“ลัมโบร์กินี” แบรนด์รถยนต์ซูเปอร์คาร์หรู สัญชาติอิตาเลียน เป็นหนึ่งในความฝันของผู้คนทั่วโลกในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา ในฐานะยนต์กรรมที่มีความสมบูรณ์แบบ ภาพลักษณ์โดดเด่น หรูหรา ทันสมัย เป็นผู้นำด้านนวัตรกรรมยานยนต์ของโลก เป็นสัญลักษณ์แห่งความภาคภูมิใจ และความสำเร็จในชีวิตของผู้ครอบครอง
ในปีที่แล้วลัมโบร์กินี เพิ่งทำลายสถิติยอดขายสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของตนเอง และในปีนี้ลัมโบร์กินีจะยังคงรักษาการเติบโต พร้อมเปิดตัวซูเปอร์คาร์โฉมใหม่ “Lamborghini Huracán EVO” (ลัมโบร์กินี ฮูราแคน อีโว) ในประเทศไทย และเผยกลยุทธ์การตลาด จาก มัตเตโอ ออเทนซี่ (Matteo Ortenzi) CEO of Asia Pacific ออโตโมบิลี ลัมโบร์กินี บริษัทแม่ของลัมโบร์กินี ที่ให้สัมภาษณ์พิเศษถึงแผนการตลาดในประเทศไทย เพื่อ Marketing Oops! โดยเฉพาะ
2018 ปีแห่งความสำเร็จ ยอดขายทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ในปี 2018 ที่ผ่านมา ‘ลัมโบร์กินี’ ได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ฉลองครบรอบปีที่ 55 ให้กับตนเอง ตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทในปี 1963 ด้วยผลประกอบการที่ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ทั้งในแง่ยอดขาย และรายได้
ความสำเร็จของลัมโบร์กินี สะท้อนผ่านยอดขายที่เติบโตติดต่อกันถึง 8 ปี และในปี 2018 ที่ถือเป็นปีแห่งความสำเร็จ เพราะเป็นครั้งแรกที่ยอดขายรถยนต์ซูเปอร์คาร์ทะลุหลัก 5,000 คันมาได้ เป็นยอดขายที่เติบโตสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดดทุกภูมิภาคทั่วโลก จากยอดขาย 3,815 คันในปี 2017 เพิ่มขึ้นเป็น 5,750 คันในปี 2018 คิดเป็นอัตราการเติบโตสูงถึง 50.7%
ในส่วนของรายได้ ผลประกอบการของลัมโบร์กินีเติบโตสูงถึง 43.7% จากรายได้ 1,009 ล้านยูโร ในปี 2017 สู่ระดับ 1,450 ล้านยูโรในปี 2018
กลยุทธ์พัฒนา 2 ด้าน “สร้างเทคโนโลยีใหม่ และเพิ่มกำลังการผลิต”
ความสำเร็จครั้งนี้ เกิดจากการวางกลยุทธ์ ที่สเตฟาโน โดเมนิคาลี (Stefano Domenicali) ประธานบริหาร และ CEO ของลัมโบร์กินี ให้ความสำคัญกับการพัฒนาใน 2 ส่วน ส่วนแรกคือ การนำรถยนต์และเทคโนโลยีใหม่เข้าสู่ตลาดซูเปอร์คาร์ และส่วนที่สอง คือการเพิ่มกำลังการผลิตของโรงงานอีกเท่าตัว
ผลที่เกิดขึ้น ทำให้จำนวนและยอดขายของรถยนต์ซูเปอร์คาร์ออกมาดีเกินคาด โดยเฉพาะในรุ่นเครื่องยนต์ V10 และ V12 ที่ต่างทำยอดขายทุบสถิติใหม่ และได้แรงหนุนจากการเปิดตัว ‘ลัมโบร์กินี อูรุส’ (Urus) ซูเปอร์เอสยูวี คันแรกของโลก ที่สร้างยอดขายได้ถึง 1,761 คัน หลังจากทยอยส่งมอบในเดือน ก.ค. ปี 2018
ในส่วนของกำลังการผลิต ลัมโบร์กินีขยายกำลังการผลิต โดยจ้างพนักงานเพิ่มขึ้นเป็น 1,750 คน ในปลายปี 2018 เพิ่มขึ้น 10% จากปีก่อน และหากเปรียบเทียบกับช่วง 5 ปี ก่อนหน้า ลัมโบร์กินีมีพนักงานเพิ่มขึ้นจากปี 2013 ถึง 70%
เปิดตัว “Lamborghini Huracán EVO” โฉมใหม่ในไทย
จากตัวเลขที่สดใสในปี 2018 ทำให้ลัมโบร์กินีเชื่อว่า แรงหนุนนี้ จะส่งต่อไปถึงผลประกอบการในปี 2019 ให้สดใส และน่าประทับใจอย่างต่อเนื่อง โดยลัมโบร์กินีได้อาศัยจังหวะในช่วงเดือน มี.ค. ปี 2019 นี้ เปิดตัว “Lamborghini Huracán EVO” โฉมใหม่ในไทย โดยมีบริษัท เรนาสโซ มอเตอร์ จำกัด (ในเครือชาริช โฮลดิ้ง) เป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ลัมโบร์กินีอย่างเป็นทางการรายเดียวในประเทศไทย
“Lamborghini Huracán EVO” ซูเปอร์คาร์ดีไซน์สปอร์ตหรูใหม่ ใช้เครื่องยนต์ V10 รุ่นใหม่ล่าสุดของลัมโบร์กินี มาพร้อมพละกำลังสูงสุดถึง 640 แรงม้า และแรงบิด 600 นิวตันเมตร มีอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในเวลาเพียง 2.9 วินาทีและจาก 0-200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายใน 9 วินาที พร้อมทำความเร็วสูงสุดได้มากกว่า 325 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พร้อมประสิทธิภาพของหลักอากาศพลศาสตร์ที่ดีขึ้นกว่าเดิม 5 เท่า
นอกจากความสมบูรณ์แบบเรื่องเครื่องยนต์แล้ว “Lamborghini Huracán EVO” ยังมาพร้อมเทคโนโลยี “Lamborghini Dinamica Veicolo Integrata (LDVI)” ระบบสมองกลอัจฉริยะที่ประมวลผลความต้องการล่วงหน้าของผู้ขับขี่ จากการใช้งานตัวรถตามโหมดการขับขี่ จากนั้นจึงสั่งการควบคุมประสิทธิภาพการทำงานระบบต่างๆ ของตัวรถ เช่น ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ระบบเลี้ยวล้อหลัง ที่ตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถได้อย่างง่ายดายในทุกสถานการณ์
นอกจากนี้ “Lamborghini Huracán EVO” ยังมาพร้อมกับเอกลักษณ์ ที่สามารถเลือกสี เลือกการออกแบบทั้งภายในและภายนอกได้อย่างแตกต่างเฉพาะตัว พร้อมการตกแต่งภายในที่มีความหรูหรา ด้วย Carbon Forged Composites ที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของแบรนด์ลัมโบร์กินี “ในราคาเริ่มต้นที่ 24,590,000 บาท”
เคล็ดลับคือความใกล้ชิด และปรับแต่งได้ตามความต้องการ
มัตเตโอ ออเทนซี่ (Matteo Ortenzi) CEO of Asia Pacific ออโตโมบิลี ลัมโบร์กินี บริษัทแม่ของลัมโบร์กินี เปิดเผยความคาดหวังที่มีต่อการเปิดตัว Lamborghini Huracán EVO ว่า จะได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าชาวไทย เหมือนกลุ่มลูกค้าที่อื่นทั่วโลก เพราะ Huracán EVO เป็นซูเปอร์คาร์รุ่นที่มีพัฒนาการมาจากซูเปอร์คาร์รุ่นที่ประสบความสำเร็จอย่าง Lamborghini Huracán ที่เปิดตัวในปี 2014 ทั้งในด้านสมรรถนะและดีไซน์ ให้มีประสิทธิภาพ สวยงาม และมีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น
ซึ่งกลยุทธ์ในการเจาะกลุ่มลูกค้าชาวไทย เรายังคงเน้นความใกล้ชิดแบบตัวต่อตัวกับลูกค้า เพื่อสร้างประสบการณ์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การนำเสนอทางเลือกในการปรับแต่งรถยนต์อย่างเต็มรูปแบบ ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้ามากที่สุด
ตลาดประเทศไทยแม้ไม่ใหญ่ แต่มีศักยภาพ
สำหรับลูกค้าชาวไทย จะมีลักษณะคล้ายกับกลุ่มลูกค้าประเทศอื่นๆทั่วโลก คือ เป็นคนที่รักรถสปอร์ต ให้ความสำคัญกับปัจจัยด้านดีไซน์ และอารมณ์-ความรู้สึกในการขับขี่ โดยลัมโบร์กินีไม่ได้วางเป้าหมายลูกค้าอย่างชัดเจน ว่าจะต้องมีอายุ เพศ มีอาชีพแบบไหน หรือต้องเป็นใครแบบใดแบบหนึ่งเท่านั้น เราแค่อยากให้ทุกคนที่ได้ขับขี่รถยนต์ของเรา มีความสุขกับการขับขี่
แม้ตลาดในประเทศไทยจะมีขนาดเล็กเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่น แต่ประเทศไทยถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพการเติบโตในอนาคต (ตลาดที่ใหญ่ที่สุดของลัมโบร์กินี อันดับที่หนึ่งสหรัฐอเมริกา, อันดับสองญี่ปุ่น, อันดับสามสหราชอาณาจักร และตลาดที่เหลือมีขนาดใกล้เคียงกัน) โดยซูเปอร์คาร์ของลัมโบร์กินีที่เป็นขวัญใจชาวไทยมี 2 รุ่น คือ Aventador และ Huracán
ซึ่งความท้าทายที่เห็นในประเทศไทย และภูมิภาคนี้ คือกฎระเบียบที่มีแนวโน้มเข้มงวดมากขึ้น ทำให้ลัมโบร์กินีต้องตื่นตัว เตรียมพร้อมรับมือตลอดเวลา
ลูกค้าผู้หญิงเพิ่มมากขึ้น อายุเฉลี่ยสูงขึ้น
ปรากฎการณ์ที่เห็นล่าสุดในไทย และภูมิภาคนี้คือ อายุเฉลี่ยของลูกค้าเพิ่มมากขึ้น และลูกค้าที่เป็นผู้หญิงก็มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน จากในอดีตที่ลูกค้าผู้หญิงมีสัดส่วนต่ำมาก ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดี เพราะรถของเราไม่ได้ออกแบบมาเพื่อดึงดูดแต่ผู้ชาย หรือเพศใดเพศหนึ่งเท่านั้น เราอยากจะสร้างรถยนต์ที่ทำให้ลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามสามารถมีความสุขกับชีวิตได้
อีกหนึ่งข้อมูลที่น่าสนใจ ของลูกค้าที่ซื้อซูเปอร์เอสยูวี ลัมโบร์กินี อูรุส (Urus) พบว่า 70% เป็นลูกค้าที่มาจากแบรนด์อื่น
มองตัวเองเป็น “นักออกแบบประสบการณ์”
ที่ผ่านมา ยอดขายของลัมโบร์กินีในประเทศไทยเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง จากเป้าหมายในระยะสั้นที่ยังคงรักษาระดับการเติบโตในระดับนี้ต่อไปไม่มากไปกว่านี้ เพราะในปีหลังๆ ยอดขายได้เติบโตได้ติดต่อกันหลายปี โดยเป้าหมายของเราจะยังคงรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าให้ดีต่อไป เราถือว่าเราเป็นแบรนด์หรูหรา ที่อยากจะสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าผ่านผลิตภัณฑ์ เรามองตัวเองว่าเป็น “นักออกแบบประสบการณ์” ที่ต้องสร้างสิ่งที่ดีที่สุด มองหานวัตกรรม และเตรียมตัวรับมือกับความเปลี่ยนแปลงในอนาคตอยู่เสมอ
ถ้าลูกค้ารู้สึกว่ามีความใกล้ชิดกับเรา เป็น One-to-one relationship เราก็จะถือว่าเป้าหมายทางการตลาดของเราประสบความสำเร็จแล้ว นี่เป็นวิธีที่เราทำธุรกิจกับลูกค้า แต่อย่างไรก็ตามเป้าหมายในระยะกลาง หรือระยะยาว อาจปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม
ซูเปอร์คาร์กับเทคโนโลยีไฟฟ้า และการบูชาความสมบูรณ์แบบ
ในวันข้างหน้า ลัมโบร์กินีจะยังคงรักษาระดับการเติบโตในระดับนี้ต่อไป และรักษาความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมยานยนต์ ในอนาคตเทคโนโลยีไฟฟ้าจะเข้ามามีบทบาทที่สำคัญในอุตสาหกรรมนี้ ในก้าวต่อไปของลัมโบร์กินี เรามีแผนที่จะนำเทคโนโลยีไฮบริด และเครื่องยนต์ไฟฟ้ามาใช้ในรถสปอร์ต แต่การผลิตรถยนต์ลัมโบร์กินีที่ใช้พลังงานไฟฟ้า 100% ยังคงเป็นไปได้ยากในอนาคตอันใกล้ เพราะเทคโนโลยีไฟฟ้าที่มีอยู่ในปัจจุบัน ยังไม่พร้อมสำหรับรถยนต์ซูเปอร์คาร์ ที่เน้นให้ความสำคัญกับสมรรถนะของรถยนต์ ความเร็ว อัตราการเร่ง รวมไปถึงประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ และสมดุลในการควบคุมรถ เราจะไม่นำเทคโนโลยีใหม่มาใช้เพียงเพื่อบอกว่าเรามีเทคโนโลยีใหม่แล้ว แต่เราต้องมั่นใจว่าเทคโนโลยีใหม่นี้มีความสมบูรณ์ก่อน โดยเราจะไม่ยอมเสี่ยงสินค้าของเรากับความไม่สมบูรณ์แบบ
แบรนด์แห่งความฝันและแรงบันดาลใจ
ลัมโบร์กินี เป็นแบรนด์แห่งความฝันและแรงบันดาลใจของคนรุ่นใหม่ เวลาที่คุณมีความฝัน คุณจะต่อสู้เพื่อให้ฝันเป็นจริง และเมื่อคุณต้องต่อสู้เพื่อให้ได้อะไรบางอย่างมา คุณก็จะทุ่มเทอย่างดีที่สุด
สำหรับการสื่อสารกับคนรุ่นใหม่ เรารู้วิธีที่จะสื่อสารอย่างจริงใจและตรงไปตรงมา ผ่านช่องทาง และวิธีการสื่อสารที่เหมาะกับคนรุ่นใหม่ ซึ่งเราเป็นค่ายรถยนต์หรูในโซเชียลมีเดีย ที่มีคนติดตามเป็นจำนวนมาก หรือการสื่อสารผ่านเกม เพื่อสร้างความใกล้ชิดให้กับคนรุ่นใหม่ ที่มีโอกาสเติบโตกลายเป็นลูกค้าของเราในอนาคต ในทางกลับกัน แม้ว่าคนกลุ่มนี้จะไม่ได้กลายเป็นลูกค้าของเราในอนาคต แต่เราก็อยากให้คนมีความฝัน เพราะความฝันจะทำให้เราต่อสู้ หรือพัฒนาตัวเองต่อไปในอนาคต
หมายเหตุ: สาวกกระทิงดุสามารถร่วมสัมผัสความหรูหรา โฉบเฉี่ยวของ ซูเปอร์สปอร์ตคาร์รุ่นใหม่ ได้ที่ “ลัมโบร์กินี กรุงเทพฯ” โชว์รูมและศูนย์บริการครบวงจรขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียแปซิฟิก ถนนวิภาวดีรังสิต สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 02-512-5111 พร้อมกันนี้แฟนพันธุ์แท้รถยนต์ลัมโบร์กินี ยังสามารถพบตัวจริงของ Lamborghini Huracán EVO ได้ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 40 (The 40th Bangkok International Motor Show 2019) ณ ชาเลนเจอร์ฮอลล์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี วันที่ 27 มี.ค. – 7 เม.ย. 2019
ผู้เขียน: จิรัฐิติ ขันติพะโล ผู้สื่อข่าวด้านเศรษฐกิจและการลงทุน
