หลังการประกาศนโยบายแบนบริษัทจากจีนด้วยประเด็นเรื่องความมั่นคงของสหรัฐฯ โดยเริ่มจาก Huawei ที่ถูกตีตราให้กลายเป็นสัญลักษณ์ของประเทศจีนและรัฐบาลจีน ส่งผลให้หลายบริษัทสัญชาติอเมริกันต่างตบเท้าทยอยกันออกมายกเลิกความสัมพันธ์และความร่วมมือต่างๆ กับ Huawei ตามที่เป็นข่าวมาก่อนหน้านี้
ดูเหมือนผลกระทบของนโยบายดังกล่าวเริ่มส่งผลกระทบย้อนกลับมาที่สหรัฐฯ เอง จนกระทั่ง Russell T. Vought รักษาการผู้อำนวยการ สำนักงานการจัดการและงบประมาณ ทำเนียบรัฐบาล (White House) ได้ยื่นจดหมายถึง รองประธานาธิบดี Mike Pence และสมาชิกสภาคองเกรสถึง 9 คน ในการพิจารณาการแบน Huawei โดยในจดหมายระบุว่า
“การออกนโยบายห้ามคบค้ากับบริษัทจีนให้เสร็จสิ้นภายในระยะเวลา 1 ปีตามแผนที่วางไว้ จะทำให้บริษัทสัญชาติอเมริกันแบกรับความเสี่ยงทางธุรกิจมากเกินไป การยืดระยะเวลาในการห้ามคบค้ากับบริษัทจีนออกไปเป็น 2 ปีจะทำให้บริษัทสัญชาติอเมริกันมีเวลามากขึ้นในการปฏิบัติตามนโยบายดังกล่าว จากการรับฟังผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับเหตุการณ์นี้ฝ่ายบริหารเชื่อว่า การยืดระยะเวลาจะช่วยให้บริษัทสัญชาติอเมริกันสามารถดำเนินการตามนโยบายดังกล่าวได้ โดยไม่กระทบต่อวัตถุประสงค์ด้านความมั่นคงของชาติ
The enacting the ban within one year, as planned, would cause too much burden for American companies. The delay two-year of a ban would give companies more time to comply with the ban. The Administration believes, based on feedback from impacted stakeholders, that this additional preparatory work will better ensure the effective implementation of the prohibition without compromising desired security objectives.”
แม้จะยังไม่มีการตอบรับใดๆ กลับมา แต่ก็เป็นการผ่อนคลายความตึงเครียดของสถานการณ์สงครามการค้าสหรัฐฯ – จีน
Source: The New York Times, Reuters, Business Insider, The Washington Post