโจทย์ความเป็น Industry 4.0 ตามนโยบายรัฐบาลและเทรนด์ของโลก
โดย Ericsson ได้เปิดเผยผลสำรวจความคืบหน้าสถานการณ์ 5G ทั่วโลก โดยในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปี 2019 มีการขอใช้ซิมการ์ดใหม่จำนวน 44 ล้านรายทั่วโลก แค่เฉพาะภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกไม่นับรวมจีนและอินเดีย มีการขอใช้ซิมการ์ดใหม่ถึง 12 ล้านราย ส่งผลให้มีจำนวนซิมการ์ดที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบันประมาณ 7.9 พันล้านรายทั่วโลก
นอกจากนี้ จากผลการสำรวจมีการคาดการณ์ว่า เมื่อ 5G เปิดให้ใช้งานจริงเต็มรูปแบบ จะมีการปริมาณการใช้งานเพิ่มขึ้นมหาศาล โดยเฉพาะปริมาณข้อมูล (Data) ที่จะเพิ่มขึ้นถึง 131 Exabyte (เอ็กซะไบท์) โดย 1 Exabyte เทียบเท่า 1,000 Terabyte (เทระไบท์) โดยยังมีการคาดการณ์ว่าในปี 2024 จะมีการใช้ข้อมูลผ่านเครือข่าย 5G ทั่วโลกอยู่ในสัดส่วน 35%
ขณะที่ผลรายงานศักยภาพของผู้บริโภคในประเทศไทยต่อเครือข่าย 5G พร้อมใช้งาน 5G อย่างเต็มที่ โดยมีการสำรวจจากผู้ใช้สมาร์ทโฟนจำนวน 1,500 คนที่มีอายุระหว่าง 15-69 ปี พบว่า 40% ในประเทศไทยคาดหวังว่า เครือข่าย 5G จะพร้อมให้บริการจริงใน 2 ปีข้างหน้า และกว่า 50% ของผู้ใช้สมาร์ทโฟนพร้อมย้ายค่ายภายใน 6 เดือน หากผู้ให้บริการนั้นไม่มีเครือข่าย 5G และอีก 52% คิดว่ายังไม่พอใจกับอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงที่บ้าน และพร้อมเปลี่ยนผู้ให้บริการภายใน 6 เดือนเช่นกัน หากยังไม่มีบริการ 5G
นอกจากนี้กว่า 83% พร้อมจ่ายเงินมากขึ้นกว่า 30% เพียงเพื่อให้ได้ใช้บริการเครือข่าย 5G ทั้งนี้ยังมีการจัดอันดับ 5 สิ่งที่ควรจะเกิดขึ้นหลังบริการเครือข่าย 5G เกิดขึ้น โดยอันดับแรกคือการจัดตั้ง Hot Zone หรือเขตพื้นที่ที่มีปริมาณการใช้อินเทอร์เน็ตสูง, Diorama ช่องทางในการชมภาพยนตร์หรือรายการในรูปแบบ 3 มิติ, 3D Hologram การสนทนาแบบเห็นภาพเสมือนจริง, ความบันเทิงและเทคโนโลยีล้ำสมัยในรถยนต์ และบริการผู้ช่วยภายในบ้านหรือ Smart Home
ขณะที่ 76% คาดหวังว่าในปี 2025 จะเกิดอุปกรณ์ที่เรียกว่า แว่นตา AR (AR Glasses) และจะเป็นอุปกรณ์ที่เข้ามาทดแทนการใช้งาน Smartphone ในอนาคต นอกจากนี้ยังเชื่อว่าจะมีอุปกรณ์ต่างๆ มากมายที่เปิดตัวมาเพื่อรองรับบริการเครือข่าย 5G ไม่ว่าจะเป็นกล้อง 360 องศา, จอแสดงผลระดับ 8K หรือแม้แต่การใช้งานหุ่นยนต์ภายในบ้าน
ไม่เพียงเท่านี้ ยังคาดว่าผู้บริโภคในประเทศไทยจะใช้เวลาในการใช้งานอินเทอร์เน็ตเพิ่มมากขึ้นประมาณ 3 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ เพื่อดูวิดีโอบนมือถือและอุปกรณ์พกพา โดย 88% ของผู้ใช้สมาร์ทโฟนในประเทศไทย หวังว่า จะสามารถสื่อสารแบบโฮโลแกรม 3 มิติได้บน 5G และ 13% คาดหวังว่าการ Video Call จะถูกแทนที่โดยโฮโลแกรม 3 มิติ ส่วน 86% คาดว่าเกมคอนโซลจะกลายสภาพมาเป็นเกมออนไลน์บนสมาร์ทโฟน
ยิ่งไปกว่านั้น Ericsson ยังพบว่าผู้ประกอบการให้ความสนใจเทคโนโลยี 5G มากกว่าคนทั่วไป เนื่องจาก 5G จะช่วยให้การใช้เทคโนโลยีมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ 5G มีความหน่วงสัญญาณ (Latency) ต่ำ นอกจากนี้ยังช่วยลดตันทุนในกระบวนการผลิต เพิ่มความแม่นยำในกระบวนการผลิตและลดอุบัติเหตุจากกระบวนการทำงาน
โดยผู้ประกอบการหลายรายเริ่มสนใจเทคโนโลยี 5G ที่สามารถติดตั้งและสร้างขึ้นเองเฉพาะที่ โดยไม่ต้องการรอการบริการจากผู้ให้บริการอีกต่อไป แต่ก็ยังติดล็อกเรื่องของคลื่นความถี่ ซึ่งเทคโนโลยีปัจจุบันสามารถทำได้ตามความต้องการของผู้ประกอบการ