ส่องเทรนด์ตลาดธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งวัสดุก่อสร้างเมืองไทย และโอกาสธุรกิจของ “DOHOME” หนึ่งในศูนย์รวมวัสดุก่อสร้าง และอุปกรณ์ตกแต่งบ้านครบวงจรที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ

  • 554
  •  
  •  
  •  
  •  

[บทความนี้เป็น Advertorial]

การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของครอบครัวไทยที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจนในช่วงทศวรรษนี้ คงไม่พ้นเรื่องของขนาดครอบครัว ซึ่งในอดีตคนไทยนิยมอยู่กันเป็นครัวเรือนใหญ่ แต่ปัจจุบันครอบครัวมีขนาดเล็กลงและมีสมาชิกน้อยคน ทำให้ถึงแม้จำนวนประชากรจะเพิ่มขึ้นระหว่างปี 2551 – 2560 ในอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) เพียง 0.4% แต่จำนวนบ้านในประเทศไทยระหว่างปี 2551 – 2560 มีอัตรา CAGR ที่ 2.5% ซึ่งสูงกว่าอัตราการเติบโตของจำนวนประชากรในช่วงเวลาเดียวกัน โดยบ้านส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัด ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคเหนือ และภาคใต้ ตามลำดับ

การเติบโตของจำนวนครัวเรือนและประชากรในพื้นที่ต่าง ๆ ทำให้ภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคและกิจการโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเชื่อมโยงแต่ละพื้นที่ ทำให้ความเป็นเมือง (Urbanization) เริ่มขยายตัวและมีการพัฒนาในด้านต่าง ๆ ตามมา เหล่านี้เป็นปัจจัยผลักดันให้ความต้องการใช้วัสดุก่อสร้างมีทิศทางที่เพิ่มขึ้น ตามความต้องการที่อยู่อาศัยที่สูงขึ้น สอดคล้องกับอัตรา CAGR ของสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยส่วนบุคคลระหว่างปี 2553 –  ไตรมาส 1 ปี 2562 ซึ่งเติบโตต่อเนื่องที่ระดับกว่า 9.5% ต่อปี

สำหรับภาพรวมมูลค่าตลาดค้าปลีกและค้าส่งวัสดุก่อสร้างระหว่างปี 2550 – 2561 นั้นเติบโตที่อัตรา CAGR 5.6% โดยร้านค้าเฉพาะอย่างและร้านค้าปลีกวัสดุก่อสร้างเป็นช่องทางการจัดจำหน่ายที่มีสัดส่วนยอดขายสูงสุด ขณะที่ร้านค้าวัสดุก่อสร้างสมัยใหม่รายใหญ่หรือ Modern Trade ถือเป็นช่องทางใหม่มาแรง และมีมูลค่าตลาดที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดระหว่างปี 2550 – 2561 ในอัตรา CAGR สูงกว่า 15.8% โดยศูนย์วิจัยกรุงศรีคาดการณ์ว่า Modern Trade จะยังมีแนวโน้มเติบโตต่อในอนาคต ถึงแม้จะมีภาวะการแข่งขันที่ค่อนข้างดุเดือดในตลาด

โดยร้านค้าวัสดุก่อสร้าง Modern Trade ในเมืองไทยมีผู้เล่นรายใหญ่อยู่เพียงไม่กี่ราย และหนึ่งใน Top 5 ของผู้เล่นรายใหญ่นั้นคือ บริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน) หรือ “DOHOME” ศูนย์จำหน่ายวัสดุก่อสร้างและตกแต่งบ้านแบบครบวงจร (One-stop Home Products Destination) ปัจจุบันดูโฮมมีสาขาที่เปิดดำเนินการแล้วทั้งสิ้น 9 สาขา ซึ่งกระจายอยู่ในทั้งเขตปริมณฑลและหัวเมืองในต่างจังหวัดที่สำคัญ นอกจากนี้ ดูโฮมยังมีศูนย์กระจายสินค้าอีก 1 แห่ง ที่เพิ่งเปิดดำเนินการในปี 2561 ที่ผ่านมา

จุดเด่นที่ทำให้ดูโฮมสามารถยืนหยัดเป็นหนึ่งในผู้นำตลาดคือ เอกลักษณ์การเป็น One-Stop Home Products Destination” ซึ่งแต่ละสาขาจะมีสินค้าหลากหลายประเภท ตั้งแต่วัสดุก่อสร้าง เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์และเครื่องมือช่าง อุปกรณ์ทำสวน ตลอดจนอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน จึงครอบคลุมความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่มเป้าหมาย และมีการให้บริการที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้าง ต่อเติม และตกแต่งบ้านที่มีคุณภาพและครบวงจรในที่เดียว นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีการนำระบบจัดเก็บสินค้าอัตโนมัติ (ASRS) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่เข้ามาใช้ เพื่อบริหารจัดการคงคลังให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

นอกจากสาขาที่พร้อมให้บริการทั้ง 9 สาขาแล้ว ปัจจุบันบริษัทฯ มีการจัดจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อรองรับพฤติกรรมผู้บริโภคยุค 4.0 อีกทั้งยังวางแผนขยายสาขาให้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศในอนาคต และคาดว่าจะเปิดสาขาใหม่ที่จังหวัดสมุทรสาคร สุราษฎร์ธานี สมุทรปราการ ระยอง และพิษณุโลก โดยปรับรูปแบบสาขาให้มีขนาดเล็กลง และอาจพิจารณาติดตั้งระบบ ASRS ในบริเวณพื้นที่คลังสินค้าของสาขาอีกด้วย

นอกจากนี้ ดูโฮมเตรียมขยายธุรกิจจากเดิมที่มีแค่ร้านโมเดิร์นเทรดขนาดใหญ่ สู่รูปแบบสาขาขนาดเล็กที่จะเปิดให้บริการในพื้นที่ห้างสรรพสินค้าหรือซุปเปอร์มาร์เก็ต สำหรับเจาะกลุ่มลูกค้ารายย่อย โดยเน้นไปที่สินค้ากลุ่มวัสดุซ่อมแซมและตกแต่งบ้านเป็นหลัก เพื่อตอบโจทย์ความต้องการด้านการซ่อมแซมบ้านของลูกค้าที่อาศัยอยู่ในเขตเมือง ซึ่งสินค้ากลุ่มดังกล่าวยังเป็นสินค้าที่มีอัตรากำไรขั้นต้นค่อนข้างสูงอีกด้วย

ความมุ่งมั่นพัฒนาในทุก ๆ ช่องทางการจัดจำหน่าย การวางกลยุทธ์ธุรกิจเพื่อสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ความเข้าใจในลูกค้าและประสบการณ์ในตลาดกว่า 30 ปี ประกอบกับปัจจัยสนับสนุนจากการขยายตัวของภาพรวมตลาดธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งวัสดุก่อสร้างภายในประเทศ ทำให้ “ดูโฮม” มีโอกาสสร้างการเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง ก้าวสู่การเป็นผู้นำในธุรกิจวัสดุก่อสร้างและอุปกรณ์ตกแต่งบ้านแบบครบวงจรในประเทศไทยได้อย่างเต็มภาคภูมิ …

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.dohome.co.th

แหล่งข้อมูล

  1. รายงานการประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจโลก เดือนเมษายน 2562 โดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF)
  2. การสำรวจภาวะเศรษฐกิจและสังคมของครัวเรือน โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ
  3. ธนาคารแห่งประเทศไทย
  4. รายงานของศูนย์วิจัยเศรษฐกิจ ธุรกิจ และเศรษฐกิจฐานราก ธนาคารออมสิน
  5. รายงาน Current Issue ปี 14 ฉบับที่ 2096 โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย
  6. รายงานแนวโน้มธุรกิจ/ อุตสาหกรรม ปี 2561-63 ธุรกิจวัสดุก่อสร้าง เดือนกรกฎาคม 2561 โดยศูนย์วิจัยกรุงศรี

[บทความนี้เป็น Advertorial]


  • 554
  •  
  •  
  •  
  •