MarketingOops ได้มีโอกาสเดินทางไปไต้หวันพร้อมกับ คุณ สมโภชน์ อาหุนัย ซีอีโอ และ คุณ อมร ทรัพย์ทวีกุล รองซีอีโอ บมจ. พลังงานบริสุทธิ์ หรือ EA เพื่อเยี่ยมชมโรงงานผลิตแบตเตอรี่ AMITA Technologies Inc. ที่ผลิตแบตเตอรี่ลิเที่ยมไอออน เพื่ออุตสาหกรรมพลังงานไฟฟ้า ซึ่งตอนแรกยอมรับว่า ยังไม่ทราบว่า คืออะไร ใช่แบตเตอรี่รถยนต์ หรือแบตเตอรี่มือถือสมาร์ทโฟนหรือเปล่า
คุณ สมโภชน์ อาหุนัย ซีอีโอ และ คุณ อมร ทรัพย์ทวีกุล รองซีอีโอ บมจ. พลังงานบริสุทธิ์
EA คือใคร ทำธุรกิจอะไรบ้าง ?
EA คือ ผู้นำในธุรกิจพลังงานของไทย เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่อันดับต้นๆด้านพลังงานของไทย EA เป็นหุ้นบลูชิปในตลาดหลักทรัพย์ของไทย โดยดำเนินธุรกิจหลักด้านพลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย ประกอบด้วย
- ธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำมันไบโอดีเซล ( B100 ) กลีเซอรีนบริสุทธิ์ และ ผลิตภัณฑ์พลอยได้
- ธุรกิจผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน โดยมุ่งเน้นพลังงานจากแสงอาทิตย์และลมเป็นหลัก
- ธุรกิจพัฒนาและผลิตแบตเตอรี่ลิเที่ยมไอออน สำหรับอุตสาหกรรมพลังงานไฟฟ้าและยานยนต์ไฟฟ้า
- ธุรกิจบริการสถานีอัดประจุไฟฟ้าสำหรับยานยนต์ไฟฟ้าภายใต้ชื่อ EA Anywhere
- ธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าที่ออกแบบ และพัฒนาโดยฝีมือคนไทย 100% ได้แก่ รถยนต์ไฟฟ้า ภายใต้ชื่อ Mine Mobility และ เรือไฟฟ้า
ด้วยวิสัยทัศน์ของคุณสมโภชน์เกี่ยวกับเรื่องพลังงานบริสุทธิ์ ในสมัยที่เริ่มก่อตั้งบริษัท ทาง EA จึงเป็นเจ้าแรกๆที่เดินหน้าลุยเรื่องธุรกิจพลังงานหมุนเวียนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นสิ่งใหม่ และจำนวนเงินที่ลงทุนสูงมากในขณะนั้น จึงทำให้มีแต่คำถามว่า จะทำได้จริง? ขายฝัน? และเมื่อโรงไฟฟ้าได้สร้างเสร็จ สามารถดำเนินงานและขายไฟให้กับการไฟฟ้า ทางคุณสมโภชน์ก็สามารถพิสูจน์ด้วยการนำ EA พุ่งทะยานเป็นธุรกิจมูลค่า Market Cap นับแสนล้านบาท เมื่อปีที่แล้ว 2561 ทาง EA มีรายได้รวม 12,656.30 ล้านบาท และมีกำไร 4,975.21 ล้านบาท
EA ไปทำอะไรที่ไต้หวัน ?
เมื่อธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำมันไบโอดีเซล และ ธุรกิจผลิตไฟฟ้า ไปได้ดี ทาง EA ก็เริ่มโปรเจคใหม่คือ ธุรกิจพัฒนาและผลิตแบตเตอรี่ลิเที่ยมไอออน สำหรับอุตสาหกรรมพลังงานไฟฟ้าและยานยนต์ไฟฟ้า แบตเตอรี่ลิเที่ยมไออนนี้ไม่ใช่แบตเตอรี่มือถือสมาร์ทโฟน หรือ แบตเตอรี่รถยนต์แบบที่เราคุ้นเคย แต่เป็นแบตเตอรี่ลิเที่ยมไอออนที่เอาไว้ใช้สำหรับระบบ ESS ( Energy Storage System ) ที่สามารถเก็บพลังงานไฟฟ้าไว้ใช้ได้จำนวนมาก ในพื้นที่จำกัด เราสามารถเอาไว้ใช้สำหรับสำรองไฟโดยไม่ต้องใช้เครื่องปั่นไฟที่ใช้น้ำมันได้อย่างดี ต้นทุนถูกกว่า และ ด้วยเทคโลยีเดียวกันแบตเตอรี่นี้สามารถนำมาใช้สำหรับรถ EV เก็บพลังงานไว้ใช้จ่ายไฟสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า ที่ไม่ต้องใช้น้ำมันเลย
เมื่อ ทาง EA ที่พร้อมในด้านการเงิน ก็ได้เริ่มค้นหาหุ้นส่วนทางธุรกิจที่จะมาเดินไปด้วยกัน ช่วยกันทำมิสชั่นให้สำเร็จ ตามวิชั่นของคุณสมโภชน์ ทาง EA ก็ได้ค้นพบ AMITA Technologies Inc. บริษัทผลิตแบตเตอรี่ที่มีเทคโลยีด้าแบตเตอรี่ลิเที่ยมไออนของตัวเอง และ AMITA Technologies Inc. เป็นบริษัทอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ไต้หวันด้วย เมื่อคุยกัน เคมีตรงกัน จับมือไปกันได้ ดีลจึงเกิดขึ้นเมื่อปี 2559
ทำไมต้อง AMITA Technologies Inc. ?
โดยทาง AMITA มีเทคโนโลยีขั้นสูงในการผลิตแบตเตอรี่ลิเที่ยมไอออน เป็นเทคโนโลยีชื่อ STOBA ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการสนับสนุนและได้ลิขสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียวจาก สถาบันวิจัยอุตสาหกรรมแห่งไต้หวัน ( Industrial Technology Research Institute หรือ ITRI ) ซึ่งได้รับรางวัลมากมายจากทั่วโลก เป็นเทคโนโลยีที่ปลอดภัย มีระบบป้องกันการติดไฟของแบตเตอรี่ในตัว เป็นที่ถูกยอมรับจากทั่วโลก รวมถึงได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงเศรษฐการไต้หวัน
ลูกค้าส่วนใหญ่ของ AMITA คือ บรรดาแบรนด์มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า EV ที่มีจำหน่ายในไต้หวัน อาทิเช่น CMC, KOLA, EVT, SWAP รวมถึงรถเมล์ไฟฟ้า และบรรดาอุตสาหกรรมที่ต้องใช้ระบบ ESS ( Energy Storage System ) เป็นต้น
เมื่อดีลจบ ทาง EA ก็เข้าไปถือหุ้น AMITA จนสุดท้ายตอนนี้ EA เข้าไปถือหุ้นจำนวน 77.21% ทาง AMITA จึงเป็นบริษัทลูกของ EA และ ทาง EA ก็ได้มีแผนจะตั้งโรงงานผลิตแบตเตอรี่นี้ที่เมืองไทยเริ่มต้นที่ 1GWh และวางแผนการผลิตให้ได้ถึง 50GWh ด้วยงบลงทุนนับแสนล้านบาท เป็นโรงงานที่ทันสมัยที่สุดใช้ Robot & AI ทำงานให้มากที่สุด โดยโรงงานแห่งนี้กำลังก่อสร้างอยู่ที่ BlueTech City ฉะเชิงเทรา ซึ่งมีแผนจะเสร็จดำเนินงานได้ในปี 2563 นี้
EA จะขายแบตเตอรี่ ?
ทาง EA ที่ตั้งโรงงานแบตเตอรี่ลิเที่ยมไอออน ที่ใช้เทคโนโลยีของ AMITA ในไทย ไม่ใช่เพราะ EA จะขายแบตเตอรี่ แต่ EA จะเป็น Solution Provider มากกว่า และ แบตเตอรี่ที่ผลิตได้นี้จะมาสนับสนุน ธุรกิจอีกอันของ EA เอง คือ รถยนต์ไฟฟ้า EV และ เรือไฟฟ้า EV นั่นเอง ซึ่ง EA มีธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า สัญชาติไทย คิดค้นและผลิตโดยคนไทย ยี่ห้อ MINE Mobility ซึ่งได้เปิดตัวรถตัวอย่างไปเมื่อช่วงมอเตอร์โชว์ที่ผ่านมา และมียอดจองรถ EV เข้ามา 4-5พันคัน จากสหกรณ์แท็กซี่ ซึ่งจะนำรถยนต์ไฟฟ้าเหล่านี้ไปเป็น รถแท็กซี่ และ EA จะพยายามทำราคาไม่ให้เกินคันละ 1ล้านบาทนิดๆ เพื่อจำหน่ายให้บุคคลทั่วไปต่อไปในอนาคต
รถไฟฟ้า EV ของ EA เน้นทำแท็กซี่ ?
เพราะต้องการให้ผู้คนคุ้นเคยกับรถไฟฟ้า EV ก่อน รวมถึง ไม่ต้องการทำตลาดแข่งกับแบรนด์ค่ายใหญ่ระดับโลก เพราะต้องทุ่มเงินทำการตลาดมหาศาล มาลุยตลาดตรงนี้ดีกว่า ทั้ง รถแท็กซี่ไฟฟ้า, รถเมล์ไฟฟ้า และ เรือโดยสารไฟฟ้า ซึ่งเป็นการได้ประโยชน์ วิน-วิน กันหมด ทั้งประหยัดเพราะไม่ต้องใช้นำมัน รักษาสิ่งแวดล้อม ไม่มีฝุ่น PM2.5
ค่ายรถยนต์ต่างๆพากันเปิดตัวรถไฟฟ้า EV แล้ว EA จะสู้ได้?
ทาง EA เมื่อมีแบตเตอรี่ มีรถไฟฟ้า EV แล้ว สิ่งที่ต้องมีเพื่อต่อจิกซอวให้ครบนั้นคือ สถานีอัดประจุไฟฟ้า (ชาร์ทไฟ) สำหรับรถไฟฟ้า EV นั่นเอง โดยใช้ชื่อว่า EA Anywhere และซึ่งธุรกิจนี้ทาง EA ได้เริ่มต้นไปแล้วร่วมกับพันธมิตรทั้งหลาย ทั้งกลุ่ม TCC ของเจ้าสัวเจริญ รวมถึง ห้างสรรพสินค้าสยามพาราก้อนและสยามเซ็นเตอร์ และพร้อมลงทุนรวมกว่า 1,000สถานีทั่วประเทศ ซึ่งกำลังจะเซ็น MOU กับพันธมิตรอีก 4รายใหญ่ๆ ได้แก่ เชฟลอน, บริดจสโตน, ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน และ CP-ALL หรือ 7-eleven โดยที่สถานีอัดประจุไฟฟ้านี้ การชาร์ทไฟฟ้า ลูกค้าสามารถทำได้ด้วยตัวเองผ่าน Mobile App และ ชำระเงินผ่านระบบ Payment ของ EA เอง ซึ่งไม่ว่าใช้รถค่ายไหน ก็สามารถใช้สถานีอัดประจุไฟฟ้าของ EA ได้ทั้งหมด
ภาพรวมธุรกิจพลังงานบริสุทธิ์ของ EA
ถ้าเรามองภาพใหญ่ธุรกิจของ EA (ไม่นับไบโอดีเซล) จะเห็นได้ว่า มีทั้งโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ , โรงไฟฟ้าพลังลม เพื่อผลิตไฟฟ้า, มีแบตเตอรี่ที่สามารถเอามาใช้ในระบบ ESS ไว้สำรองไฟ จ่ายไฟ แทนเครื่องปั่นไฟที่ใช้น้ำมัน และแบตเตอรี่ใช้กับยานยนต์ไฟฟ้า EV , มีธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า EV ที่สามารถผลิตขึ้นเอง , มีสถานีอัดประจุไฟฟ้า ชาร์ทไฟฟ้า สำหรับยานยนต์ EV ทุกยี่ห้อ รวมถึงระบบ Mobile App และ Payment เป็นของตัวเอง ซึ่งครบวงจรมาก ตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำเลยทีเดียว
EA จะทำอะไรต่อ ?
เมื่อได้มีโอกาสสอบถามคุณสมโภชน์ว่า อนาคตจะทำอะไรเพิ่มอีกไหม ทางคุณสมโภชน์บอกว่า อยากทำตรงนี้ให้ดีที่สุดก่อน ลูกน้องตอนนี้ก็ยุ่งกันหมด ต้องการทำให้ตามแผนงานที่วางไว้ และตัวเองจะเข้าไปเน้นเรื่อง Human Resource เพื่อเตรียมคนให้พร้อมกับธุรกิจที่กำลังขยาย เพราะโรงงานแบตเตอรี่นี้ถ้าเปิดขึ้นมาจะต้องมีคนที่มีความรู้เฉพาะด้านเยอะทีเดียว ทั้งหมดนี้ก็เพื่อยกระดับอุตสหกรรมทั้งรถยนต์และพลังงานไทย คุณสมโภชน์อยากตอบแทนประเทศไทย ให้คนไทยได้ภูมิใจว่า คนไทยก็ทำได้ คนไทยเก่งไม่แพ้ชาติใด แต่ถ้ามีโอกาสใหม่ๆเข้ามา น่าสนใจก็พร้อมที่จะลุยเพิ่มในอนาคตเพราะ EA มีความพร้อม เงินสดเยอะมาก แบงค์ก็พร้อมปล่อยกู้
คิดยังไงกับฉายาว่า อีลอน มัสก์ เมืองไทย ?
คุณสมโภชน์ตอบสั้นๆว่า อย่าเอาไปเปรียบเทียบเลย อีลอน มัสก์ เขาทำหลายอย่างเยอะไปหมด ที่เขาเอามาเปรียบเทียบเพราะผมกำลังทำรถยนต์ไฟฟ้าของคนไทยเท่านั้นเอง
คิดยังไงกับเศรษฐกิจประเทศไทยตอนนี้ ?
เศรษฐกิจไม่ดีอย่างที่หวัง ไม่มีการลงทุนใหญ่ๆจากต่างประเทศเข้ามา ต่างชาติก็ย้ายแผนการลงทุนไปที่อื่น ทุกอย่างแพงไปหมด เมืองไทยไม่น่าดึงดูดอีกต่อไป เป็นสิ่งที่ต้องแก้ไข เมืองไทยกำลังไฟไหม้บ้านตัวเอง
บทสรุป
จากการที่ได้พูดคุยกับคุณสมโภชน์ อาหุนัย จากการไปทริปครั้งนี้ ทำให้ทราบได้ว่า ชายอายุ 51คนนี้ เป็นคนไม่ถือตัว ยิ้มแย้ม อารมณ์ดี สุขุม เรียบง่าย สามารถนั่งทำงานเคลียร์อีเมล์ที่ฟู๊ดคอร์ทได้ ดูเป็นคนธรรมดาอย่างเราๆนี่แหละ จนประทับใจว่า นี่หรือคนที่รวยเป็นแสนล้าน ได้ขึ้นปกนิตยสารต่างๆมานับไม่ถ้วน แต่พอได้พูดคุยด้วยเท่านั้น ก็จะได้ทราบถึงความคิด วิชั่น มุมมองต่างๆ ความรู้ที่แน่น สามารถอธิบายทุกอย่างแบบลงลึกได้หมดทุกเรื่อง อธิบายเรื่องยากให้เข้าใจได้ง่าย จึงทำให้ได้คำตอบ ทำไม EA บริษัทอายุแค่ 13ปี มาไกลขนาดนี้ และตัวคุณสมโภชน์เอง ก็ติดอันดับ Top10 อภิมหาเศรษฐีของเมืองไทย ในยุคนี้เช่นกัน